playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Catherine Called Birdy ตลกใสซื่อบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ ไม่ได้ยัดเฟมินิสต์จนน่าเกลียด (ไม่สปอยล์)

Catherine Called Birdy

Summary

ตัวหนังถือว่าดูชิลๆ เพลินๆ สนุกแบบขำนิดหน่อยกับขำก๊ากลื่นไหลไปเรื่อยๆ กับเรื่องแผนป่วนยื้อเวลาการแต่งงานของเบอ์ดี้ ไม่ใช่หนังเฟมินิสต์จ๋าอะไรมาก แม้จะเป็นเรื่องความเท่าเทียมกับผู้หญิงโดยตรง แต่ไม่ยัดเยียดมีความเป็นธรรมชาติใสๆ กับความคิดของตัวเอก และก็ไม่ได้ยกมาแต่ปัญหาของผู้หญิง แต่มีปัญหาของผู้ชายกับ LGTB เฉกเช่นเดียวกันแทรกมาด้วย แต่ตอนจบแอบง่ายไป จนทำให้เรื่องดูจบแล้วก็จบเลยดูธรรมดาไป

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ประเด็นความเท่าเทียมย้อนยุค
  • ความใส่ซื่อของนางเอกเบอร์ดี้
  • ยิงมุกตลกขำๆ ได้ตลอด
  • มีซับไทย

Cons

  • จบแบบหาทางลงง่ายไป

 

Catherine Called Birdy หนัง Amazon Prime ย้อนยุคสร้างจากนิยายปี 1994 ของอังกฤษ เรื่องราวของเบอร์ดี้ สาวน้อยวัย 14 ปีที่นิสัยแก่นแก้วแสนดื้อไม่เป็นสุภาพสตรีตามกรอบจารีตประเพณีในยุคนั้น จนพ่อพยายามหาคนมาแต่งด้วยเพื่อหวังทรัพย์สินของเจ้าบ่าวมาช่วยกู้สถานการณ์บ้านถังแตกในเวลานั้น แต่เบอร์ดี้กลับพยายามหาเรื่องกับทุกคนที่มาดูตัวเธอเพื่อไม่ให้ต้องตกไปเป็นเจ้าสาวของใคร
 Catherine Called Birdy (2022) on IMDb

 

รีวิว Catherine Called Birdy

เรื่องนี้จะบอกว่าเป็นหนังเฟมินิสต์ย้อนยุคก็ไม่เชิงซะทีเดียว ถึงตัวเรื่องจะใช้ตัวเอกเด็กสาวหัวขบถมาดำเนินเรื่อง แต่ตัวละครเบอร์ดี้ในเรื่องจริงๆ ก็คือเด็กผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองสุดๆ หลายอย่างก็ผิดแปลกจากคนทั่วไปมากมายแทบจะเรียกว่าหญิงบ้าบอเลยก็ได้ อย่างการอ่านไบเบิลแล้วตลกขำที่นักบุญได้รับความเดือดร้อนจากเส้นทางนี้ ซึ่งความบ้าบอต่างๆ ของเธอก็ทำให้เกิดมุกตลกที่พยายามยิงมาทั้งเรื่อง ซึ่งก็ได้ผลมีทั้งขำนิดๆ กับขำก๊ากในบางมุกที่คาดไม่ถึงว่าเธอจะทำเหมือนกัน ตัวเบอร์ดี้เองก็ไม่ได้จะร้องเรียกหาความเท่าเทียมโดยตรง แต่เธอแค่รู้สึกไม่อยากทำอะไรก็ไม่ทำแค่นั้น โดยเป็นความคิดใสๆ แบบเด็กๆ จะเรียกว่าเป็นเฟมินิสต์แบบเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามยัดเยียดคนดูก็ว่าได้ ซึ่งมันทำให้เรื่องนี้ดูชิลเพลินๆ ไปกับดราม่าความเท่าเทียมต่างๆ ในเรี่องแบบไม่เครียดเลยสักนิด แต่ก็ยังสื่อให้เราเข้าใจได้ว่าเรื่องพวกนี้สำคัญยังไงกับปัญหาที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ตัวเรื่องไม่ได้ใส่แค่ปัญหาของผู้หญิงที่ถูกกดขี่ แต่ใส่ตัวละครอาจอร์จ อาผู้ชายของเบอร์ดี้ที่เป็นนักรบศาสนาและเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เป็นธรรมอย่างดี ซึ่งเบอร์ดี้เองแม้ไม่เคยคิดจะแต่งกับใคร แต่ก็รักอาแบบเป็นความรักใสๆ ที่จริงจัง แต่ตัวอาของเบอร์ดี้เองก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันคือถูกครอบครัวกำหนดให้แต่งกับคนที่ไม่ได้รัก เพื่อหวังในเงินทองของฝ่ายเจ้าสาวเฉกเช่นเดียวกันอยู่ดี โดยมีสิ่งแลกเปลี่ยนคือยศตำแหน่งที่อามีเป็นของแลกเปลี่ยนให้ได้ตรงนี้มา แต่เรื่องก็ไม่ได้มาในแนวคลุมถุงชนดูแล้วเลวร้ายด้วย เพราะสุดท้ายความรักก็อาจจะไม่ใช่แค่ต้องรักคนที่รัก แต่เป็นอย่างอื่นมากมายมาประกอบที่ไม่ได้เป็นอย่างตามใจเราคิดเสมอ ซึ่งตัวเรื่องแฝงสิ่งนี้ไว้ให้เห็นกับการแต่งงานของอาจอร์จได้ดีเลย

นอกจากนี้ตัวเรื่องยังใส่ตัวละคร LGTB ไว้อย่างเนียนๆ แบบเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งถือว่าเป็นความฉลาดของบทที่แฝงตัวละครแบบนี้มาในเรื่องแบบคนดูไม่เอะใจ ก่อนเฉลยมาซึ่งไม่ได้หวังผลให้เซอร์ไพรซ์ แต่เป็นการทำให้เห็นว่าไม่ใช่แค่เบอร์ดี้ที่มีปัญหาเรื่องความเท่าเทียม แต่คนอื่นก็มีปัญหาแตกต่างไปเช่นกัน โดยที่บางคนอาจจะแย่กว่าที่เบอร์ดี้เจออยู่ก็เป็นได้

ด้วยเสน่ห์ของนักแสดงเด็กอย่าง Bella Ramsey ที่ผ่านงานดังมาแล้วหลายเรื่อง +กับบทบาทป่วนๆ ในเรื่อง ตัวหนังถือว่าดูชิลๆ เพลินๆ สนุกแบบขำนิดหน่อยกับขำก๊ากลื่นไหลไปเรื่อยๆ กับเรื่องแผนป่วนยื้อเวลาการแต่งงานของเบอ์ดี้  แต่เหมือนว่าสุดท้ายแล้วจะหาทางออกให้กับการแต่งงานของตัวเบอร์ดี้ไม่ได้ ก็เลยต้องหาทางลงสวยๆ ที่อาจจะไม่สมเหตุผลนัก แต่ก็พอเชื่อได้ ซึ่งพอเรื่องจบแบบใสๆ ชิลๆ ทั้งๆ ที่เล่นประเด็นสำคัญเรื่องขายลูกกินที่มันค่อนข้างหนัก และน่าจะมีบทเรียนให้กับพ่อบ้าง ก็เลยเป็นหนังที่จบแล้วจบเลยแบบธรรมดาไปหน่อยครับ

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!