playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bubble อนิเมะ Netflix ที่คุณภาพงามสุดติ่ง แต่บทอ่อนสุดๆ

สรุป

อนิเมะงานคุณภาพระดับลงโรงที่มาลงในเน็ตฟลิกซ์ ความงามของภาพสุดติ่ง เพลินตากับความลื่นไหลสวยงามของฟรีรันนิ่งพร้อมเพลงประกอบเพราะๆ ตัวละครนางเอกที่เก็บดีเทลรายละเอียดได้งามสุดๆ โดดเด่นเป็นหน้าตาหลักของเรื่อง แต่ตัวบทอ่อนมาก ขาดดีเทลการลงรายละเอียดในทุกเรื่อง จนเหมือนเรากำลังดูงานภาพสวยๆ ที่มีเนื้อเรื่องเป็นแค่ส่วนประกอบแปะพ่วงมาเท่านั้น

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
4.2 (5 votes)

Pros

  • งานภาพสวยลื่นไหลมาก
  • นางเอกน่ารักเก็บรายละเอียดได้งามสุดๆ
  • ฉากฟรีรันนิ่งล้ำๆ
  • ดนตรีประกอบกับเพลงเพราะ
  • มีเสียงพากย์ไทย

Cons

  • พล็อตหวือหวา แต่บทอ่อนมากขาดดีเทลลงลึกแทบทุกจุด
  • เนื้อเรื่องสูตรสำเร็จจบแบบธรรมดาตามสูตร
  • ฝ่ายตัวร้ายแทบไม่มีบทบาทอะไรกับเรื่องเลย

Bubble บับเบิ้ล ผลงานอนิเมะ Netflix ที่คุณภาพของงานด้านภาพสูงมากในกลุ่มสตรีมมิ่ง และทำลงโรงฉายด้วยเช่นกัน เรื่องราวเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นในโลกแฟนตาซีไซไฟที่มีฉากหลังเป็นโตเกียวที่จมอยู่ในฟองสบู่ขนาดยักษ์

 Bubble (2022) on IMDb

ตัวอย่าง Bubble บับเบิ้ล

เรื่องย่อ

เรื่องราวเกิดขึ้นในโตเกียวหลังจากบับเบิ้ลที่ทำลายกฎแรงโน้มถ่วงตกลงมาบนพื้นโลก เมืองทั้งเมืองตัดขาดจากโลกภายนอกและกลายเป็นสนามเด็กเล่นของกลุ่มวัยรุ่นที่สูญเสียครอบครัว รวมทั้งกลายมาเป็นสนามแบทเทิลของทีมปากัวร์ที่กระโดดแข่งกันไปตามตึกต่างๆ วันหนึ่ง ฮิบิกิ เซียนมือฉมังที่เป็นที่เลื่องลือเรื่องสไตล์การเล่นแสนอันตรายทำท่าบ้าบิ่นจนตกลงมาในทะเลที่แปรเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงได้ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลึกลับช่วยชีวิตเขาไว้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประหลาดที่คนอื่นไม่ได้ยิน ทำไมจู่ๆ ยูตะจึงโผล่มาเจอฮิบิกิ การพบกันครั้งนี้จะนำไปสู่การค้นพบที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

 

รีวิว Bubble

อนิเมะงานสร้างระดับลงฉายทางโรงภาพยนต์จากสตูดิโอ WIT ที่มีผลงานล่าสุด Attack on Titan: Chronicle ร่วมกับผู้กำกับ เท็ตสึโระ อารากิ ที่กำกับไตตันฉบับโรงมาเช่นกัน เรื่องนี้คือทำฉายบน Netflix โดยตรงก่อนแล้วค่อยฉายโรงที่ญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมภายหลัง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับโตเกียวถูกน้ำท่วมทำให้อดคิดถึงผลงานของ มาโกโตะ ชิงไก ใน Weathering With You ฤดูฝัน ฉันมีเธอ ไม่ได้เลยจริงๆ มันดูคล้ายกันมาก แม้สูตรสำเร็จอเนิเมะญี่ปุ่นจะมาแนวๆ นี้กันหมดว่าด้วยหนุ่มสาววัยรุ่นมาพบเจอกันโดยมีพลังพิเศษมาเกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกันแล้วงานของมาโกโตะ ซิงไก บทมันละเมียดละไมล้ำลึกกว่ามาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนจะอินหรือไม่อินได้เลย

ตัวละครของบับเบิ้ลคือ ฮิบิกิ กับ อุตะ ที่ฝ่ายพระเอกคือเด็กหนุ่มผู้หลีกหนีปัญหาภายนอกรวมถึงเสียงดังต่างๆ ในเมืองที่รบกวนเขามาอยู่ในโลกบับเบิ้ลของโตเกียวที่ถูกน้ำท่วมกับมีแรงโน้มถ่วงที่ผิดปกติ ที่ซึ่งเขากลายเป็นเทพปากัวร์ (ฟรีรันนิ่ง) ที่ช่วยทีมทำให้ชนะการเดิมพันด้วยของใช้ในชีวิตประจำวันกับทีมอื่นมาตลอด ซึ่งคนที่อยู่ในนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกเด็กวัยรุ่นหนีปัญหามามาใช้ชีวิตอิสระที่นี่ทั้งนั้น

ส่วน อุตะ คือสาวน้อยที่เกิดจากบับเบิ้ล ที่หลงรักฮิบิกิแต่แรกเจอ แล้วก็พยายามช่วยเขาจากอุบัติเหตุจนกลายมาเป็นสมาชิกในทีมที่มีฝีมืออีกคน แต่เธอก็เป็นตัวละครไขความลับปริศนาต่างๆ ของเรื่อง ในเวลาต่อมา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ อามาโนะ ฮินะ ใน Weathering With You แต่ระดับความลึกของเรื่องต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะบับเบิ้ลสร้างโลกขึ้นมาใหม่แบบมีแต่ปริศนาที่ไม่ได้คิดจะเก็บรายละเอียดอธิบายอะไรเลยให้เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง พระเอกไปฝึกจากที่ไหนมา จู่ๆ เปิดมาก็เก่งเลยโดยไม่มีย้อนความใดๆ เกี่ยวกับปาร์กัวทั้งสิ้น การใช้ชีวิตในเรื่องว่าแต่ละคนไปเอาของใช้มาจากไหนก็ไม่มีบอก (เมืองน้ำท่วมพังเสียหายหมด) มีแค่เลี้ยงไก่ไว้กินไข่ให้ดู ทีมตัวร้ายปาร์กัวใส่หน้ากากเป็นใครมาจากไหนยังไง ทำไมมีรองเท้าพิเศษกว่าคนอื่นก็ไม่มีรายละเอียดเลย หรือแม้แต่หัวใจหลักของเรื่องบับเบิ้ลมาจากไหน มันคืออะไร ในเรื่องพยายามเล่าแบบอ้อมๆ ว่าทุกอย่างเป็นวัฎจักรก้นหอยเหมือนจักรวาลต้องมาหลอมรวมกัน แต่มันก็ไม่ได้สื่อหรือให้คำตอบอะไรเลยว่าบับเบิ้ลตกลงมาทำไม ที่โตเกียวทำไมมีบับเบิ้ลขังไว้ คือเรื่องแทบจะให้คนดูใช้จินตนาการคิดเอาเองทั้งหมด ซึ่งบอกตรงๆ ว่ามันไม่เวิร์คเลยกับการใส่เรื่องมาหลวมๆ แล้วโยนให้คนดูไปคิดเอาเองทั้งหมดแบบนี้ คือถ้าต้องตีความมันก็ควรมีหลักการอะไรยึดโยงให้เห็นบ้าง ในเรื่องนี่เหมือนแค่อยากเล่าเรื่องรักวัยรุ่นแฟนตาซีแล้วก็เลยใส่แบ็คกราวด์แนวไซไฟหลวมๆ เข้ามาให้ได้ขายงานภาพที่น่าตื่นเต้นเท่านั้นเองจริงๆ

ความหลวมของบทนอกจากดีเทลรายละเอียดที่มาต่างๆ แล้ว เรื่องรักก็อ่อนยวบพอกัน ขนาดว่านางเอกเห็นพระเอกปุ๊บรักเลย เป็นรักแรกพบจากฟองสบู่กลายร่างเป็นคนได้ก็ไม่มีอธิบายอะไร เอากันง่ายๆ แบบนั้นเลย แล้วก็พยายามทำให้เรื่องดูมีอุปสรรคซึ้งๆ อย่างนางเอกไม่สามารถแตะตัวพระเอกได้เพราะฟองจะแตกตรงส่วนที่สัมผัสกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยเมคเซนส์เท่าไหร่ขัดกับเหตุการณ์ในเรื่องตั้งแต่แรกที่ช่วยพระเอกขึ้นจากน้ำ คือเขียนบทตรงนี้มาเพื่อบิ้วให้มีดราม่าล้วนๆ ชวนให้คนอินเต็มที่ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อินหรือซึ้งไปกับเรื่องราวได้สักเท่าไหร่ อาจจะมีนิดๆ บ้างในตอนจบของเรื่องที่มาตามสูตรดราม่าเศร้าๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่คนดูคงรู้อยู่แล้วว่าจะจบแบบนี้

จริงๆ เหตุผลที่ตัวบทอ่อนยวบยาบขนาดนั้นคาดว่าอาจจะเป็นเพราะความตั้งใจของผู้สร้างอยากขายแต่แนวภาพสวยล้ำมาแต่แรกก็ได้ ซึ่งยอมรับจริงๆ ว่างานภาพในเรื่องนี้สวยสุดๆ จากองค์ประกอบที่สร้างมาให้เล่นตรงนี้โดยตรง จากสีสันหลากหลายของฟองสบู่ที่ลอยประดับฉากอยู่ตลอดเรื่อง ฉากโตเกียวพังทลายใต้น้ำท่วม  แรงดึงดูดที่ผิดปกติทำให้ซากสิ่งของลอยค้างอยู่บนอากาศ ช่วยให้การเล่นปาร์กัวผ่านซากปรักพังร่วมกับการจั๊มบนฟองสบู่เป็นจุดขายหลักของเรื่อง ผ่านภาพลื่นไหลตามไปยังจุดหวาดเสียวต่างๆ อย่างน่าตื่นเต้น โดยตัวเอกทั้งคู่ต่างก็มีฝีมือเหนือกว่าคู่แข่งแบบโชว์กันอยู่สองคนแทบจะทั้งเรื่องไปเลย ไม่ต้องขายบทลุ้นอะไรกับคู่แข่ง เน้นให้ดูสกิลเทพสองคนนี้ล้วนๆ ซึ่งก็โอเคเพลินดีกับฉากอนิเมชั่นที่ลื่นไหลได้คุณภาพสูงมากขนาดนี้

นอกจากนี้งานภาพยังเน้นที่ตัวนางเอกแบบบรรจงสุดๆ อย่างเห็นชัดโดดมาจากตัวละครอื่นทั้งหมดไปเลย ซึ่งเข้าใจแหละว่าแนวอนิเมะตัวละครสาวน้อยน่ารักคือจุดขาย ซึ่งก็ตอบโจทย์เลยเพราะดีไซน์คาแรกเตอร์ เครื่องแต่งกาย นิสัยบ๊องๆ น่ารัก คือสูตรสำเร็จแฟนอนิเมะตรงๆ เลย แล้วยังเน้นความปราณีตในลายเส้นความคมพื้นผิวเวลาโคลสอัพให้ละเอียดชัดสุดๆ เหมือนนางเอกเป็นตัวละคร 4k อยู่คนเดียวทั้งเรื่องแบบนั้นได้เลย

นอกจากภาพแล้วตัวเรื่องยังใช้เสียงดนตรีมาเป็นเนื้อหาหลักร่วมบอกเล่าไปพร้อมกับภาพด้วย โดยในเรื่องตัวเอกทั้งคู่จะได้ยินเสียงเพลงลึกลับกันอยู่สองคน ซึ่งก็เป็นเสียงก้องกังวาลใสๆ ฟังแล้วไพเราฝห่อารมณ์ลึกลับเข้ากับเรื่องดี ในเรื่องยังมีเพลงประกอบเพราะๆ จาก ฮิโรยูกิ ซาวาโนะ นักแต่งเพลงประกอบชื่อดังร่วมอยู่ด้วย

สรุป

เป็นอนิเมะที่คุณภาพด้านภาพที่สูงมากจริงๆ แต่เนื้อเรื่องค่อนข้างพื้นๆ ไม่ได้สนุกหรือประทับใจมากอย่างที่คาดหวังไว้ ถือว่าดูได้ แต่ไม่ดูก็ไม่ได้พลาดอะไรไป ยิ่งถ้าไม่ได้เป็นคออนิเมะญี่ปุ่นก็ผ่านไปได้เลยครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!