playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์จีน Dream Raider (HBO) ท่องฝันตามล่าอาชญากรในจิตใต้สำนึก (อัพเดท EP8 จบ)

สรุป

ถือเป็นซีรีส์จีนแนวสืบสวนผสมไซไฟที่แตกต่างหาดูได้ยาก มีความน่าติดตามพอประมาณ งานโปรดักชั่นหลายๆ อย่างดูดี แม้จะไม่เนี๊ยบมากเท่ากับของฝรั่ง แต่ก็โอเคเลยไม่ขัดตาแบบทุนต่ำ เรื่องราวแบ่งคดีเป็นตอน จบในตอน แต่มีโครงเรื่องใหญ่มีตัวร้ายแบบลาสบอสชักใยอยู่ ตัวเรื่องมีเทคโนโลยีล้ำยุคใหม่ๆ ที่อาชญากรนำมาใช้ก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกตอน แต่ตอนจบค่อนข้างแผ่วเบามากกว่าเหตุการณ์ใหญ่ในตอนที่ผ่านมา และก็จบแบบเคลียร์ปมง่ายไปหน่อยจนไม่น่าจดจำ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • แนวสืบสวนไซไฟล้ำๆ ผสม CG ที่ไม่ออกมาดูทุนต่ำ
  • ได้วิเวียน ซู นางเอกไอดอลดังในอดีตมาเล่นเป็นตัวละครสำคัญ
  • เรื่องราวจบในตอนเป็นเคสๆ แต่มีความเชื่อมต่อกัน
  • นักแสดงหญิงในเรื่องหน้าตาสวยน่ารักกันทุกคน
  • ไซไฟในเรื่องไม่ได้มีแค่ท่องฝัน แต่มีหลายอย่างล้ำๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ในแต่ละตอน

Cons

  • ทฤษฎีและหลักการท่องฝันในเรื่องทำออกมาง่ายจนดูกลวงๆ
  • ตัวร้ายดูเป็นพวกหนังแนวทำจากการ์ตูนมากไป
  • ตอนจบเป็นคดีใหญ่โตระดับโลก แต่กลับทำออกมาเบาๆ จบง่าย ไม่สมกับเป็นตอนจบของเรื่องที่ปูมาใหญ่โตเลย

Dream Raider ซีรีส์จีนแนวไซไฟทุนสร้างสูงของช่อง HBO Asia เรื่องราวการตามล่าอาชญากรที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ผ่านเทคโนโลยีท่องฝันสุดล้ำที่ยังอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน

ตัวอย่าง Dream Raider HBO Go

หมายเหตุรีวิวจากการรับชมต่ออาทิตย์มีอัพเดทไปจนจบ ซีรีส์มาทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.00 น.

เรื่องราวเริ่มด้วยการสืบคดีเด็กสาวหายตัวไปนับร้อยของนายตำรวจ “หลี่ เซียว” ก่อนพบกับคนที่หนีมาได้สองคนในสภาพปางตาย พร้อมรอยแผลปริศนาที่คอ จนต้องไปขอคำปรึกษากับ ดร.เฉิง เทียนลี่ ที่ตอนนี้ติดคุกอยู่จากคดีที่ทดลองเรื่องเข้าฝันจนเป็นสาเหตุให้เพื่อนตาย และยังได้ ดร.เฉิง อันย่า ลูกสาวของ ดร.เฉิง มาร่วมงานสืบสวนครั้งนี้ด้วย ก่อนที่จะกลายเป็นทีมสืบสวนผ่านการเข้าฝันที่หน่วยเหนืออนุมัติให้จัดตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อคลี่คลายคดีประหลาดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้

หน้าตาภายนอกงานสร้างเรื่องนี้ถือว่าใหญ่โตและพล็อตก็ดึงดูดความสนใจได้มากทีเดียว เมื่อซีรีส์จีนพยายามจับแนวสืบสวนไซไฟล้ำๆ แต่ยังอยู่ในยุคปัจจุบัน ด้วยการเล่นเรื่องราวโลกในฝันที่คงไม่ใช่พล็อตแปลกใหม่อะไรในยุคนี้อีกแล้ว ซึ่งจริงๆ ต้องเรียกว่าซ้ำแล้วก็ได้ เพราะเคยมีหนังที่ทำเครื่องท่องฝันเข้าไปไล่ล่าฆาตกรมาก่อนแล้วในชื่อ The Cell เมื่อปี 2000 ที่เจนนิเฟอร์ โลเปซ เล่นเป็น FBI และมาในเรื่องนี้ก็คล้ายๆ กันด้วยการท่องฝันสืบหาชิ้นส่วนปริศนาในหัวของเหยื่อที่รอดมาปะติดปะต่อกันด้วยหลัก พฤติกรรมศาสตร์ อาชญาวิทยาฆาตกร เพื่อตามล่าฆาตกรวิปริตให้ได้

แล้วเรื่องการท่องฝันนี้มีอะไรที่แปลกใหม่ใส่ไว้อยู่บ้าง ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไรใหม่มากนัก และก็หยิบยืมไอเดียพวกกฎในฝันจากหนังดังอย่าง Inception มาผสมปนๆ อยู่บ้าง โดยที่เทคโนโลยีท่องฝันก็เมคขึ้นง่ายๆ ว่าศาสตราจารย์ในเรื่องที่เป็นพ่อของนางเอกสร้างขึ้นมา แต่ถูกขโมยเทคโนโลยีไปก่ออาชญากรรม ซึ่งตัวร้ายของเรื่องก็เอาไปพัฒนาจนล้ำกว่ามาก สามารถส่งอวตารเข้ามาท่องฝันเป้าหมายจากที่ไหนก็ได้ ไปถึงขั้นแค่เล่นเกมมือถือก็ติดเข้าไปในโลกฝันของตัวร้ายได้แล้ว ซึ่งระหว่างที่ดูก็ต้องทำใจกับความเล่นง่ายแบบไม่ต้องอิงหลักการอะไรมาก ทำให้ดูลวกๆ กับทฤษฎีและหลักการในเรื่องไปเยอะ

แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีคือการขยายสเกลของอาชญากรรมไปใหญ่มากๆ และมีโครงเรื่องใหญ่ซ่อนอยู่ในคดีย่อยของแต่ละตอน เปิดเรื่องมาก็เป็นคดีลักพาตัวเด็กสาวนับร้อยไปอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้น ก่อนที่จะปิดคดีจบในตอน และก็เริ่มตอนใหม่ด้วยคดีอื่นอย่าง เหยื่อที่พร้อมใจกันฆ่าตัวตายจากการเล่นเกมมือถือออนไลน์ ที่ตายไปแล้วก็ยังติดอยู่ในโลกฝันที่ตัวร้ายเซ็ทไว้ และตัวร้ายก็เป็นเครือข่ายองกรค์อาชญากรรมขนาดใหญ่ที่พร้อมก่อคดีไปเรื่อยๆ ซึ่งทางฝ่ายพระเอกก็รวมตัวตั้งทีมสืบสวนท่องฝันขึ้นมาเช่นกัน สำหรับฉากในฝันจะออกแนวกึ่งจริงกึ่งแฟนตาซี เป็นงานโชว์ CG ล้ำๆ ที่แม้จะดูเป็นไม่เนียนแบบเรียลนัก ออกแนว CG เกมมากกว่า แต่ก็ถือว่าละเอียดและโอเคเลยกับจุดนี้ที่ไม่ได้ทำออกมาลวกๆ แบบซีรีส์ทุนต่ำ ถ้าใครชอบพล็อตแบบสืบสวน+ไซไฟเป็นเคสๆ น่าจะโอเคเลย เพราะหาแนวนี้ดูไม่ได้ง่ายๆ เหมือนกัน ยิ่งทางเอเชียนี่น้อยมาก และเรื่องก็วางสเกลไว้ไม่ใช่แค่เล็กๆ ในประเทศ แต่ไปไกลถึงข้ามโลก มีตัวละครหลายชาติมาเกี่ยวด้วยทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น ซึ่งก็ใช้ดาราที่คุ้นหน้าตาดีมาเล่นด้วย ไม่ใช่โนเนม

นอกจากการท่องฝันแล้ว ตัวเรื่องก็มีปมความสัมพันธ์ของตัวละครในครอบครัวนางเอกพ่วงกับเรื่องไซไฟที่ตอนแรกอาจจะดูไม่มีอะไร แค่นางเอกกับพ่อที่ดูเหมือนไม่ลงรอยกัน แต่พอเรื่องเดินไปถึงตอน 2 ปมตรงนี้จะเฉลยออกมา แล้วก็พาไปสู่เรื่องราวอีกจุดที่ไกลกว่าท่องฝันเข้าไปอีก

นางเอกเป็นมะเร็งสมองเหลือเวลาไม่ถึง 6 เดือน จึงพยายามศึกษาโทรจิต เพื่อถอดจิตสำนึกย้ายไปเก็บไว้เป็นข้อมูลเหมือนเป็นอมตะ หรือโลกหลังความตายอีกแบบหนึ่ง (แบบ The Matrix)

เรื่องก็ยังค่อยๆ เฉลยย้อนกลับไปยังจุดกำเนิดของเครื่องท่องฝันขั้นทดลอง ที่กลายมาเป็นเหตุให้ ดร.เฉิง เทียนลี่ ต้องติดคุกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในตอนนั้น และยังมีตัวละครปริศนาสำคัญที่ได้ “วิเวียน ซู” นางเอกไอดอลชื่อดังในอดีตมาเล่นเป็นบทคนรักของเพื่อนร่วมงานที่หายตัวไป ซึ่งตัวเรื่องทิ้งปริศนาไว้กว่าจะเฉลยก็ปาไปตอน 8 สุดท้ายแล้ว และก็ไม่ได้ว้าวสักเท่าไหร่กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ในเรื่องยังพยายามใส่ความสัมพันธ์แบบโรแมนซ์มาบางๆ ระหว่างพระเอก หลี่ เซียว ที่หย่าร้างมีลูกติด 1 คน และเริ่มรู้สึกดีๆ กับนางเอก ดร.เฉิง ที่เสนอตัวช่วยท่องฝันหาหลักฐานมาให้เขา โดยที่เขาเองก็พยายามกันเธอออกห่างจากเรื่องอันตรายพวกนี้ แต่เธอกลับไม่ค่อยฟัง จนกลายเป็นความรู้สึกอยากปกป้องเธอในเวลาต่อมา ซึ่งก็ทำออกมาได้โรแมนติกสไตล์เอเชียเบาๆ ไม่เลี่ยน ออกแนวน่ารักนิดๆ (ตัวนางเอกหน้าตาน่ารักมากด้วย)

อาชญากรรมล้ำยุค (มีสปอยล์)

อาชญากรในเรื่องจะมีคนใหม่โผล่มาทุกตอน และแต่ละตอนก็จะมีแนวการก่ออาชญากรรมด้วยอุปกรณ์ไซไฟล้ำยุคเพิ่มมาเรื่อยๆ อย่าง การถ่ายทอดความทรงจำไว้ขาย การลบความจำของเหยื่อเพื่อใช้ไปก่ออาชญากรรม การควบคุมความคิดของคนผ่านอุปกรณ์ควบคุมสมอง อะไรหลายๆ อย่างในเรื่องนี้ต่อยอดจากเรื่องท่องฝันไปเรื่อยๆ ซึ่งในเรื่องคือต้นกำเนิดของศาสตร์ด้านนี้ที่ ดร.เฉิง พ่อของนางเอกสร้างทิ้งไว้ และถูกคนร้ายนำไปดัดแปลงต่อยอดก่ออาชญากรรมหลายรูปแบบมากขึ้นเรื่อยๆ


สรุปแล้วถือเป็นซีรีส์จีนแนวสืบสวนผสมไซไฟที่แตกต่างหาดูได้ยาก มีความน่าติดตามพอประมาณ งานโปรดักชั่นหลายๆ อย่างดูดี แม้จะไม่เนี๊ยบมากเท่ากับของฝรั่ง แต่ก็โอเคเลยไม่ขัดตาแบบทุนต่ำ เรื่องราวแบ่งคดีเป็นตอน จบในตอน แต่มีโครงเรื่องใหญ่มีตัวร้ายแบบลาสบอสชักใยอยู่ ตัวเรื่องมีเทคโนโลยีล้ำยุคใหม่ๆ ที่อาชญากรนำมาใช้ก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกตอน แต่ตอนจบค่อนข้างแผ่วเบามากกว่าเหตุการณ์ใหญ่ทีผ่านมา และก็จบแบบง่ายไปหน่อยจนไม่น่าจดจำ 

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์เรื่องอื่นของ HBO คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!