playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว ไบค์แมน 2 จากตลกดราม่าซึ้งประทับใจ กลายเป็นหนังตลกตีหัวเข้าบ้าน หาเงินเข้ากระเป๋านายทุนไปแทน

ไบค์แมน 2

สรุป

หนังตลกที่ยังมีมุกตลกพอขำๆ ไปตลอดเรื่อง แต่ในส่วนเรื่องราวดราม่าความประทับใจแบบภาคแรกหดหายไปเกือบหมด กลายเป็นหนังตลกตีหัวเข้าบ้าน หาเงินเข้ากระเป๋านายทุนไปแทน
(ภาคก่อนผมให้ 8 คะแนน)

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
4 (2 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • การแสดงของนางเอกมีเสน่ห์มากๆ
  • หนังพอมีตลกขำได้ตลอดเรื่องอยู่

Cons

  • ใช้สูตรมุกตลกจากภาคแรกมารีไรท์ใหม่เยอะไป
  • ยัดเยียดฉากตลกจนไม่เป็นธรรมชาติ
  • ยัดโฆษณาแกร๊บไบค์เข้ามาตรงๆ จนน่าเกลียดไป

ไบค์แมน 2 ภาคต่อของหนังไทยม้ามืดปีก่อน ที่แจ้งเกิดเป็นหนังตลกน้ำดีที่ซ่อนดราม่าประทับใจเอาไว้ในเรื่องราวอย่างไม่น่าเชื่อ หน้าหนังดูจากเทรลเลอร์ไม่มีส่วนนี้เลย แต่หนังกลับผูกปมเรียกน้ำตาไว้อย่างดีงาม ซึ่งเมื่อน้ำขึ้นก็ต้องรีบตัก ผู้สร้างก็ไม่รอช้าคิดบทสดด่วนๆ เพื่อทำภาคต่อทันที กลายเป็นว่าจากหนังตลกน้ำดีที่หาได้ยากในเมืองไทย กลับกลายเป็นหนังตลกดาษดื่นตามท้องตลาดเมืองไทยไปซะงั้น

ตัวอย่างหนัง ไบค์แมน 2 (Bike man 2)


ภาคนี้เรื่องราวต่อจากตอนจบภาคแรกทันที ด้วยการมาของพ่อของจ๋าย (เต๋า สมชาย เข็มกลัด) ที่มากรุงเทพแล้วพบเจอศักรินทร์กำลังป้อล้อลูกสาวอยู่พอดี จึงตามไล่ล่าแล้วก็กลายเป็นเรื่องราวการขอทำความรู้จักครอบครัวของพระเอก ซึ่งก็กลายเป็นการยกเอาตัวตัวละครเก่ามายกก๊วน เรียกเสียงฮาให้เรื่องราวครั้งใหม่ที่มี “ศักดา” พ่อของจ๋ายเป็นศูนย์กลางของเรื่อง

ไบค์แมน 2
Bike man 2

เนื้อหาหลักภาคนี้บทเล่นวงแคบลงมากๆ ทุกอย่างโฟกัสไปที่ภารกิจพิชิตใจพ่อจ๋าย ซึ่งบทศักดาพ่อจอมบงการชีวิต หวงลูกสาวเป็นที่ 1 ไม่ได้มีมุกตลกให้ตบให้ชงแล้วหัวเราะโดยตรง แต่เป็นตลกจากท่าทางขึงขังของคาแรกเตอร์แบบนี้เอง ซึ่งเต๋าสมชายก็เล่นได้ดี มีความกวนเฮี๊ยบๆ จนกลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกหนังไบค์แมนเพิ่มมาอีกคนได้สบายๆ (และก็เป็นตัวละครหลักหน้าใหม่คนเดียวที่เพิ่มเข้ามาด้วย)

เมื่อหนังเล่นเรื่องราวต่อจากภาคแรกทันที แถมเลือกเล่นหลักๆ อยู่แค่ที่โลเกชั่นเล็กๆ ในบ้านต่างจังหวัดกับเหมืองระเบิดหินของพ่อจ๋าย ก็เลยกลายเป็นการหยิบยืมมุกภาคเก่ามาซะเยอะ อย่างมุกปลอมตัวของก๊วนวินมอเตอร์ไซด์ของศักรินทร์ก็ยกมาใช้แบบรีไรท์ใหม่แค่นั้น ตัวละครก็แทบไม่ได้มีพัฒนาการอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย แต่ถ้าใครประทับใจรักในตัวละครแบบเดิมๆ อยู่แล้ว ก็คงโอเคกับการยกมาทั้งกระบิชุดเดิมหมดแบบนี้

แต่ถ้าคาดหวังหนังตลกควบรวมกับดราม่าดีๆ แบบที่ภาคก่อนมีให้ ก็คงต้องทำใจยาก เพราะภาคนี้แทบไม่มีความลึกซึ้งของเนื้อหาดราม่าเลย เนื้อหาส่วนหลักมีแต่ความพยายามยัดเยียดมุกตลกจากภาคก่อนเข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เห็นจากในหนังตัวอย่างกันไปเกือบหมดแล้ว กลายเป็นหนังตลกสูตรสำเร็จที่อาจจะไม่แป๊ก แต่ก็ไม่ได้สำเร็จน่าประทับใจไปพร้อมกับดราม่าดีๆ ที่แฝงไว้ในเนื้อหาเนียนๆ แบบภาคแรก ซึ่งนี่เป็นส่วนสำคัญที่ผมคาดหวังว่าหนังจะยังคงรักษาไว้ แต่กลายเป็นว่าหนังละทิ้งส่วนที่ทำให้หนังดูประทับใจบอกต่อกันปากต่อปากนี้ไป ซึ่งนี่เป็นหัวใจหลักเลยที่ทำให้หนังทำรายได้ยืนยาวจนประสบความสำเร็จแบบม้ามืด

Bike man 2
Bike man 2

นอกจากนี้แก่นของเนื้อหาความพยายาม ความรัก ความทุ่มเทของศักรินทร์ในการพิชิตใจจ๋ายจากภาคแรกก็หดหายไป เหลือแค่ฉากพยายามเอาใจพ่อตาในอนาคตของศักรินทร์ ซึ่งก็เข้าใจว่าบทหนังโฟกัสไปที่ภารกิจตรงนี้ แต่ก็น่าจะเกลี่ยบทมายังเรื่องราวของทั้งคู่ให้มากขึ้น ซึ่งพอมันแห้งแล้งมาก อารมณ์กุ๊กกิ๊กน่ารักของทั้งคู่ก็เลยหายไปเกือบหมด กว่าจะมาก็โผล่ตอนท้ายเรื่อง ซึ่งเป็นอะไรที่แฟนเรื่องนี้ในภาคแรกน่าจะต้องการมากที่สุด มากกว่าพวกมุกตลกทั้งหลายในเรื่องเสียด้วยครับ

แม้ว่าบทรักกุ๊กกิ๊กจะน้อย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีส่วนนี้ออกมา จ๋ายก็ยังเล่นได้อย่างน่ารักน่าชัง ประกอบเข้ากับเสียงเหน่อเล็กๆ เป็นการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ เรียกว่าเป็นนางเอกที่แม้ไม่สวยเตะตา แต่ก็มีเสน่ห์เหลือล้นเกินตัวกับบทที่เหมาะเอามากๆ แบบนี้ เชื่อว่าไม่ใช่แค่ศักรินทร์ที่หลงรักจ๋าย แม้แต่เราคนดูก็ยังเทใจให้กับเธอจริงๆ แต่เสียดายที่เรื่องราวตามฝันการเป็นนักบินของจ๋ายไม่ได้มีสานต่อ เช่นเดียวกับศักรินทร์เองก็ไม่ได้มีพัฒนาการเพิ่มจากภาคก่อน จนแอบเสียดายว่าน่าจะเพิ่มประเด็นเรื่องราวความยากลำบากในการทำงานแบงค์มาด้วย (ซึ่งขนาดจ๋ายยังทนไม่ไหวลาออก) แต่พีช พชร จิราธิวัฒน์ ก็ยังคงการแสดงใสๆ ในบทอ่อนน้อมถ่อมตนแบบมีเสน่ห์ รวมเคมีที่เข้ากั้นเข้ากันกับบทนางเอกของจ๋าย ก็ทำให้ทั้งสองคนนี้สอบผ่านเป็นตัวชูโรงที่แบกหนังไว้ให้น่าติดตาม มากกว่าพวกมุกตลกจากตัวละครสมทบในเรื่องซะอีก

ไบค์แมน 2
ไบค์แมน 2

ในภาคนี้ยังมีความพยายามใส่สกิลนักบิดของพระเอกไว้กับเรื่องราวแอ็กชั่นช่วงไคลแม็กซ์ท้ายเรื่องเหมือนเดิม แต่เพิ่มความเว่อร์เข้ามาหลายเท่า ซึ่งก็เป็นอีกสูตรสำเร็จเดิมที่หยิบมาใช้นอกจากมุกตลก ซึ่งก็โอเคเข้ากันดีไม่มีอะไรให้ติ แค่ติดลูกโอเวอร์มากไปเท่านั้น

นี่เป็นหนังตลกที่ยังมีมุกตลกพอขำๆ ไปตลอดเรื่อง แต่ออกจะเป็นมุกที่จงใจยัดเข้าฉากมากไปหน่อย กลายเป็นความพยายามให้ตลกแบบไม่เป็นธรรมชาติมากไป ซึ่งก็แล้วแต่เส้นหัวเราะของแต่ละคน (ผมขำพอสมควร) ถ้าดูในโรงก็รับว่ายังทำเอาคนค่อนโรงขำได้อยู่ ซึ่งหนังคงสอบผ่านไปได้ แต่ก็เสียดายเรื่องราวดราม่าลึกซึ้งที่ผูกปมไปกับเรื่องราวดีๆ ในแบบภาคแรกหายไป แม้จะมีความพยายามยัดมาตอนท้าย แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเท่ากับในภาคแรกที่ทำไว้ได้ดีมากนัก ถ้ามีทำต่อในภาค 3 ก็หวังว่าจะหวนกลับมาให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากขึ้น ไม่งั้นหนังเรื่องนี้ก็คงกลายเป็นหนังตลกโหลๆ อีกเรื่องหนึ่งของไทยไปจนได้ครับ


รีวิว Terminator: Dark Fate ถึงได้เจมส์มาช่วย เนื้อเรื่องก็ยังป่วย ย่ำซ้ำรอยเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!