playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง ที่ลวงคนดูว่างานอินเตอร์ แต่กลับสลัดภาพละครไทยไม่หลุด (ไม่มีสปอยล์)

Bangkok Breaking

สรุป

ถ้าใครคาดหวังงานดูดีแบบสากลอินเตอร์ข้ามไปได้เลย เพราะยังไม่สามารถสลัดภาพลักษณ์กับองค์ประกอบในแบบละครไทยไปได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดูไม่สนุก เรียกว่าคนที่ดูละครไทยได้ไม่แอนตี้ก็สามารถดูเรื่องนี้เพลินๆ ได้แน่นอน โดยมีจุดที่ดีกว่าละครไทยก็ตรงฉากอุบัติเหตุทั้งหลายลงทุนสูงจนดูดีกว่าละครลงทีวีทั่วไปมาก และตัวเรื่องก็ทำมาในรูปแบบซีรีส์ฝรั่งที่ทิ้งปมบางอย่างไว้ทำต่อในซีซั่นต่อไปเรื่อยๆ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
4 (4 votes)

Pros

  • ฉากอุบัติเหตุลงทุนสูงดูดี
  • เบื้องหลังงานอาสาสมัครกู้ภัยที่มีทั้งขาวและดำ
  • พระเอกนางเอกนักแสดงดัง (เวียร์กับออม)
  • มีฉากเห็นเลือดกับชิ้นส่วนมนุษย์จากอุบัติเหตุหลายฉากโดยไม่มีเซ็นเซอร์
  • ความยาวแค่ 6 ตอนไม่ยาวมาก

Cons

  • ฉากอุบัติเหตุบางจุดไม่สมจริงดูปลอมๆ ปนมาบ้าง
  • มีความไม่เมคเซนส์หลายอย่างแบบละครไทย
  • บทพูดยังดูไม่เป็นธรรมชาติมาก นักแสดงหลายคนยังพูดแบบท่องบท
  • ตัวร้ายที่ดูแอ็กติ้งเว่อร์ๆ แบบละครไทยมากเกินไป
  • เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เป็นไปตามสูตรทั่วไปของละครไทย

Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง ซีรีส์ไทยแนวทริลเลอร์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่มี  เวียร์ ศุกลวัฒน์-ออม สุชาร์ แท็กทีมขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังอาชีพอาสามัครกู้ภัยในกรุงเทพ งานที่ทำด้วยใจ แต่มีเบื้องหลังดำมืดหากำไรเข้าตัวจนเป็นเครือข่ายอิทธิพลใหญ่โต

 Bangkok Breaking (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Bangkok Breaking มหานครเมืองลวง

ซีรีส์ไทยจากทุนสร้าง Netflix โดยตรงเรื่องที่ 3 ต่อจาก เคว้งกับเด็กใหม่ซีซั่น 2 (ซีซั่นแรกฉายลงทีวีก่อนมาฉายเน็ตฟลิกซ์) โดยเป็นผลงานกำกับกับเขียนบทของ โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับที่ถนัดแนวทริลเลอร์ สยองขวัญ หรือกระทั่งดราม่าหนักๆ ก็ยังได้ โดยมี  ปราบดา หยุ่น นักเขียนที่เข้ามาวงการบันเทิงเต็มตัวครั้งแรกเป็นผู้อำนวยการสร้าง  และได้ 2 นักแสดงฝีมือ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ กับ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง มารับบทนำ โดยตัวซีรี่ส์มีความยาว 6 ตอนจบซีซั่น 1  ตอนละประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม

เนื้อเรื่องเริ่มจาก “วันชัย” หนุ่มบ้านนอกเข้ามาเมืองกรุงครั้งแรกเพื่อหาพี่ชายที่ทำงานเป็นกู้ภัยอยู่ที่นี่นานแล้ว กลับต้องมาพบอุบัติเหตุครั้งใหญ่สูญเสียพี่ชายไปในทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมทั้งทิ้งปมปริศนาเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ไว้ โดยในที่เกิดเหตุเขาก็ได้พบกับ “แคต” นักข่าวสายบันเทิงที่อยากผันตัวมาทำข่าวสืบสวนร่วมตามเกาะติดไขปมปริศนานี้ไปพร้อมกับเขา ซึ่งในเวลาต่อมาวันชัยก็ได้เริ่มทำหน้าที่กู้ภัยตามรอยพี่ชาย ก่อนจะพบว่างานอาสาสมัครนี้กลับมีเบื้องหลังดำมืดเชื่อมโยงเข้ากับผู้มีอิทธิพลใหญ่ที่โยงใยถึงการตายของพี่ชายในอุบัติเหตุครั้งนั้น

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานที่ผู้สร้างชาวไทยหวังยกระดับการทำงานให้เป็นสากลดูอินเตอร์แบบที่ต่างชาติชอบได้ ซึ่งก็ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่าถ้ามองในมุมนี้ตัวซีรีส์ยังไม่สามารถสลัดภาพลักษณ์เดิมๆ ของละครไทยไปได้ ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้ดูซีรีส์ไทยที่มีความเป็นมาตรฐานสากลในระดับของงานโลคอลจาก Netflix ยังไม่ผ่าน ปิดทิ้งไม่ต้องดูเลยครับ เพราะเอาแค่ในเอเชียด้วยกันอย่าง ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง ผลงานจากไทยเรื่องนี้ก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงหรือทำให้รู้สึกอินเตอร์ได้แบบนั้นจริงๆ  ฟังดูอาจจะคิดว่าผู้เขียนอคติไปรึเปล่า แต่ตัวผู้เขียนเองก็ดูงานไทย ละครไทย มาเรื่อยๆ ไม่ได้มีอคติอะไรเลย เทียบกันง่ายๆ เรื่องนี้ยังไม่สามารถทำได้แบบซีรีส์เกาหลีที่รีเมคมาแล้วหลายเรื่องลงในช่องทรู อย่าง ว้อยซ์ สัมผัสเสียงมรณะ ผีป่วนมาชวนรัก และอื่นๆ ซึ่งถ้าใครเคยดูมาก็จะรู้ว่าของไทยที่รีเมคมาแบบช็อตต่อช็อต แม้มีการปรับบทเป็นไทยมากขึ้น แต่กลิ่นอายของเรื่องราว มุมกล้อง งานภาพ องค์ประกอบหลายอย่างยังรู้สึกได้ถึงความเป็นเกาหลีแบบดูอินเตอร์ ซึ่งชวนให้เปิดใจดูได้ง่ายกว่าละครไทยแท้ๆ ลงทีวีตามปกติ แต่ต้องบอกว่านี่เป็นการวัดจากมุมคนที่ชื่นชอบซีรีส์นอกเป็นหลัก ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปเลยดีกว่า หรือจะทดสอบลองดูสักตอนสองตอนก็ได้ คุณจะรู้สึกได้เลยว่านี่มันละครไทยชัดมาก จนบางครั้งอดขำไปกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยจริงๆ (ขำเพราะไม่คิดว่าจะยังใช้เรื่องแบบนี้ลงในเน็ตฟลิกซ์อีก)

แต่ถ้าผู้ชมที่เป็นคนดูละครไทยได้ หรือเป็นแฟนละครไทยมาก่อนแบบดูได้สนิทใจไม่มีข้อเปรียบเทียบไปชาติอื่น ต้องบอกว่าซีรีส์เรื่องทำได้ดีในระดับละครไทยที่ผ่านโอเคเลยจริงๆ ด้วยเนื้อเรื่องแบบสูตรสำเร็จไทยๆ ที่ไม่ได้ลึกอะไรมาก แต่ก็ดูสนุกได้อยู่ แม้ก่อนเรื่องนี้ฉายจะพยายามโปรโมทว่าซีรีส์เรื่องนี้ตีแผ่มุมมืดของกรุงเทพ หรืออีกนัยคือรวมถึงประเทศไทยเลย แต่ตัวเรื่องกลับไม่ได้มีอะไรลึกหรือซับซ้อนแบบที่ว่านั้นมาขายเลย โครงเรื่องคือการที่พระเอกทำงานกู้ภัย แล้วก็ได้รับรู้ว่าวงการกู้ภัยมีเรื่องดำมืดหลายอย่างซ่อนอยู่ แต่เชื่อว่าทุกคนที่ตามข่าวสักหน่อยก็คงรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้ว อย่าง การขโมยทรัพย์สินผู้ประสบเหตุ กู้ภัยต่างมูลนิธิแย่งกันไปถึงที่เกิดเหตุ (แย่งศพ) การดีลกับโรงพยาบาลไว้แล้วไปส่งไกลกว่าโรงพยาบาลใกล้ๆ จนทำให้คนเหล่านั้นตาย ไปจนถึงการรับส่งยาเสพติดหรือของโจรทั้งหลาย โดยอาศัยภาพลักษณ์ของรถกู้ภัยที่ตำรวจมักจะไม่ตรวจ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ในเรื่องก็มาจากข่าวที่มีออกมาเรื่อยๆ เรียกว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ทำการบ้านอะไรนัก แค่หยิบจับเรื่องพวกนี้มาแปะรวมๆ กันให้เป็นเรื่องราวโยงใยไปถึงผู้มีอิทธิพลที่อาศัยงานกู้ภัยเป็นมือเป็นไม้ให้เท่านั้น เรื่องราวเป็นไปตามสูตรไม่ได้มีเซอร์ไพรส์หรือหักมุมอะไรมาก (แค่เบาๆ ประมาณหนึ่ง) แต่ถึงตัวปมหลักของเรื่องจะไม่ลึก การดำเนินเรื่องก็ยังทำออกมาได้สนุกดูเพลินไปได้เรื่อยๆ โดยมีความเป็นไทยทั้งบทพูด ดนตรีประกอบ การเดินเรื่องในแบบตัวร้ายต้องพยายามให้ดูร้ายเว่อร์ออกหน้าตาชัด หรือไม่ก็พวกตัวร้ายผู้ดีทำเป็นพูดนิ่มๆ พระเอกนางเอกมีแอบจีบง้องอนกันเล็กๆ แบบไทยๆ ตอนจบแบบตัวร้ายโดนเวรกรรมเล่นงานตามแนวความเชื่อไทยๆ แบบกงกรรมกงเกวียน เอาว่าคนดูละครไทยมาคงเก็ทและรู้สึกดีมากกว่าแย่แน่นอน และด้วยความที่ซีรีส์มีเพียง 6 ตอนเรื่องจึงดูกระชับไม่เยิ่นเย้ออะไรอีกด้วย

ถึงโดยรวมจะไม่แตกต่างจากละครไทย แต่จุดขายที่เรียกว่าดีกว่าละครไทยลงทีวีปกติได้เลยก็คือ ฉากอุบัติเหตุในเรื่องดูตั้งใจ ลงทุนสูงพอ ซึ่งงบของเน็ตฟลิกซ์ก็คงเทมาลงที่ตรงนี้เป็นหลัก ตัวเรื่องเปิดมาก็เซ็ตฉากอุบัติเหตุรถชนครั้งใหญ่ มีจังหวะที่คิดว่าใช้ CG ผสมด้วยนิดๆ อย่างฉากรถลอยเหินมาหาพระเอก แต่ก็ต้องบอกว่าฉากอุบัติเหตุเปิดเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาเนี๊ยบมาก แอบดูมีความปลอมจนรู้สึกเฟลกับฉากเปิดเรื่องอยู่พอสมควร แถมยังมีบทบ้งๆ แทรกมาด้วย อย่างแม่ลูกจะถูกรถชน แต่พระเอกโดดไปช่วยนางเอก จนแม่ลูกตายแบบแค่จะเอามาเป็นตัวประกอบดราม่าในข่าวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไปฉากอุบัติเหตุในเรื่องถือว่าค่อนข้างทำได้ดีเลย โดยเฉพาะฉากใหญ่ไฟไหม้ตึกแถว ที่พระเอกต้องสวมบทใส่ชุดผจญเพลิงครั้งแรกลุยไฟเข้าไปช่วยเด็ก ฉากนี้ดูดีมากในระดับที่ละครไทยปกติหาได้ยากเลย แต่ด้วยความที่เป็นไทยๆ ก็อาจจะมีความไม่สมเหตุผลปนๆ อยู่บ้างแบบควันน้อย พระเอกเข้าไปแบบไม่มีหน้ากากก็ยังรอดออกมาได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ถ้าไม่คิดมากมองข้ามผ่านไปดูที่ตัวเรื่องก็สนุกได้อยู่ นอกจากนั้นก็มีพวกฉากอุบัติเหตุย่อยๆ กับใหญ่หน่อยมาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นทั้งเหตุการณ์คั่นเวลากับบางเหตุการณ์ก็เชื่อมโยงบางอย่างกลับไปที่เมนเรื่องหลักการสืบคดีของพระเอกด้วย โดยฉากพวกนี้ก็ดูโหดสยองแบบเห็นเลือดเนื้อกระดูกอยู่หลายครั้งเหมือนกัน ไม่มีเซ็นเซอร์อะไรทั้งนั้น ทำตามจุดขายของงานกู้ภัยจริงๆ ที่คนดูคาดหวังไว้ได้

พระเอกนางเอกของเรื่องที่แสดงโดยเวียร์กับออม ถือว่าผ่านทั้งคู่ แม้อาจจะรู้สึกขัดๆ ในตอนแรกที่ตัวละครของเวียร์ใช้บทพูดภาษาอีสานนำเรื่องยาวจนมาเปลี่ยนเป็นภาษากลางในตอนหลัง แต่เขาก็ถือว่ามีเสน่ห์เข้ากับบทคนบ้านนอกฮีโร่บ้านๆ ที่ทำอะไรลงไปโดยใช้อุดมการณ์นำหน้าตามความดีในใจ แต่กลับต้องมาติดในบ่วงของคนเลวที่มาบังคับเขาทำเรื่องชั่วๆ ไปจนจบเรื่อง กลายเป็นปมในจิตใจที่เขารู้สึกผิดตลอดเวลา และยิ่งมารู้ว่าพี่ชายของเขาก็เคยเดินในเส้นทางแบบนี้มาก่อนก็กลายเป็นความสับสนในใจเข้าไปอีก ตัวละครแบบสีขาวนำหน้าในใจแต่โดนสาดสีดำใส่ กลายเป็นลบสีนั้นไม่ออกเลยต้องกลมกลืนไปด้วย เวียร์แสดงบทนี้ได้ดีเลยครับ

ส่วนออมนักแสดงหญิงยอดฝีมืออีกคนของวงการไทย แสดงเป็นนักข่าวสายบันเทิงที่พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อสังคมโดยใช้อุดมการณ์นำ โดยการหันมาทำข่าวแนวอื่นที่ไม่ใช่การเฝ้าตามดารา แต่กลับมีปัญหาต้นสังกัดสื่อที่กำลังย่ำแย่เบรคไว้ตลอด จนในที่สุดเธอต้องลุกขึ้นมาทำช่องทางโซเชียลไว้นำเสนอข่าวของตัวเองค้านกับที่ต้นสังกัดคาดโทษไว้ บทนี้แม้เป็นนางเอก แต่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ลึกหรือดีมาก เรียกว่าพื้นๆ ไม่มีอะไรให้เธอแสดงทางอารมณ์ได้มาก ซึ่งออมในเรื่องนี้ก็ไม่ได้เน้นสวยหรือมีเสน่ห์ใสๆ แบบลุคของตัวออมเองจริงๆ (นักแสดงสมทบหญิงในเรื่องหลายคนสวยกว่าด้วย) บทวางไว้ให้เป็นนักข่าวสายลุยไม่ห่วงสวย ไม่มีแต่งหน้าหรือใส่ชุดสวยใดๆ ทั้งสิ้น แต่เวลาฉากที่พระเอกนางเอกจีบกันก็ดูกุ๊กกิ๊กน่ารักชวนอมยิ้มดี เคมีทั้งคู่ถือว่าเข้ากันได้ (ทั้งคู่พึ่งเคยแสดงร่วมกันครั้งแรก) และเอาจริงๆ บทนางเอกเป็นสายรุกมีอ่อยแบบมีเชิงมากกว่าพระเอกด้วยซ้ำ เพราะพระเอกเป็นคนบ้านนอกซื่อๆ ไม่ใช่สาวชาวกรุงแบบเธอ

มายด์–วรัทยา ว่องชยาภรณ์ นักแสดงในบทสมทบที่สวยเด่นกับโชว์เรือนร่างเยอะมาก (แต่ไม่ถึงกับโป๊เปลือย)

 

Bangkok Breaking ตัวเรื่องจบแบบเคลียร์ปมหลักของซีซั่นนี้ในเรื่องการสืบคดีการตายของพี่ชายพระเอก ซึ่งตอนสุดท้ายตัวเรื่องก็ส่งปมใหม่ ตัวร้ายใหม่ทิ้งไว้เพื่อทำซีซั่น 2 อาจจะดูขำนิดๆ กับจุดนี้ที่ดูจงใจมากไป แต่ก็ไม่เลวร้ายอะไรถ้าผู้สร้างจะเดินเรื่องต่อไป เพราะเอาจริงๆ แนวเรื่องกู้ภัยก็เหมือนพวกซีรีส์ฝรั่งแนวหมอ นักสืบ ที่เป็นเคสละตอนทำได้เรื่อยๆ ไม่รู้จบ การวางให้ตัวเอกก้าวเข้ามาทำงานกู้ภัยที่ต้องเจอกับเรื่องต่างๆ มากมาย ก็เป็นการต่อยอดให้ซีรีส์เรื่องนี้สามารถทำได้หลายซีซั่นแน่นอนครับ (ถ้าผลตอบรับดีพอ) ถึงแม้ผู้เขียนจะมองว่าเรื่องนี้ยังไม่ถึงระดับงานอินเตอร์ได้ก็ตาม แต่ก็ไม่แน่ว่าผลตอบรับจากผู้ชมไทยก็อาจจะมากพอให้เน็ตฟลิกซ์ไฟเขียวสร้างต่อก็ได้ ไม่เหมือนเคว้งที่หายลับไปเลยแบบนั้นครับ

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!