playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Detective Forst ได้แค่ฉากศพฆาตกรรมโหด แต่เนื้อเรื่องไม่สมเหตุผลหลายอย่างมาก

Detective Forst

Summary

ซีรีส์แนวสืบสวนฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ไม่สมเหตุผลของเรื่องมากมาย และยังไม่ยอมจบในซีซั่นด้วยการบิดเรื่องไปอีกทาง แต่ไม่น่าติดตามเอาซะเลย ยกเว้นคนอยากดูพวกฉากศพโหดๆ ของเรื่องที่ทำได้น่ากลัวก็อาจจะพอกล้อมแกล้มได้เท่านั้นครับ 

Overall
4/10
4/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ฉากศพทำได้น่ากลัว มีความรุนแรงสูง

Cons

  • เรื่องขาดการอธิบายหลายอย่าง มีช่องโหว่เยอะจนไม่สมเหตุผล
  • ไม่จบในซีซั่นทั้งๆ ที่จบได้

 

Detective Forst ล่าฆาตกรภูเขา ซีรีส์ Orignal Netflix จากโปแลนด์ 6 ตอนจบซีซั่น เรื่องราวของคดีฆาตกรรมลึกลับบนภูเขาสูงที่หนาวเหน็บด้วยวิธีแปลกประหลาด มีเชือกรัดร่างและมีเหรียญโบราณยัดปากศพไว้ นายตำรวจที่สืบคดีรู้สึกผิดปกติเมื่อเห็นสิ่งนี้ ที่ย้อนไปยังความทรงจำวัยเด็กของเขาที่อาจจะเกี่ยวข้องกับฆาตกรก็เป็นได้
Detective Forst (2024) on IMDb

 

รีวิว Detective Forst ล่าฆาตกรภูเขา

ซีรีส์ที่สร้างจากนิยายของโปแลนด์เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนวางเรื่องได้ดี แต่ที่จริงก็ไม่ได้แตกต่างไปจากแนวนี้สักเท่าไหร่ เรื่องเริ่มจากฆาตกรต่อเนื่องที่ทิ้งร่างไว้บนภูเขาหลายศพ โดยศพมีเชือดรัดร่างขึงไว้แบบแปลกประหลาดแตกต่างกัน และยังอยู่ในสภาพที่เป็นไปไม่ได้ว่าลงมือเพียงคนเดียว (อย่างการลากศพขึ้นไปห้อยบนหอสูงมาก) พร้อมกับเหรียญปริศนาที่ “ฟอร์สต์” ตัวเอกของเรื่องเห็นครั้งแรกก็เกิดอาการปวดหัวและมีภาพความทรงจำในวันเด็กแบบเลือนรางกลับมา แถมตัวเขาเองยังเกี่ยวข้องกับคดีใช้ความรุนแรงจนทำให้ถูกย้ายมาที่นี่ และเรื่องก็ทำให้เขาถูกถอดจากคดีนี้เนื่องจากประพฤติตัวไม่เหมาะสม จนต้องหันไปร่วมมือกับนักข่าวที่พยายามสืบคดีนี้เช่นกัน กลายเป็นการสืบสวนนอกกรอบตำรวจ ทำให้เขาตกกลายเป็นเป้าของการสืบสวนไปด้วย

จากโครงเรื่องถึงมันดูเบสิคและลึกลับตามแนวนี้ได้อยู่ แต่ว่าการใส่เหตุผลเชื่อมโยงเรื่องราวไม่ค่อยดีเลย ทั้งในแง่เหตุผลของฆาตกรที่ต้องเล่นใหญ่โตแบบไม่กลัวโดนจับได้ และทำได้ยังไงก็ไม่มีการเฉลยกลับมาให้ชัดเจนเลย ซึ่งตามปกติแนวฆาตกรรมแบบนี้ต้องมีการย้อนเรื่องให้เห็นว่าฆ่าได้ยังไง และแบกศพไปที่ภูเขาสูงขนาดนั้นได้ยังไง แต่เรื่องนี้คือข้ามฉากอธิบายเหล่านี้ไปหมด มีแต่ฉากศพที่ถูกฆาตกรรมแล้วให้เห็นเท่านั้น

 

ในส่วนแรงจูงใจอาจจะพอเชื่อได้ว่าฆาตกรมีความแค้นลึกมากกับตัวเอก แต่เรื่องกลับพาออกนอกทางกับการตามล่าเหยื่อว่าจะเป็นใครมากมาย จนเหมือนตัวเอกกำลังตามล่าองค์กรอาชญากรรมลึกลับที่ใหญ่โต ไปจนถึงนาซีตัวร้ายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งๆ ที่เรื่องจริงโฟกัสอยู่แค่ความจำของตัวพระเอก ซึ่งพอถึงฉากที่เฉลยความจำก็ปิดจบเรื่องง่ายๆ และยังพยายามหักมุมให้เรื่องดำเนินไปอีกแบบที่ไม่สมเหตุผล กลายเป็นตัวเอกถูกใส่ร้ายว่ากลายเป็นฆาตกรให้ตำรวจตามล่า ซึ่งมันไม่สมเหตุผลเอาซะเลย แต่ตำรวจกลับเชื่อกันง่ายๆ ซึ่งจุดนี้ซีรีส์พยายามบิดทุกอย่างให้เรื่องกลายมาเป็นอีกทาง แม้จะมีฉากที่เหมือนต่อสู้ตัดสินกับฆาตกรแล้ว ก็ยังทิ้งเรื่องต่อไปซีซั่น 2 เพิ่มอีก ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุผลหลายอย่างมาก อย่างฆาตกรตกตึกสูงลงมาบาดเจ็บหนัก แต่กลับหนีรอดและไปฆ่าคนต่อได้อีก ซึ่งทำให้เป็นฉากจบที่แย่มากกว่าการปิดจบคดีไปเลย 

นอกจากนี้ตัวฆาตกรยังขาดความเนียนในการฆาตกรรม หลายฉากอยู่ๆ ก็โผล่เข้าไปถึงเหยื่อและลงมือฆ่าได้ง่ายๆ แม้ว่าเหยื่อนั้นจะเป็นคนใหญ่โตที่มีลูกน้องคุ้มกันทั้งบ้าน หรือฉากที่ฆาตกรเผยตัวแล้ว แต่ตัวเอกกลับไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนั้นแบบไม่มีการอธิบายเหตุผลว่าทำไมอีก ซึ่งเรื่องมีช่องโหว่แบบนี้เยอะมากจนน่าหงุดหงิดจริงๆ

 

ตัวเรื่องยังพยายามเล่าชีวิตของตัวเอกที่มีความสัมพันธ์ลับๆ กับลูกสาวหัวหน้า แต่ก็มีใจให้กับนักข่าวที่เขาขอร่วมสืบคดีกับเธอ โดยพยายามใส่ฉากหึงหวง ฉากเซ็กส์มาคั่นเรื่องแบบไม่จำเป็นเท่าไหร่ โดยที่เนื้อหาส่วนนี้แค่หวังเพื่อเป็นประเด็นปิดท้ายเรื่องต่อไปยังซีซั่น 2 เท่านั้น

 

สรุปเป็นซีรีส์แนวสืบสวนฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ไม่สมเหตุผลของเรื่องมากมาย และยังไม่ยอมจบในซีซั่นด้วยการบิดเรื่องไปอีกทาง แต่ไม่น่าติดตามเอาซะเลย ยกเว้นคนอยากดูพวกฉากศพโหดๆ ของเรื่องที่ทำได้น่ากลัวก็อาจจะพอกล้อมแกล้มได้เท่านั้นครับ 

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!