playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Anxious People มินิซีรีส์สืบสวนชวนขำเล็กๆ แต่ซึ้งตรึงอารมณ์ได้มากกว่าเยอะ

Anxious People

สรุป

มินิซีรีส์เล็กๆ ที่สั้นมากๆ ดูเหมือนแนวตลก แต่กลับไม่ใช่ กลายเป็นแนวดราม่าสืบสวนซึ้งๆ อบอุ่น สะเทือนใจ มีดีกว่าที่คาดคิดไว้มาก

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • บทเขียนผูกปมสืบสวนเข้ากับดราม่าชีวิตได้ดีมาก
  • ตามติดปริศนาว่าคนร้ายหายตัวไปได้อย่างไร
  • เรื่องราวค่อนข้างซับซ้อน มีตัวหลอกมาเรื่อยๆ
  • หลากหลายประเด็นปัญหาชีวิตที่ผูกเข้ากับเรื่องอพาร์ทเมนท์ได้ทั้งหมด
  • มีติดตลกนิดๆ

Cons

  • หน้าหนังหลอกคนดูว่าแนวตลกจนเกินไป

 

Anxious People คนจิตตก ลิมิเต็ดซีรีส์สวีเดน 6 ตอนจบจาก Netflix เรื่องราวของตำรวจที่ตามสืบคนร้ายจับตัวประกันคนในอพาร์ทเมนต์ไว้ แต่กลับหายตัวไปอย่างปริศนา ที่ตอนแรกดูเหมือนเรื่องตลก แต่กลับกลายเป็นดราม่าเศร้าซึ้ง อบอุ่นสะเทือนใจ
 Anxious People (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Anxious People คนจิตตก

เรื่องนี้เป็นลิมิเต็ดซีรีส์ฟอร์มเล็กมากๆ จนดูเหมือนไม่น่าสนใจอะไรเลย แถมชื่อไทยยังตั้งแบบแปลมาตรงๆ จนทำให้ดูเหมือนซีรีส์ตลกขายขำธรรมดาเข้าไปอีก แต่ต้องบอกเลยว่าตัวเนื้อหาซีรีส์เองกลับมีอะไรมากกว่านั้นมากมาย กลายเป็นซีรีส์ฟอร์มเล็กที่มีเรื่องราวดราม่าซึ้งๆ ชวนน้ำตาปริ่มๆ ได้เลยเหมือนกัน

พล็อตเรื่องง่ายๆ “ยัคกับยิน” ตัวเอกเป็นตำรวจสองพ่อลูกที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ไม่ค่อยมีคดีอะไรให้น่าตื่นเต้นนัก แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีโจรปล้นธนาคารไม่สำเร็จ แล้วหนีเข้าไปในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งที่กำลังเปิดให้ผู้สนใจมาดูในวันนั้น 7 คนกับ 1 นายหน้า พร้อมจับทุกคนเป็นตัวประกัน ทำให้ตำรวจพ่อลูกต้องเจองานใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะปริศนาการหายตัวไปของโจรในภายหลังตัวประกันถูกปล่อยตัวไป แล้วใครกันแน่คือโจรตัวจริงในคดีขำๆ ชวนหัวสุดซับซ้อนนี้

หน้าตาภายนอกของเรื่องนี้อย่างชื่อเรื่อง ปก หน้าตานักแสดง ทุกอย่างชวนให้ดูขำๆ จนคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นแนวตลกบันเทิงกันแน่นอน แต่เปิดเรื่องขึ้นกลับเป็นฉากคนกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย โดยก่อนตายยื่นจดหมายให้เด็กชายคนหนึ่งเอาไปมอบให้ที่ธนาคาร ซึ่งภาพก็ตัดมาทันทีว่านี่เป็นอดีตของ “ยัค” ลูกตำรวจเก่าแก่ของเมืองที่มีอุดมการณ์แรงกล้าที่โตมากับความคาใจในเหตุการณ์นี้มาตลอด ซึ่งผู้ชมคงต้องเอ๊ะในใจแล้วว่าเรื่องมันจะตลกจริงหรือ โดยที่ต่อมาเรื่องราวก็แอบมีตลกนิดหน่อยสั้นๆ ช่วงแรกตอนที่ยัคกับยินกำลังอยู่ในสถานการณ์จับตัวประกัน ก่อนที่เรื่องราวในตอนแรกจะจบลงแบบปริศนา โดยใช้เวลาสั้นๆ ในการเล่าเรื่องตอนแรกที่ยาวสุดแล้วแค่ 30 กว่านาที (ตอนหลังจากนี้อีก 5 ตอนคือสั้นๆ แค่ 20 กว่านาที) แต่เรื่องราวต่อจากนี้จะกลายเป็นดราม่าที่ผูกปมหลายอย่างไว้ซับซ้อน ซึ้ง เศร้า อบอุ่น สะเทือนใจ แบบที่ต้องชมเลยว่าคนเขียนบทเรื่องนี้ผูกปมได้เก่งมากๆ

เรื่องราวเมนหลักซับซ้อนของเรื่องนี้คือการตามพิสูจน์หาว่าใครคือโจรที่หายตัวไปคนนั้น ซึ่งส่วนของการสืบสวนนี้เองที่เรื่องค่อยๆ เจาะลึกลงไปในตัวละครทั้ง 8 ที่ตอนแรกดูเหมือนคนมาดูบ้านธรรมดา แต่กลับมีปมลึกของแต่ละคนโยงใยกันไปมา ทุกคนต่างโกหกแบบที่ยัคเองก็ปวดหัวหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม ซึ่งเรื่องในแต่ละตอนที่ค่อยๆ คลายออกมาก็ล่อหลอกให้เราคิดว่า ตนร้ายอาจจะเป็นคนนี้ อาจจะเป็นคนนั้นอยู่ตลอด รวมถึงสงสัยในวิธีการหายตัวไปจากที่เกิดเหตุเหมือนนักมายากลว่าทำได้ยังไง ซึ่งความสงสัยนี้เองที่หลอกล่อให้ผู้ชมติดตามดูเรื่องนี้แบบดูแล้วยังไงก็ต้องดูให้จบแน่เพราะอยากรู้ว่าโจรคือใคร และทำได้อย่างไร โดยมีดราม่าปัญหาชีวิตของแต่ละตัวละครที่แตกต่างกันไป 8 คน หลากหลายปมอย่าง ปัญหาคู่รักวัยชรา สาวคู่รักเลสเบี้ยนที่กำลังมีลูกด้วยกัน หญิงชราผู้โดดเดี่ยว นักแสดงที่ตกงานจนต้องมารับบทใส่มาสคอตตุ๊กตาหากิน สาวแบงค์ที่รู้สึกว่างานที่ทำทำร้ายผู้คนทางอ้อม ซึ่งบทดราม่าเหล่านี้ถูกเขียนออกมาแบบเรียบง่าย แต่แอบลึกซึ้งกินใจ และก็ผูกเข้ากับเหตุการณ์จับตัวประกันได้อย่างเหมาะเจาะ เหมือนเรื่องบังเอิญที่มีแผนการซ้อนอยู่อีกที และยังเดินเรื่องความสัมพันธ์ของตัวประกันหลังจากเหตุการณ์นี้ตามมาแบบซึ้งๆ ประทับใจตามมาด้วย

นอกจากดราม่าชีวิต 8 ตัวประกันแล้ว ในเรื่องตำรวจพ่อลูกก็ยังมีดราม่าปัญหาส่วนตัวของครอบครัวที่มีน้องสาวติดยา ชอบขโมยเงิน พ่อก็สปอยล์ลูกสาวจนยัคเองก็ไม่พอใจ รวมถึงปมในอดีตของยัคเองกับเรื่องคนโดดสะพานฆ่าตัวตายในวัยเด็กที่ติดตามาตลอด ทำให้เขาเป็นตำรวจที่เคร่งกับชีวิตแตกต่างกับพ่อที่ทำงานแบบชิลๆ ซึ่งจุดนี้เป็นคีย์หลักของเรื่องในตอนหลัง ซึ่งคนเขียนบทเก่งมากที่โยงเอาเรื่องในอดีตของยัคมารวมกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพื่อเคลียร์ปมทั้งในอดีตกับปัจจุบันไปพร้อมกัน ซึ่งสุดท้ายคำตอบของเรื่องว่าคนร้ายคือใครอาจจะไม่ใช่จุดสำคัญ เท่ากับว่าพอรู้แล้วยัคจะตัดสินใจปิดคดีนี้ได้ยังไง เมื่อต้องตัดสินใจระหว่างหน้าที่ผู้รักษากฎหมายที่ตัวเองยึดถือกับมโนธรรมที่เกิดขึ้นในใจแล้วไปขัดกับกฎหมาย ซึ่งคำตอบนี้เองคือหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ในตอนจบ

นี่เป็นมินิซีรีส์ที่เล็กและสั้นมากๆ แต่อยากชวนให้ลองดูกัน รับรองว่าอบอุ่นหัวใจเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้แน่นอนครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!