playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Anna เวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท การโกหกสีเทาเพื่อก้าวข้ามชนชั้นทางสังคมที่น่าหดหู่ (ไม่มีสปอยล์)

Anna

Summary

ซีรีส์เกาหลีที่ซูจีมาเล่นบทตัวเอกสีเทาๆ ครั้งแรก แต่นี่คือบทที่เป็นมนุษย์จริงๆ มากที่สุดเรื่องหนึ่งของเธอ มากกว่าโดยปกติที่เธอเล่นเป็นนางเอกละครทีวีเลยก็ว่าได้ โดยเป็นเรื่องราวของการโกหกแบบไม่ตั้งใจที่พลิกชีวิตให้เธอทั้งตกต่ำและรุ่งโรจน์ แต่ก็เหมือนกรรมที่กัดกินจิตใจตัวละครอยู่ตลอด ดราม่าในเรื่องหนักรันทดหดหู่ตลอดเรื่อง แอบเนือยๆ ค่อนข้างมากด้วยจากการเป็นเวอร์ชั่นเต็มไม่ตัดอะไรออกไปเลย แต่ก็สะท้อนความจริงของสังคมปัจจุบันที่ไม่ว่าใครก็คงพยายามเอาตัวรอดให้ได้ แต่เรื่องก็ไม่ได้ทำให้สิ่งที่เธอทำเป็นเรื่องถูกต้อง และยังบาลานซ์เรื่องราวเทาๆ กึ่งๆ ดี มีประเด็นการไถ่บาปที่ช่วยให้คนดูเอาใจช่วยนางเอกได้ดี พร้อมตอนจบที่ชวนลุ้นว่าเธอจะออกจากวังวนที่เธอสร้างขึ้นมาเองนี้ได้อย่างไร แต่ก็ต้องบอกว่าในเรื่องมีหลายจุดที่ดูไม่สมเหตุผลพอสมควร รวมถึงฉากจบส่งท้ายที่ขาดคำอธิบายที่ดีพอทำให้แม้รู้สึกชอบตอนจบพอสมควร แต่ก็รู้สึกติดใจกับการที่เรื่องมองข้ามความสมเหตุผลที่ควรมีอยู่เช่นกันครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • การพลิกบทมาเล่นแนวเทาๆ ติดดาร์คหน่อยๆ ของซูจี
  • แนวดราม่ารันทดผสมทริลเลอร์ระทึกนิดๆ ในช่วงหลัง
  • พูดถึงปัญหาชนชั้นทางสังคมจริงจัง
  • มีเรื่องการไต่เต้าทางการเมืองเป็นเมนหลักช่วงหลัง
  • เวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท 8 ตอนจบแบบเต็มๆ สมบูรณ์กว่า 6 ตอน

Cons

  • การเอาตัวรอดจากการโกหกของนางเอกมีบทไม่สมเหตุผลปะปนอยู่บ้าง
  • เล่าเรื่องค่อนข้างเนือยเรื่อยๆ ไต่ความพีคช้ามากอยู่
  • ไม่มีจุดพีคในตอนท้ายแบบละครทีวีปกติ
  • ตอนจบสุดท้ายไม่อธิบายเหตุผล ตัดข้ามเรื่องไปจนดูแปลกๆ

Anna อันนา เวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท 8 ตอนจบ ของผู้กำกับละครทีวีเกาหลีเรื่องแรก Lee Joo-Young มีความต่างจากเวอร์ชั่นปกติ 6 ตอนจบ ที่โดนตัดตอนหลายช่วงออกไปหลังลงสตรีมมิ่งเกาหลี Coupang Play  จนมีปัญหากับผู้กำกับของเรื่องถึงขั้นเตรียมฟ้องร้องกัน ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เริ่มฉายในเดือนนี้และลง Amazon prime video แบบ Exclusive ที่แรกในไทย โดยเนื้อหาเรื่องราวที่เพิ่มมาจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเหตุและตัวตนของตัวละครอันนาลึกๆ มากกว่าเวอร์ชั่น 6 ตอนจบที่หลายคนอาจจะได้ดูกันไปก่อนนี้บ้าง ซึ่งใน Prime มีทั้งสองเวอร์ชั่นให้เลือกดู ก็แนะนำว่าดูแบบไดเร็กเตอร์คัทเลยจะดีกว่า แม้หลายๆ ฉากจะค่อนข้างยืดยาวและโดนตัดออกไปให้กระชับขึ้นก็ตามที (ผู้เขียนลองดูเวอร์ชั่น 6 ตอนจบไป 2 ตอน และก็พบกว่าโดนจัดไปเยอะมากจริงๆ แต่หลายส่วนก็ไม่ได้มีปัญหากับเนื้อเรื่อง)
 Anna (2022) on IMDb

รีวิว Anna อันนา เวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท 8 ตอนจบ

อันนาคือเรื่องราวของยูมี เด็กสาวหน้าตาสวย เรียนเก่ง แต่บ้านยากจน เธอค่อนข้างประสบความสำเร็จในตอนเด็กจนก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเกิดเหตุพลาดพลั้งกับชีวิต ทำให้เธอไม่อาจจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามฝันที่ให้ไว้กับพ่อแม่ด้วย และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของการโกหกแบบไม่ได้ตั้งใจครั้งเดียวที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง

เรื่องนี้ก่อนดูได้ยินมาว่าเป็นการรับบทร้ายของซูจีครั้งแรก ซึ่งดูจากพล็อตก็อาจจะคิดแบบนั้นได้ แต่ความจริงซูจีก็ยังเล่นเป็นนางเอก และนี่ก็คือเรื่องราวของนางเอกสีเทาๆ ที่ดูเป็นมนุษย์จริงๆ มากกว่านางเอกแบบที่เธอเคยเล่นมาก่อนนี้มากมายจะถูกต้องกว่า เพราะความเทาๆ ในเรื่องนี้คือการโกหกแบบไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใคร และเธอก็ไม่ได้คิดจะโกหกไปตลอด แต่พยายามทำให้สิ่งนั้นเป็นจริง เพียงแต่ว่าเมื่อเรื่องราวดำเนินผ่านไปในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่เธอหวังมันกลับไปไม่ถึง และยิ่งเลือนรางลงเรื่อยๆ 

ตัวเรื่องไม่ได้ทำให้เรื่องโกหกตอนแรกเป็นความเลวร้ายต่อเนื่อง ซีรีส์ใช้เวลา 2 ตอนแรกปูเรื่องเต็มๆ นานพอที่ทำให้เราเห็นว่าเธอพยายามอย่างมากที่สุดแล้วที่จะอยู่ในสังคมที่คนรวยกดขี่คนจนยังไงก็ได้ ตัวละครของเธอต้องพบกับความอยุติธรรมแบบที่เรียกร้องไปก็ไม่มีใครช่วยได้ ซึ่งพอหมดหวังการโกหกแบบจริงจังจึงค่อยเกิดขึ้นต่อมา และก็ทำให้เห็นพัฒนาการของชีวิตอันนาเมื่อพยายามเดินในเส้นทางใหม่ที่เธอเองก็รู้ว่าไม่ถูก และกลัวความผิดที่ก่ออยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ได้มาก็คือการถูกนับหน้าถือตา ไม่ถูกดูถูกกดขี่แบบที่เคยเป็นมาในอดีต ซึ่งจะว่าไปก็ดูคล้ายๆ กับซีรีส์ฝรั่งเรื่อง แอนนา มายาลวง ของ Netflix ที่เป็นเรื่องจริงเช่นกัน จะเรียกว่าตัวละครแบบนี้มีตัวตนจริงๆ ในโลกนี้แล้วก็มีไม่น้อยเลยที่เป็นข่าว ซึ่งสังคมพอได้รับรู้ข่าวภายหลังก็จะมองว่านี่คือการกระทำของมิจฉาชีพ แต่ถ้ามาย้อนดูเรื่องราวเจาะลึกลงไป จะเห็นว่าพวกนี้มีจุดเริ่มที่คล้ายกันมากคือ บ้านจน พยายามแล้ว แต่สังคมปิดกั้น กดขี่ใช้แรงงานจนทำให้รู้สึกว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนตายคือถูกต้องหรือ? นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สมเหตุผลที่แม้อันนาจะทำไม่ถูก แต่ก็ต้องทำเพื่อดิ้นรนให้มีชีวิตรอดจากความทุกข์ทรมานที่ได้รับมาตลอด

ตัวเรื่องไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าอันนารู้สึกดีเลย เพราะในเรื่องแม้อันนาจะได้รับสิ่งดีๆ เข้ามา แต่ก็ต้องแลกกับการรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ตลอดเวลา แถมการที่เธอผ่านชีวิตแบบคนจนเป็นสาวรับใช้ขี้ข้าคนรวยมาก่อน พอมาอยู่ในสังคมชนชั้นนี้เธอถึงได้เห็นสิ่งเลวร้ายนี้เกิดขึ้นรอบตัวอยู่บ่อยๆ และอันนาก็ไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่จะยื่นมือเข้าไปช่วยก็ไม่ได้อีก ซึ่งนี่เป็นตัวละครที่เรียกว่าคนดีที่ตกที่นั่งลำบาก มากกว่าตัวละครดาร์คแบบที่เข้าใจในตอนแรก บทนี้คือนางเอกที่ออกเทาๆ แต่เนื้อแท้ก็ยังเป็นคนดีที่ทำให้ผู้ชมเอาใจช่วยเธอได้สนิทใจอยู่ แถมออกจะรู้สึกสงสารกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมากกว่าจะหมั่นไส้หรือแช่งให้รับกรรมอะไร 

ตัวเรื่องจบลงแบบดี ไม่ต้องกลัวว่าจะเศร้าอะไร เป็นตอนจบที่แอบถูกใจเมื่อเรื่องราวพีคถึงจุดที่เธอต้องกระทำบางอย่างเพื่อเอาตัวรอด แม้ว่าจากนั้นอาจจะไม่ค่อยสมเหตุผลหรือมีคำอธิบายที่ทำให้เข้าใจนัก แต่ผู้ชมก็น่าจะชอบฉากจบแบบนี้มากกว่าที่เรื่องราวจะดาร์คหรือเศร้าแบบโทนเรื่องที่เป็นมาตลอด

ซูจียังคงเล่นได้ดีอย่างน่าประทับใจ และบทนี้ก็เหมือนเขียนขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เพราะตัวบทต้องพึ่งความสวยมีเสน่ห์แบบใครเห็นก็หลงรักเธอได้ทันที เป็นพ้อยท์สำคัญของเรื่องที่ทำให้เธอพลาดกับปัญหาชีวิตในตอนเด็ก และเมื่อพยายามกลับมาอีกครั้งในตอนโตความสวยของเธอก็คือใบเบิกทางสู่โอกาสใหม่ๆ และก็กลายเป็นปัญหาตามมาในภายหลังจากความสวยเด่นของเธอตลอดเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าบทจะให้เธอแค่สวย เพราะช่วงสองตอนแรกเธอก็แปลงสภาพเป็นสาวจนๆ ชนชั้นแรงงานที่ดูแล้วเชื่อ เหมือนมากจนแอบคิดว่าเอานักแสดงเด็กหน้าตาคล้ายซูจีมาเล่นหรือเปล่าขนาดนั้นเลยล่ะครับ ต้องยอมรับว่างานเมคอัพแปลงโฉมลดอายุของเกาหลีนี่ทำได้เหมือนมากจริงๆ

ส่วนบทสมทบในเรื่องก็มีตัวละครสำคัญอีก 3 คน Jung Eun-Chae นางร้ายขาประจำซีรีส์เกาหลีเล่นเป็น ฮยอนจู สาวชนชั้นสูงเป็นนายจ้างที่คอยกดขี่เธอตลอดเวลา และก็มีบทบาทสำคัญกับเรื่องประมาณหนึ่ง แต่ก็ไม่มากเท่าอีกสองตัวละครที่สำคัญกว่า จีวอน เล่นโดย Park Ye-Young เป็นนักข่าวที่เป็นรุ่นพี่ของยูมี ก่อนที่จะมาพบเธอภายหลังในชื่ออันนา จีฮุนเป็นตัวละครตรงฉินกับสิ่งที่ทำในฐานะนักข่าว แต่เมื่อเธอพบว่าเพื่อนหรือรุ่นน้องที่สนิทกับเธอมานานไม่ใช่คนแบบที่เห็นมาตลอด และเมื่อสืบลึกลงไปกลับยิ่งรู้สึกว่าความจริงที่เห็นน่ารันทดมาก เธอจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เธอรับรู้มา 

คนสุดท้ายที่มีบทบาทสำคัญสุดตลอดเรื่องคือ สามีของอันนา  จีฮุน เล่นโดย Kim Joon-Han เป็นตัวละครที่เดินเรื่องควบคู่ไปกับพัฒนาการชีวิตของอันนาตลอดรเื่องจนจบ จีฮุนเป็นประธานบริษัทไอทีที่เริ่มโด่งดังและหวังเข้ามาเล่นการเมือง โดยลงเลือกตั้งนายกเทศบาลกรุงโซล แต่ฝันไกลถึงการเป็นประธานาธิบดีเกาหลีเลย ซึ่งอันนาที่พยายามโลวโปรไฟล์มาตลอด กลับต้องกลายเป็นคนที่ถูกสื่อกับสังคมจับตา ตัวเรื่องจีฮุนจึงเป็นคนที่พาอันนาเข้ามาถึงจุดยุ่งยากของชีวิตที่เธอพยายามเลี่ยงมาตลอด และก็กลายเป็นปมขัดแย้งสำคัญในเรื่องที่ต้องลุ้นว่าอันนาจะหาทางออกจากชีวิตที่ผูกพันกับคนที่มีฝันเป็นนักการเมืองใหญ่ระดับนี้ได้ยังไง

ตัวเรื่องเป็นดราม่าที่เข้มๆ แอบเศร้ารันทด+เอาใจช่วยอันนาอยู่ตลอดเรื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าซีรีส์แอบยืดยาวในหลายฉากอย่างเกินจำเป็น ทำให้การเดินเรื่องแอบเนือยๆ มาก กว่าจะเข้มข้นก็กลางๆ หลังๆ ด้วยความที่ทำลงสตรีมมิ่งด้วย ก็เลยไม่ได้มีการเขียนบทให้มีปมหักมุมท้ายตอนให้น่าติดตามต่อแบบละครที่ฉายทางทีวีปกติทั่วไป แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากเพราะเรื่องถูกวางโครงเรื่องราวต่อเนื่องไว้จนจบแต่แรก ไม่ได้ถ่ายไปฉายไปแบบปกติ ทำให้เส้นเรื่องชัดเจน แม้จะอืดๆ แต่ก็ไม่ได้ออกทะเลไปไหน และก็ไม่ได้ยืดย้วยเพราะจำนวนตอนเยอะ แต่แค่ช้าสโลวเบิร์นไต่ความพีคจากพัฒนาการค่อยเป็นค่อยไปของชีวิตอันนาเท่านั้นครับ

แต่ที่เป็นจุดด้อยจริงๆ เป็นเรื่องเหตุผลในเรื่องหลายครั้งดูอ่อนเกินจริงไปบ้าง อย่างช่วงมหาลัยของอันนาที่เข้าเรียนปลอมๆ ยาวเป็นปีแล้วก็เข้าชมรมนักข่าวอีก ดูเหลือเชื่อว่าจะไม่มีใครจับผิดอะไรได้เกินไป หรือบางตอนก็ตัดคำอธิบายที่ควรจะมีออกไปเลยอย่างตอนจบสุดท้าย ทำให้เรื่องดูไม่เคลียร์ให้สมเหตุผลเท่าไหร่ ถ้าใครคิดมากกับความสมจริงนี่ถือเป็นจุดบอดใหญ่สุดเของเรื่องเลยว่าได้ แต่ถ้าไม่สนใจก็มองข้ามไปได้ไม่น่าเกลียดอะไรมากเช่นกันครับ 

 

ถือเป็นซีรีส์เกาหลีที่เล่าเรื่องดราม่าเทาๆ ได้ดีเลย และยิ่งน่าสนใจมากเมื่อซูจีมารับบทแนวนี้ครั้งแรก และบทก็เหมาะสมมาก ใครเป็นแฟนซูจีก็ห้ามพลาดเลยครับ

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!