playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Colors of Evil: Red (Netflix) สืบสวนฆาตกรรมที่เล่าเรื่องเหยื่อได้ดี แต่ส่วนของอัยการธรรมดามากไป

Colors of Evil: Red

Summary

หนังสืบสวนฆาตกรรมที่ใช้วิธีการเล่าเรื่องเหยื่อก่อนถึงจุดที่ตายได้ดี แต่การสืบสวนในปัจจุบันค่อนข้างธรรมดาและเดินเรื่องค่อนข้างช้า มีจุดหักมุมใหญ่ที่ไม่ค่อยสมเหตุผล แต่ถ้าผู้ชมที่ชอบแนวฆาตกรรมก็ยังถือว่าดูได้ เพราะเรื่องก็ไม่ถึงกับแย่ แค่มันธรรมดาทั่วไปเท่านั้นครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • แนวสืบสวนฆาตกรรมที่เล่าเรื่องย้อนรอยเหยื่อที่ตายไป
  • ฉากรุนแรงทางเพศเยอะ

 

Cons

  • จุดหักมุมของเรื่องไม่ค่อยสมเหตุผล
  • ฉากสืบสวนของตัวเอกธรรมดาทั่วไป

Colors of Evil: Red แดงดั่งปีศาจ ภาพยนตร์ Original Netflix แนวสืบสวนฆาตกรรมจากโปแลนด์ เมื่อพบศพหญิงสาวบนชายหาดถูกตัดริมฝีปากไป อัยการจึงร่วมมือกับแม่ของเหยื่อในการสืบหาความจริงที่ซ่อนอยู่ในคดีฆาตกรรมนี้

 

รีวิว Colors of Evil: Red (ไม่สปอยล์)

หนังแนวสืบสวนฆาตกรต่อเนื่องที่เล่าเรื่องแบบเปิดเผยตั้งแต่แรกว่าเหยื่อถูกฆ่าโดยใคร แต่ค่อยๆ เล่าย้อนกลับระหว่างเรื่องไปเรื่อยๆ ถึงเหตุการณ์ในชีวิตระหว่างทางก่อนจะไปถึงจุดที่เธอถูกฆ่า โดยทำให้ผู้ชมค่อยๆ เห็นว่าฉากแรกที่เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่ฉากสุดท้ายในชีวิตของเธอ โดยเรื่องก็นำเสนอเหตุการณ์ของเหยื่อคนนี้ที่ถูกคนร้ายใจโหดที่มีอำนาจกดขี่ข่มเหงทารุณทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหนัก มีฉากรุนแรงทางเพศเยอะ และคนร้ายยังมีอำนาจอิทธิพลยิ่งใหญ่ในเมืองที่สามารถปกปิดคดีได้ ซึ่งก็เป็นแนวพล็อตสำเร็จรูปที่หลายๆ เรื่องใช้กันเพื่อให้ผู้ชมเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย แต่นั่นไม่ใช่ไคลแม็กซ์ของเรื่องนี้ครับ

นอกจากเรื่องของเหยื่อที่ตายไปแล้ว หนังเล่าเรื่องของอัยการที่พยายามสืบคดีนี้ที่ถูกปิดอย่างไวในตอนแรก โดยการโยนบาปให้ผู้ต้องหารายหนึ่งจนเขาตัดสินใจกระโดดตึกตาย เรื่องก็เล่าขั้นตอนการทำงานอัยการที่ไม่ยอมให้คดีนี้ถูกปิดโดยการนำสืบแบบลับๆ กับตำรวจ โดยมีแม่ของเหยื่อที่เป็นผู้พิพากษาช่วยสืบอีกแรง ซึ่งเรื่องก็ดำเนินคู่กันไประหว่างที่เล่าเรื่องของเหยื่อที่ตายไปด้วย 

จุดดีของเรื่องคือการเล่าย้อนกลับของเหยื่อ เรื่องทำส่วนนี้ได้น่าติดตามเพราะมันพลิกผันจากฉากแรกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเน้นความน่ากลัวของคนร้ายที่ทารุณเหยื่อ แต่ในส่วนของอัยการตัวเอกเรื่องค่อนข้างธรรมดามาก เรื่องก็เอื่อยค่อยๆ สืบไปเรื่อยๆ เพื่อสนับสนุนเหตุการณ์ของเหยื่อในอดีต ทำให้เหมือนสองเรื่องนี้จะมารวมกันที่จุดหนึ่ง แต่แล้วจุดเฉลยเหตุการณ์สุดท้ายก็ดูไม่น่าเชื่อถือ เป็นความพยายามหักมุมที่พังเรื่องราวที่นำเสนอมาทั้งหมดทิ้งไปแบบไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ครับ 

 

สรุป หนังสืบสวนฆาตกรรมที่ใช้วิธีการเล่าเรื่องเหยื่อก่อนถึงจุดที่ตายได้ดี แต่การสืบสวนในปัจจุบันค่อนข้างธรรมดาและเดินเรื่องค่อนข้างช้า มีจุดหักมุมใหญ่ที่ไม่ค่อยสมเหตุผล แต่ถ้าผู้ชมที่ชอบแนวฆาตกรรมก็ยังถือว่าดูได้ เพราะเรื่องก็ไม่ถึงกับแย่ แค่มันธรรมดาทั่วไปเท่านั้นครับ

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!