playinone.com
รีวิวหนัง ซีรีส์ Netflix HBO Prime Disney+ Apple TV+ สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว As You Stood By ฆ่าไม่เงียบ (Netflix) ความรุนแรงในครอบครัวที่ไต่ระดับถึงฆาตกรรม

Summary

โดยรวมเป็นซีรีส์ให้บทเรียนเรื่องความรุนแรงในครอบครัวและการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ซับซ้อนผ่านเรื่องราวที่เข้มข้นและดราม่าลึกซึ้ง ซึ่งเรื่องเดินหน้าได้สนุกแม้จะมีช่วงยืดๆ กับ 4 ตอนแรกกว่าจะถึงฉากฆาตกรรมอำพราง โดยใช้แผนการหาคนมาสวมรอยตัวตนสามี ทำให้เรื่องช่วงหลังคือการเล่าเรื่องผลลัพธ์ของการกระทำจากสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งพาให้เรื่องลุกลามขึ้นไปใหญ่โตมากเกินกว่าแค่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว สถานการณ์ต่างๆ รุมเร้ากดดันทำให้สองตัวเอกหญิงสาวแทบไร้ทางออก แต่ก็มีตัวช่วยเป็นเหมือนพระเอกของเรื่องที่มาเพียงแค่บทบาทช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ได้มีดราม่าโรแมนติกอะไร เน้นให้เรื่องราวดูอบอุ่นลดโทนดาร์คของเหตุการณ์ที่ดูเหมือนไร้ทางออกได้ดี พร้อมกับตอนจบที่ตรงไปตรงมาตามจริง และสะท้อนปัญหานี้ให้กับสังคมว่าไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่รวมถึงคนที่รับรู้แล้วเพิกเฉย ด้วยเจตนาดี แต่ผิดในการแก้ปัญหา แต่ก็ต้องเน้นย้ำว่าตัวบทมีปัญหาการกระทำหลายอย่างที่ไม่เมคเซนส์มากๆ จนดูแล้วสะกิดต่อมเอ๊ะได้ตลอดทางไปจนจบ เพียงแต่ว่าผู้ชมสามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้จากความสนุกลื่นไหลที่เรื่องยังทำได้ดีตั้งแต่ต้นจบจบครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่รุนแรงกว่าที่เห็นมาก
  • นักแสดงเล่นได้ดีมาก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เรื่องมีหลายจุดที่การกระทำตัวละครไม่สมเหตุผลมาก

ADBRO

As You Stood By ฆ่าไม่เงียบ ซีรีส์เกาหลี Original Netflix 8 ตอนจบ แนวดราม่าทริลเลอร์ เมื่อผู้หญิง 2 คนวางแผนฆาตกรรมเพื่อหาทางหลุดพ้นจากความรุนแรงในชีวิตแต่งงาน ผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึงก็เข้ามาทำให้แผนการที่วางไว้อย่างดีของพวกเธอต้องสั่นคลอน

 

รีวิว As You Stood By ฆ่าไม่เงียบ (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์เกาหลีแนวอาชญากรรม-ระทึกขวัญที่เล่าเรื่องของสองสาวเพื่อนรักคือ อึนซู และ ฮีซู ซึ่งต่างมีบาดแผลจากความรุนแรงในครอบครัวและชีวิตคู่ ฮีซู ถูกสามีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ส่วน อึนซู เป็นหญิงสาวที่เคยเห็นแม่ถูกทำร้ายในวัยเด็ก ทั้งคู่จึงร่วมมือกันวางแผนฆ่าสามีที่ใช้ความรุนแรงเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากนรก แต่ก็ต้องพบกับความเลวร้ายกว่าที่ตามมาหลังจากนั้น

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องการก่ออาชญากรรม แต่เน้นที่การสำรวจความรู้สึก ความไว้ใจ และแรงผลักดันของตัวละคร ชวนตั้งคำถามถึงความหมายของความไว้วางใจในโลกที่เต็มไปด้วยภาพลวงตาและความรุนแรงที่เจือปนอยู่ในความสัมพันธ์ของตัวละครในคู่รักและครอบครัว จากการปิดบังความจริงที่เกิดขึ้นทั้งจากตัวเหยื่อและคนรอบข้างเอง โดยคิดว่านี่เป็นความรักที่บิดเบี้ยว ยอมให้อีกฝ่ายลงมือเพราะมีความรักหลงเหลืออยู่ ซึ่งนี่คือวิธีที่ผิดเพียงเพื่อรักษาครอบครัวของตัวเอง จนกลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงที่สุด ซึ่งเหยื่อก็ตายทั้งเป็นทางจิตใจจนนำไปสู่ความคิดฆ่าตัวตาย หรือไม่ก็เป็นแบบในเรื่องนี้คือการก่อคดีฆาตกรรม ซึ่งในเรื่องนี้คือ “ฆาตกรรมอำพราง” ที่พาให้ตัวละครมีเรื่องราวซับซ้อนขยายใหญ่โตมากขึ้นเรื่อยๆ 

ซีรีส์สร้างเรื่องราวการวางแผนคดีฆาตกรรมอำพรางสามีอยู่ 4 ตอน โดยเริ่มจากการไปพบแรงงานต่างด้าวจากจีนที่หน้าเหมือน จินพโย (รับบทโดย Jang Seung-jo เล่นเป็น 2 ตัวละครที่แตกต่างกัน) สามีของเธอ ทั้งคู่จึงร่วมกันวางแผนฆ่าสามีโดยให้เขามาสวมรอยแทนและหนีไปต่างประเทศให้เป็นหลักฐานอำพรางอาชญากรรมที่ก่อขึ้น ซึ่งทำให้เรื่องกลายเป็นการวางแผนเอาตัวรอดจากความผิดที่ก่อ แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นตามแผนที่วางไว้และค่อยๆ พังทลายลงในที่สุด โดยมีตัวหลักที่มาเกี่ยวข้องคือน้องสาวของสามีที่เป็นตำรวจและรู้เรื่องการกระทำของพี่ชายตัวเองกับพี่สะใภ้มาตลอด แต่ด้วยความที่อยากไต่เต้าเลื่อนตำแหน่งขึ้นไป ทำให้เธอหาทางปกปิดความเลวร้ายที่เกิดขึ้น ซึ่งนั่นทำให้เรื่องยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ 

ในเรื่องยังมีตัวละครสมทบสำคัญคือ จินโซแบค (รับบทโดย Lee Moo-saeng) เจ้าของบริษัทใหญ่ที่เป็นผู้สนับสนุนลับในแผนการของสองสาว เขาไม่ใช่คนดีโดยสมบูรณ์แต่มีความเข้าใจและเห็นความเปราะบางของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง มีบทบาทสำคัญในเรื่องที่แสดงความซับซ้อนของตัวละครในโลกที่เต็มไปด้วยการเสแสร้งและหน้ากากต่าง ๆ เป็นตัวละครที่มาในบทบทแสงแห่งความหวังที่นางเอกทั้งสองคนได้เกาะเกี่ยวไว้เป็นที่พึ่งในยามที่มองไม่เห็นทางออก 

 

ซีรีส์เล่าเรื่องในมุมมองจากเรื่องปัญหาในครอบครัวเล็กๆ จนมาถึงปัญหาระดับชาติในตอนท้ายเพราะตัวละครที่เกี่ยวข้องและกระทำสิ่งเหล่านี้ได้มักมีอำนาจหน้าตาทางสังคมที่ตรงข้ามกับสิ้งเลวร้ายที่ซุกซ่อนไว้ในครอบครัว ซึ่งสะท้อนความรุนแรงในสังคมชายเป็นใหญ่ของเกาหลีที่เป็นปัญหามานานและยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งซีรีส์พยายามสะท้อนปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมาและเรียกร้องให้สังคมตระหนัก แม้จะรู้ว่าไม่ได้ผลเพราะมีความพยายามใช้ซีรีส์เล่าเรื่องทำนองนี้มาตลอด แต่ก็นับว่าน่าชื่นชมที่ซีรีส์ตั้งใจทำให้เห็นผลลัพธ์สุดท้ายของสองตัวเอกอย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง แต่ก็สวยงามในแนวทางซีรีส์เกาหลีที่ไม่ทำร้ายจิตใจผู้ชม

 

ซีรีส์ถือว่าเล่าเรื่องได้ดีมีความสนุกผสมดราม่าเรื่องราวที่ซับซ้อนหักมุมเป็นบางครั้ง แต่ว่าตัวเรื่องก็มีจุดด้อยที่เป็นบาดแผลใหญ่เลยคือ ความไม่สมเหตุผลหลายๆ อย่างของเรื่องที่ดูแล้วคนเขียนบทมองข้ามหรือตั้งใจข้ามไป อย่างการลงมือฆาตกรรมสามีที่วางแผนใช้เชือกรัดคอสองคน ทั้งๆ ที่ตัวเธอเป็นแม่บ้านที่วางยาสามีให้หลับหรือยาพิษเลยก็ได้ แต่กลับเลือกทางที่ลำบากกว่ามาก เพียงเพื่อจะให้เป็นฉากที่สองคนช่วยกัน ซึ่งในตอนหลังก็มีการใช้ยาแบบนี้ ซึ่งฉากแบบนี้มีหลายจุดที่ดูแล้วชวนให้เอ๊ะกับการกระทำของตัวละครค่อนข้างมากครับ

 

สรุป

โดยรวมเป็นซีรีส์ให้บทเรียนเรื่องความรุนแรงในครอบครัวและการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ซับซ้อนผ่านเรื่องราวที่เข้มข้นและดราม่าลึกซึ้ง ซึ่งเรื่องเดินหน้าได้สนุกแม้จะมีช่วงยืดๆ กับ 4 ตอนแรกกว่าจะถึงฉากฆาตกรรมอำพราง โดยใช้แผนการหาคนมาสวมรอยตัวตนสามี ทำให้เรื่องช่วงหลังคือการเล่าเรื่องผลลัพธ์ของการกระทำจากสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งพาให้เรื่องลุกลามขึ้นไปใหญ่โตมากเกินกว่าแค่ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว สถานการณ์ต่างๆ รุมเร้ากดดันทำให้สองตัวเอกหญิงสาวแทบไร้ทางออก แต่ก็มีตัวช่วยเป็นเหมือนพระเอกของเรื่องที่มาเพียงแค่บทบาทช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ได้มีดราม่าโรแมนติกอะไร เน้นให้เรื่องราวดูอบอุ่นลดโทนดาร์คของเหตุการณ์ที่ดูเหมือนไร้ทางออกได้ดี พร้อมกับตอนจบที่ตรงไปตรงมาตามจริง และสะท้อนปัญหานี้ให้กับสังคมว่าไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่รวมถึงคนที่รับรู้แล้วเพิกเฉย ด้วยเจตนาดี แต่ผิดในการแก้ปัญหา แต่ก็ต้องเน้นย้ำว่าตัวบทมีปัญหาการกระทำหลายอย่างที่ไม่เมคเซนส์มากๆ จนดูแล้วสะกิดต่อมเอ๊ะได้ตลอดทางไปจนจบ เพียงแต่ว่าผู้ชมสามารถมองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้จากความสนุกลื่นไหลที่เรื่องยังทำได้ดีตั้งแต่ต้นจบจบครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ
------------------------------------------------------------