รีวิวสารคดี MH370 Netflix เน้นฟิคชั่นทฤษฎีสมคบคิดจนมีแต่น้ำแทบทั้งเรื่อง

สารคดี MH370 เครื่องบินที่หายไป (MH370: The Plane That Disappeared) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 เครื่องบิน Malaysia Airlines เที่ยวบินที่ 370 หายไปจากจอเรดาร์ เมื่อคนบนเรือ 239 คนหายไป การสืบสวนระดับโลกเกี่ยวกับความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคใหม่ก็เกิดขึ้น แม้จะมีรายงานอย่างเป็นทางการ ทฤษฎีนับไม่ถ้วน และการค้นหาหลักฐานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่ – เราพลาดอะไรไป?

 

รีวิว MH370: The Plane That Disappeared

สารคดีที่พยายามเจาะลึกเรื่องราวปริศนานี้ โดยแบ่งเรื่องเป็น 3 ตอนกับทฤษฎีสมคบคิด 3 อย่าง ซึ่งถ้าใครตามเรื่องราวข่าวมาบ้างก็จะพบว่าไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากที่รู้กันอยู่แล้ว นอกจากการเล่าลำดับเหตุการณ์ในตอนแรก ที่เหลือก็มีเพียงการเติมเรื่องราวที่มาของทฤษฎีจากตัวต้นคิด ซึ่งทฤษฎีแรกที่ได้ยินกันมากสุดคือการที่นักบินหลักจงใจพาทุกคนไปตายกลางทะเล ซึ่งทฤษฎีนี้มีความเป็นไปได้มากสุดในตอนแรกจากการสืบสวนจริงจังและยาวนานที่สุด แต่อีก 2 ทฤษฎีในเรื่องที่ว่ารัสเซียไฮแจ็คเครื่องไปเพื่อสร้างข่าวใหญ่กลบการบุกยืดแหลมไครเมียในยูเครน กับอีกทฤษฎีคือมีสินค้าความลับสุดยอดของอเมริกาซุกซ่อนอยู่กำลังส่งไปจีน ทำให้อเมริกาต้องเข้ามาจัดการไม่ให้ไปถึง ตัวสารคดีให้น้ำหนักเล่าเรื่องสองทฤษฎีนี้มากแบบเป็นตุเป็นตะจนเหมือนช่วยกระพือแสงให้คนตั้งทฤษฎีนี้มีแสงเพิ่มจากที่จะจางๆ หายไปแล้ว มากกว่าจะเป็นการไขข้อเท็จจริง เพราะในเรื่องก็แทบไม่มีการนำสืบโต้แย้งอะไรมากกับสองทฤษีนี้เลย ซึ่งนี่เป็นความผิดพลาดมากในการพยายามเล่าสารคดีเรื่องนี้ที่คนดูคงต้องการนำ้หนักหลักฐาน มากกว่าเรื่องแต่งฟิคชั่นแบบที่นำเสนอมา 

แต่กระนั้นตัวสารคดีก็ยังมีข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจ อย่างที่มาของชายผู้พยายามตามหาเศษซากเครื่องบินจนโด่งดัง แต่ก็ยังมิวายมีทฤษฎีสมคบคิดต่อไปอีกว่าเชื่อมโยงกับรัสเซีย โดยมาจากผู้ตั้งทฤษฎีรัสเซียไฮแจ็คในเรื่องนี้เองอีก ซึ่งดูเหมือนตัวสารคดีแทบจะเน้นจับผิดข้อมูลหลักฐานทางการมากกว่าจะเป็นการไขปริศนา

โดยรวมนี่เป็นสารคดีสืบสวนที่มีแต่น้ำมากเนื้ออย่างที่คิด แนะนำหาดูเอาจากช่องยูทูปไทยเลยก็ได้ ยังอาจจะได้ข้อมูลที่ละเอียดเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าสารคดีนี้ครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่