playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว เด็กใหม่ ss2 Netflix เล่าเรื่องวนในอ่าง 18+ สาแก่ใจ แต่ไม่สนุก.. (ไม่สปอยล์)

GIRL FROM NOWHERE SEASON 2

สรุป

ซีรีส์ที่ “ใหม่” ในด้านการนำเสนอ มอบความเซอร์เรียล แฟนตาซี ระทึกขวัญ แต่ไม่ “เก่า” ตรงที่ไม่สามารถทำให้รู้สึกอินไปกับเรื่องราวที่เล่าวนในอ่างไปมา แม้ว่าการแสดงของนักแสดงจะดีมากก็ตาม

Overall
4.5/10
4.5/10
Sending
User Review
4 (9 votes)

Pros

  • แต่ละตอนมีตีมเรื่องต่างกัน แต่มีพลอตเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ชวนให้ติดตามว่าจะเป็นอย่างไร
  • ภาพแต่ละช็อทมีความสวยงามผิดไปจากซีรีส์ไทย
  • มุมกล้องของแต่ละตอนมีเอกลักษณ์ให้อารมณ์ที่เปลี่ยนไปตามสภาพ
  • นักแสดงหลัก โชว์ของกันแบบไม่ยั้ง
  • เพลงประกอบให้อารมณ์ลอย ๆ ฟุ้ง ๆ ชวนให้โทนเรื่องเบาลง
  • จัดเต็มในประเด็นสังคมที่จัดหนักจัดเต็มในทุกฉาก หักมุม เลือดสาดไม่มีกัํก

Cons

  • องค์ประกอบไม่ไปด้วยกันเลย ทั้งในด้านของคอนเซปต์และการถ่ายทอดออกมา
  • ตัวละครใหม่ของซีซั่นแย่งซีนเกินไปจนน่ารำคาญ
  • เนื้อเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ ประเด็นบางตอนก็ทับกับซีซั่นแรกแค่ขยายความไปเล็กน้อย
  • แนนโน๊ะดูเนือย ๆ ไม่มีเอเนอจี้เท่าไหร่เหมือนบางตอนที่น่าเบื่อเกินที่จะดู
  • อารมณ์ของเรื่องกระท่อนกระแท่น ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในตอน
  • ตัวละครไม่น่าสนใจมากเท่าที่ควร เหมือนมาเป็นตัวละครให้แนนโน๊ะเชือดเท่านั้น

เด็กใหม่ ss2 (GIRL FROM NOWHERE SEASON 2) ซีรีส์ที่เป็นการร่วมมือกันของช่อง GMM25 และเอเจนซี SOUR Bangkok หยิบนำเรื่องฉาวที่เคยเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาบิดเป็นพล็อตแต่ละตอน ซึ่งฉายไปในซีซั่นแรกเมื่อ 3 ปีก่อน นำแสดงโดย ชิชา อมาตยกุล ในบท แนนโน๊ะ เด็กสาวไร้อารมณ์ที่มาพร้อมด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะชวนให้สะพรึง และบุคลิกท่าทางที่ไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป จนได้ใจคนดูทั่วอินเตอร์อย่างไม่น่าเชื่อหลังจากสตรีมมิ่งซีซั่นแรกลงเน็ตฟลิกซ์ ทำให้โปรเจกต์เด็กใหม่ในโลกเก่าถูกหยิบขึ้นมาสานต่ออีกครั้งโดยเรตความรุนแรง 18+ เลือดสาด ตีแผ่เรื่องต่าง ๆ แบบไม่มีกั๊ก

ตัวอย่าง เด็กใหม่ ss2 GIRL FROM NOWHERE SEASON 2

Girl From Nowhere Season 2 เด็กใหม่ Ss2

เน็ตฟลิกซ์ที่เล็งเห็นโอกาสที่จะทำให้ซีรีส์นี้ขายกว้างไปมากกว่าเดิม พร้อมขนทัพนักแสดงมากมาย ตั้งแต่ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, แพทริเซีย กู๊ด, นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, เอม-ภูมิภัทร ถาวรศิริ, เมย์-ภัทรวรินทร์ ทิมกุล, มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร ,พลอย ศรนรินทร์ และ นินา-ญารินดา บุนนาค มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราว 8 เรื่องราวที่ดัดแปลงจากข่าวเช่นเดียวกับซีซั่นแรก แต่ที่พิเศษกว่าคือ ครั้งนี้ มันเป็นซีรีส์เล่าต่อกันเป็นตอน ๆ และเข้มข้นกว่าแรงกว่าด้วยทีมเขียนบทนำโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับที่ฝากผลงานสะเทือนสังคมวัยรุ่นกวาดรางวัลทั้งในไทยและอินเตอร์ อย่าง Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า โดยยืนยันสโลแกนที่ว่า “บทลงโทษครั้งใหม่ ที่ ‘สาแก่ใจ’ คนเป็นเหยื่อ” เอาตรง ๆ ส่วนตัวไม่ได้ชอบซีรีส์ซีซั่นแรกมากเท่าไหร่ แต่ชอบในไอเดียการนำเสนอ และประเด็นสะท้อนสังคม แม้บางครั้งจะรู้สึกว่ามันไม่ได้เข้มข้นอะไรขนาดนั้น แต่ก็ยังดูเพราะเห็นการโปรโมทที่ดีของเน็ตฟลิกซ์ในฐานะออริจินัลซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์ ก็เลยเปิดดูซะหน่อย

“เรื่องราวใน เด็กใหม่ 2 ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือต่อเนื่องกับซีซั่นแรก แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ของแนนโน๊ะในพื้นที่สถานศึกษาต่าง ๆ ซึ่งมีตั้งแต่โรงเรียนสห โรงเรียนหญิงล้วน ไปจนถึงการรับน้องในมหาวิทยาลัย ทั้งปัญหาท้องก่อนวัยเรียน ปัญหาสังคม ซึ่งล้วนแต่เกิดขึ้นอยู่ประจำ แต่เธอไม่ได้มาเพื่อผดุงความยุติธรรม เพราะเธอแค่ต้องการความสนุกและความสะใจ เธอมาเพราะด้านมืดของมนุษย์เรียกร้องหาเธอ และเมื่อใดที่มนุษย์ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ก็จงเตรียมรับผลของการกระทำอย่างสาสม มีตั้งแต่ เจ็บนิด ๆ ไปจนถึง ทรมานจนตาย แต่แนนโน๊ะไม่เคยรู้เลยว่าเธอจะต้องพบเจอกับการพิพากษาครั้งใหญ่ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงความคิดและชีวิตเธอไปตลอดกาล แนนโน๊ะไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่เธอก็มีความรู้สึก และนั่นอาจทำให้แผนการในแต่ละครั้งของเธอ ไม่ง่ายอีกต่อไป”

การเล่าเรื่องของเด็กใหม่จะเป็นสไตล์ซีรีส์ที่มีประเด็นหลักคือตัวละครประจำตอนต้องพบเจอกับอะไรบ้างระหว่างที่ตัวละครแนนโน๊ะไปปรากฏตัว ซึ่งแค่เปิดตัวมาก็รู้สึกถึงความแผ่วอย่างบอกไม่ถูก แนนโน๊ะเหมือนไม่มีพลังเหลือล้นเหมือนซีซั่นก่อน เธอมีการคบคิดบ้างแล้วก็ทำเป็นไม่คิด แต่สิ่งที่เธอทำสำเร็จคือการให้คนที่ทำผิดต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ แต่ปัญหาสำคัญของเรื่องนี้ คือมันโคตรจะไม่ลงตัว จริงอยู่ที่ประเด็นข่าวทั้ง 8 จะเป็นข่าวฉาวน่าสนใจ แต่พอมาตีเป็นซีรีส์จริงมันกลับไม่มีความสม่ำเสมอทั้งในด้านความสมจริงหรือความคิดที่ผิดมนุษย์ เข้าใจว่าซีรีส์นี้พยายามจะแฟนตาซีเซอร์เรียล (เหนือจริง อะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลรองรับมากนัก) ซึ่งยอมรับว่าก็ทำได้ดีในแง่ของการใส่ฉากความรุนแรงที่มีมุมกล้องและมุมภาพสวย อาร์ตวิจิตรผิดไปจากซีรีส์ไทยเรื่องอื่น ๆ แต่พอมันมาอยู่รวมกันมันดันไม่ไปด้วยกันนี่สิ ทั้งนักแสดงหลักที่แสดงดีมาก ๆ แต่พอเป็นตัวประกอบกลับรู้สึกโดดไปจากคนอื่นในด้านการแสดง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โทนเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะลึกลับ ซับซ้อน หรือฮาแตกกระแทกใจที่มันไม่ถึงพอมันมีการเล่าเรื่องแค่ 8 ตอนก็กลายเป็นว่าน่าเบื่อมาก ๆ  มีไม่กี่ตอนที่ดีจริง ๆ ซึ่งในซีซั่นแรกนั้นก็มีบาดแผลตรงนี้เช่นกัน แต่ยังไม่เท่า เพราะซีซั่นแรกมีอะไรที่หลากหลายกว่าทั้งในด้านของประเด็น แต่บาดแผลของซีซั่นนี้ดูจะลึกกว่าด้วยการที่ซีซั่นนี้มีพล็อตรองเข้ามาที่ใช้เชื่อมแต่ละตอนเข้าด้วยกันที่ทำให้เนื้อเรื่องดูจะมีความเข้มข้นมากขึ้น แต่พอเอาเข้าจริง มันก็เหมือนการย่ำอยู่ที่รอยเดิม ตัวละครที่เข้ามาเป็นตัวละครร่วมแนนโน๊ะ ไม่ได้น่าสนใจอะไร นอกจากการพยายามเป็นตัวแทนของแนนโน๊ะ แต่ยอมรับว่านักแสดงนั้นเล่นได้ดีมาก  ๆ แต่นั่นแหละองค์ประกอบทำให้ทุกอย่างไม่ไปไหนเลย ถ้าพูดได้เต็มปากก็คือ ไม่สนุก ไม่ว้าว ไม่ได้ยกระดับอะไรเลย ยิ่งใครชอบคาแรคเตอร์แนนโน๊ะอาจจะต้องผิดหวัง เพราะโดนตัวละครใหม่ร่วมนี่แหละแย่งซีนจนน่ารำคาญไปเลย แถมพอดูจนจบก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจาก อย่ามีซีซั่นต่อดีกว่า เลอะเทอะไปใหญ่แล้ว ตัวละครไม่มีการก้าวไปไหนเลยนอกจากการเลือกที่จะตัดสินใจว่าจะทำอะไรแค่นั้น การพิพากษาของตัวละครกลายเป็นเพียงบทคำพูดลอย ๆ ที่พูดออกมาให้ตัวละครดูมีอะไร ทั้ง ๆ ที่ความจริง ตัวเองก็ทำผิดไม่ต่างจากคนที่พวกเขาพิพากษาทั้งนั้นแหละ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในส่วนของประเด็นก็มีความโอเคอยู่บ้างในการพยายามนำเสนอ ที่ทำออกมาแล้วแบบอยากให้คนทำผิดในสังคมเจออะไรแบบในเรื่องบ้าง แต่ส่วนใหญ่คนที่ทำผิดเหล่านี้ก็มักจะมีปม ซึ่งซีรีส์ไม่ได้ใช้ปมเหล่านี้เพื่อทำให้ตัวละครเหล่านี้น่าสงสาร แต่ใช้สะท้อนความเลวร้ายของมนุษย์ที่เกิดขึ้นจากสถาบันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ที่ผู้หญิงถูกมองเป็นสิ่งของ เงินที่สามารถซื้อได้แม้แต่การพิพากษา การรับน้องของรุ่นพี่โหดที่ลอยนวล การต่อต้านหรือหัวขบถต่อระบบที่ไม่ยุติธรรม หรือการเสแสร้ง หลอกลวง แกล้งเป็นในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น หรือแม้แต่สังคมเพื่อนที่ผลักดันให้เหยื่อนั้นกลายเป็นผู้ล่า ทำให้ผู้ล่าต้องทุกข์ทรมาน แต่นั่นแหละสุดท้ายซีรีส์ก็ทิ้งปมไว้ว่าสิ่งที่แนนโน๊ะทำต่อพวกเขาเหล่านี้มันสมควรแล้วจริง ๆ ซึ่งก็ดูเท่ แต่พอมารวมองค์ประกอบที่เล่าเรื่องมาทั้งหมดมันก็ไม่ได้อิมแพ็คอะไรเลย กลายเป็นว่า อ๋อ เล่นงานคนพวกนั้นเหรอ อืม เอาเลย ให้มันจบ ๆ ไป และที่สำคัญงานภาพแต่ละตอนคือมีหลากหลายมาก บ้างตอนเหมือนซีรีส์ บางตอนเหมือนภาพยนตร์ บางตอนเป็นขาวดำ บางตอนมุมกล้องเหมือนถ่ายทำแบบฟุตเทจ บางตอนเล่าผ่านสังคมออนไลน์ ที่ทำให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย และส่งเสริมให้ ดนตรีที่แปลก ๆ นั้นเข้ากับมู้ดเรื่อง ถ้าถามหาความใหม่ของเรื่องนี้นอกจากประเด็น ก็คงจะเป็นงานภาพที่ไม่มีประนีประนอม ทั้งฉูดฉาด เลือดสาด ให้อารมณ์ฟุ้ง ๆ ล่องลอย แต่อย่าลืมว่าซีรีส์นี้ 18+ จัดเต็มในด้านความรุนแรงมาก ๆ ทั้งในด้านการใช้ภาษา เพศ การใช้ความรุนแรง ไม่ควรให้คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีรับชม

สรุป เด็กใหม่ 2 เป็นซีรีส์ที่ยังติดอยู่ในกรอบของการทดลองอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็มีความพยายามที่จะถ่ายทอดออกมาให้มีความหลากหลายที่สุด น่าเสียดายที่การกลับมาของเด็กใหม่ครั้งนี้ มีแต่ความสาสมกับความสะใจ แต่ในด้านความเข้าใจต่อเรื่องราวหรือพล็อตเรื่องผมถือว่าไม่ได้เลย มันอาจจะทำให้เรารู้สึกว่า การพิพากษาคนในสังคมเป็นสิ่งที่ควรทำ มันจะได้สาแก่ใจ ก็แค่นั้น สุดท้ายก็จะมีคนที่คิดไม่ดีโผล่ออกมาเรื่อย ๆ และเราคงไม่สามารถหาแนนโน๊ะมาลงโทษคนพวกนี้ น่าเศร้าที่ในโลกของความเป็นจริง เราไม่ได้มีสิทธิ์ให้ใครต้องรับโทษจากการกระทำได้ทั้งนั้น เราอาจจะตาสว่างในโลกแห่งความเป็นจริง แต่มันอาจจะสว่างจ้าเกินกว่าจะยอมรับได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในซีรีส์แทบเป็นไปไม่ได้เลยในชีวิตจริง และที่เราทำได้คือหาทางเปิดโปงความเลวร้ายของคนเหล่านี้และหวังว่าความยุติธรรมจะตัดสินพวกเขา ผมดูจบมาแปดตอน ผมดีใจมาก ๆ ที่ดูจบสักที นั่งถอนหายใจมาตลอดว่าจะได้เห็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและอะไรที่ดูพีคกว่าซีซั่นแรก แต่นอกจากความร้าย ๆ แรง ๆ หนักหน่วง ผมไม่เห็นอะไรเลยภายในซีซั่นนี้ น่าผิดหวังจริง ๆ ที่คาดหวังเด็กใหม่ว่าจะมีอะไรใหม่ ๆ มาให้เห็น ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์เด็กใหม่ คุณอาจจะชอบ แต่ถ้าเป็นคนดูธรรมดาอาจจะรู้สึกอีหยังวะ ถ้าไม่ใช่แนวทางที่คุณสนใจสไตล์คัลท์ ผมว่าข้ามเรื่องนี้ไปน่าจะดีกว่าครับ มันไม่มีอะไรที่สนุกเลย นอกจากกระแสและความสะใจ

ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์ 

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
  • ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!