playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์ Archive 81 (Netflix) วิดีโอเทปลึกลับสยองขวัญที่เต็มไปด้วยปมปริศนาแน่นเอี๊ยด (ไม่มีสปอยล์)

สรุป

ซีรีส์ที่มีชื่อชั้นของ James Wan มาเกี่ยวข้อง และก็ทำออกมาในแนวลึกลับสยองขวัญที่มีปมปริศนาซับซ้อนมากมายได้น่าติดตาม แต่ว่าตัวเรื่องจะค่อยๆ ดำเนินไปแบบช้าๆ จนดูเหมือนอืดมาก ซึ่งถ้าผู้ชมไม่สามารถอดทนรอเรื่องราวที่จะไปเฉลยทีเดียวในตอนสุดท้ายได้ ก็อาจจะทนดูเรื่องนี้ไม่ไหวเช่นกัน

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
4 (4 votes)

Pros

  • เรื่องย้อนยุคไปยังสื่อบันทึกแบบเก่าๆ หลายอย่างร่วมกับปมปริศนาได้ดี
  • ปมปริศนาใส่มาต่อเนื่องเยอะมาก แต่น่าติดตาม
  • บรรยากาศในเรื่องหลอนๆ มีฉากระทึกสยองกำลังดี
  • มีแนวรักเข้ามาเป็นเรื่องหลักด้วย
  • มีปมจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องสยองขวัญ
  • มีเสียงพากย์ไทยที่ดีมาก

Cons

  • เรื่องดำเนินไปแบบเรื่อยๆ ค่อนข้างอืด
  • ซับไตเติลไทยแปลผิดความหมายเยอะมาก
  • ความพยายามเล่นกับการถ่ายวิดีโอตลอดเวลา ทำให้ดูไม่สมเหตุผลในบางครั้ง
  • ฉากสุดท้ายไม่พีคเท่ากับเรื่องราวที่สร้างไว้ใหญ่โตมาก

Archive 81 แฟ้มลับ 81 ซีรีส์แนวลึกลับสยองขวัญของ Netflix โดยมีชื่อเครดิตของ James Wan มาร่วมด้วย เป็นเรื่องราวของการค้นหาความลับจากวิดีโอเทปในอดีต ที่เชื่อมโยงถึงปมปริศนามากมายทั้งอดีตกับปัจจุบัน จนคาดเดาเรื่องราวไม่ได้เลย

 Archive 81 (2022) on IMDb

ตัวอย่าง Archive 81 แฟ้มลับ 81

 

Archive 81 ซีรีสสร้างจากพอดคาสต์ที่มีชื่อเดียวกัน เป็นซีรีส์แนวลึกลับสยองขวัญของ Rebecca Sonnenshine โปรดิวเซอร์ The Boy ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่สุดโหดของ Amazon Prime เขียนบทโดย Paul Harris Boardman ที่มีผลงานแนวสยองขวัญมาตลอดอย่าง Hellraiser: Inferno The Exorcism of Emily Rose กำกับโดย Rebecca Thomas หนึ่งในผู้กำกับซีรีส์ Stranger Things อำนวยการสร้างโดย  James Wan นี่จึงเป็นการรวมตัวของทีมแนวสยองขวัญโดยเฉพาะ ซึ่งก็ส่งผลให้เห็นถึงผลงานที่ออกมาว่าเป็นเหมือนการรวมซิกเนเจอร์เครดิตผลงานของหลายๆ เรื่องเข้าด้วยกันอย่างชัดเจน

เรื่องย่อ (ไม่มีสปอยล์)

แดน เทอเนอร์ (นำแสดงโดย Mamoudou Athie ) นักกู้ไฟล์ข้อมูลถูกว่าจ้างให้กู้ม้วนวิดีโอเทปลึกลับจากเหตุการณ์ไฟไหม้ตึกเมื่อปี 1994 ของนักศึกษา แมนดี้ เพนเดส (รับบทโดย Dina Shihabi) ก่อนที่เขาจะพบกับเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นรอบตัวเขาขึ้นมาเรื่อยๆ ในระหว่างที่นั่งดูเทปนี้ เขาจึงตัดสินใจค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แมนดี้เป็นใครกันแน่ และผู้ว่าจ้างเขาต้องการอะไรจากข้อมูลในวิดีโอเทปนี้?

รีวิว Archive 81 (ไม่มีสปอยล์ส่วนสำคัญ)

ซีรีส์เรื่องนี้คือการรวมเอาแนวเรื่องสยองขวัญหลากหลายมารวมกัน โดยโทนเรื่องมาแนวปริศนาลึกลับมากมายเต็มไปหมด แบบที่ 7 ตอนแรกยังไงคนดูก็ยังไม่อาจจะเข้าใจอะไรได้เลย (8 ตอนจบซีซั่นแรก) เพราะเรื่องราวดำเนินไปแบบเน้นปล่อยแต่ปริศนาออกมาเรื่อยๆ โดยไม่เน้นเฉลย เหมือนเรากำลังนั่งดูเทปที่ตัวเอกกู้ซากขึ้นมาไปพร้อมกัน ซึ่งในเทปนั้นก็ค่อยๆ มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นทั้งจากเหตุการณ์ที่ถ่ายในตึกที่อยู่อาศัยรวมตัวคนแปลกๆ อย่าง เด็กที่เป็นลมชักเหมือนผีสิง ชายที่เหมือนนักบุญคนดีแต่กลับทำตัวลึกลับหลายครั้ง บาทหลวงที่เชื่อเรื่องการไล่ผีสิง สาวสูงวัยที่สะสมงานจากศิลปินสิ่งลี้ลับ กลุ่มคนที่รวมตัวกันทำพิธีประหลาดกลางดึก รวมถึงมีเสียงแปลกๆ ในตึกเกิดขึ้นตลอดเวลา แถมยังมีชั้น 6 ที่เป็นชั้นต้องห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปอยู่ด้วย ซึ่งตัวเรื่องให้เหตุผลว่าเทปนี้จะเป็นกุญแจสำคัญว่าเกิดอะไรขึ้นในวันที่ไฟไหม้ตึกทำทุกคนในนั้นเสียชีวิตทั้งหมด รวมถึงตัวแมนดี้ผู้ถ่ายวิดีโอนี้ด้วย ซึ่งปริศนาทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องราวที่แดนเห็นผ่านเทปภาพแตกๆ ในยุคนั้น ไม่ได้เป็นวิดีโอที่สมบูรณ์ มีภาพล้ม เสียงหาย พร้อมทั้งอะไรบางอย่างแทรกแซงเข้ามาในวิดีโอนั้นหลายครั้ง ซึ่งก็เป็นจุดสำคัญอีกอย่างของเรื่องว่า ในไฟล์ฟุตเทจวิดีโอนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ซึ่งดูเหมือนเรื่องเหนือธรรมชาติออกแนวสยองขวัญตรงๆ เป็นฉากแนวผีหลอกช็อคคนดูด้วย แต่อีกมุมหนึ่งตัวแดนเองก็มีอดีตว่าเคยเข้ารับการบำบัดทางจิตมาก่อน ทำให้เรื่องคลุมเครือว่า สิ่งที่แดนเห็นในระหว่างดูวิดีโอคือเรื่องจริงหรือไม่ หรือเรื่องปริศนาลี้ลับปนสยองในวิดีโอนั้นทำให้แดนเกิดจิตหลอนขึ้นมาเอง

 

อาการจิตหลอนในเรื่องส่วนหนึ่งก็มาจากสภาพรอบตัวที่ทำงานแดนเป็นบ้านที่ทิ้งร้างไว้ให้แดนเข้าไปทำงานคนเดียว ห้ามให้ใครอื่นเข้าไปจะโดนยกเลิกสัญญา ซึ่งตัวบ้านก็ส่งเสริมบรรยากาศหลอนๆ ของเรื่องได้ดี แต่ไม่ใช่แบบบ้านผีสิง เป็นบ้านกึ่งห้องวิจัยทดลอง มีห้องลับ กล้องวงจรปิดติดตามดูชีวิตของแดนตลอดเวลา แต่ตัวเรื่องไม่ได้ทำมาว่าแดนไม่รู้ เนื้อเรื่องให้เขารู้แต่แรกและก็พยายามสำรวจหาความลับในบ้านหลังนี้ไปพร้อมกับความลับในวิดีโอแต่ละม้วนที่เขากู้มาดู แม้ปริศนาในเรื่องจะเยอะมากแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยว่าเรื่องจริงเป็นอะไรกันแน่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องดูยาก ชวนงงแบบน่าเบื่อ กลับกันตัวเรื่องปล่อยปริศนาออกมาแต่ละอย่างได้น่าติดตามมาก ถึงว่าแม้ผู้ชมจะไม่สามารถเชื่อมต่อเรื่องราวได้เองแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปวดหัว แค่อาจจะงงไปกับเรื่องราวที่เห็นเหมือนแดนเองก็สบถ “เรื่องเชี่ยไรวะ” ทุกครั้งที่มีปมปริศนาใหม่โผล่ขึ้นมา

อีกอย่างที่ช่วยบิ้วบรรยากาศในเรื่องให้อารมณ์ลึกลับปนสยองได้ดีก็คือ การใช้เสียงประกอบแปลกๆ หลายอย่างที่บอกไม่ได้ว่าเป็นเสียงอะไร แต่ตัวเรื่องใส่มาแทบจะตลอดเวลา เป็นเหมือนเสียงแอมเบี้ยน (เสียงสภาวะแวดล้อม) ที่คอยรบกวนจิตใจของตัวละครในเรื่องอยู่ตลอด ไม่ใช่เสียงที่เกิดขึ้นในธรรมชาติที่เข้าใจได้  ซึ่งก็ส่งผลมาถึงผู้ชมด้วย ทำให้เวลามีเสียงพวกนี้เข้ามาเรื่องจะดูหน่วงๆ อึมครึม เหมือนมีอะไรจะปรากฎตัวออกมาได้ตลอดเวลา เป็นอารมณ์น่ากลัวแบบลึกๆ ประกอบเรื่อง ที่เสียงพวกนี้ทำหน้าที่ของมันได้ดีเลย

ตัวเรื่องไม่ได้มีแค่แนวปริศนาปนสยองเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องราวดราม่ารักๆ เกิดขึ้นด้วย จากการที่แดนดูวิดีโอของแมนดี้ แล้วก็ค่อยๆ เริ่มรู้สึกผูกพันกับเธอขึ้นเรื่อยๆ จนฝันเห็นเขากับเธอพูดคุยกันเหมือนเป็นจริงแบบแยกไม่ออกว่าเรื่องจริง ความฝัน หรือจินตนาการ โดยทุกฉากในตอนนี้จะมีละอองฟุ้งๆ รอบตัวทั้งคู่ให้คนดูได้รู้ว่านี่เป็นฉากเหนือจริงที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งชวนให้คนดูสงสัยมากว่ามันคืออะไร นี่เป็นหนังไซไฟรักข้ามกาลเวลาด้วยหรือไม่? ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีคำตอบที่ไปไกลกว่านั้นมาก เป็นการมิกซ์หลายไอเดียรวมกันเหมือนเรากำลังดู Stranger Things อะไรแบบนั้นเลย และนอกจากฟุตเทจวิดีโอที่เราเห็นพร้อมกับแดนแล้ว ก็จะมีฉากที่เล่าเรื่องโดยไม่ใช้ฟุตเทจเป็นชีวิตแมนดี้เองตรงๆ ก่อนตัดสลับกลับมาที่ฟุตเทจที่แดนดูอยู่ เป็นการเติมเต็มเรื่องราวของแมนดี้ให้คนดูเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเธอก็เป็นตัวเอกหลักที่เล่าเรื่องคนละยุคสมัยต่างกับปัจจุบัน

ตัวละครสมทบในเรื่องยังมีบทบาทค่อนข้างมาก อย่างเพื่อนของแดนที่ช่วยสืบเรื่องราวทางไกลให้ เพราะที่ๆ แดนอยู่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ทำให้แดนต้องแอบติดต่อเพื่อนในบางครั้ง และเขาก็ค่อยๆ สืบเรื่องจากเบาะแสที่แดนเห็นในวิดีโอ ตามหาตัวคนที่คิดว่ายังเหลือรอดอยู่เพื่อมาไขปริศนาร่วมกับในวิดีโอที่แดนเห็น แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็เริ่มกังวลว่าแดนอาจจะอยู่ในภาวะวิตกจริตจิตหลอนไปเองหรือไม่จากที่รายงานเรื่องแปลกๆ ให้เขาฟัง

การที่ซีรีส์เล่าเรื่องด้วยการใส่ปริศนามาเรื่อยๆ เยอะมาก และยังเดินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ จนดูเหมือนเรื่องอืดๆ ทำให้เป็นจุดด้อยใหญ่ของเรื่องด้วย นอกจากนี้เรื่องราวยังผูกปมไว้ใหญ่โตมาก แต่กลับทำฉากสุดท้ายออกมาสั้นๆ ไม่ได้มีอะไรใหญ่โตแบบที่ผูกไว้ จนดูเหมือนทุนไม่พอหรือยังไงก็ไม่ทราบ แต่แอบผิดหวังกับฉากสุดท้ายเรื่องมากพอสมควร และยังไม่ได้จบลงทั้งหมด แต่ทิ้งเรื่องราวไว้ไปต่อซีซั่น 2  (แต่ก็จบเคลียร์ปมเรื่องราวในซีซั่นแรกเกือบหมดได้ดี)

แถมท้ายนิดนึงว่าเรื่องนี้แนะนำให้ดูพากย์ไทย เพราะซับไตเติลแปลผิดเยอะมาก จนความหมายเพี้ยนไปเลย อาจจะเพราะเรื่องเต็มไปด้วยศัพท์กับปริศนาแปลกๆ เต็มไปหมด คนแปลซับมักได้แต่สคิปต์ตัวหนังสือมาไม่เห็นภาพ ก็เลยอาจจะไม่เข้าใจประโยคนั้นจริงๆ ซึ่งต่างกับงานพากย์ที่ต้องเห็นแล้วพากย์ ทำให้ประโยคพูดตรงกับเรื่องมากกว่าครับ

สรุป Archive 81 สนุกและดีไหม?

เป็นซีรีส์ที่ถือว่าดีเลยในแง่บทกับคุณภาพงานสร้างและองค์ประกอบต่างๆ แต่การดำเนินเรื่องอาจจะไม่สนุกทันใจผู้ชมทั่วไปนัก ถ้าใครชอบซีรีส์ลึกลับสยองขวัญเน้นปมปริศนาเยอะๆ ก็ดูได้เลย แต่ถ้าเป็นคนชอบอะไรง่ายๆ รวดเร็วไม่ซับซ้อนก็ข้ามผ่านเลยครับ

 

SS2 มีต่อไหม มาเมื่อไหร่?

ตอนนี้ทาง Netflix ยังไม่ได้ประกาศซีซั่น 2 ต้องรอครบ 28 วันไปก่อนตามการเก็บสถิติผู้ชม แต่ถ้าดูจากแนวเรื่องกับชื่อชั้นของทีมผู้สร้าง น่าจะได้ทำต่อซีซั่น 2 ค่อนข้างแน่นอน กำหนดการคงฉายปี 2023 รออัพเดทยืนยันอีกครั้งครับ

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!