playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Ehrengard Netflix งานสร้างของพระราชินีเดนมาร์กที่ตลกจิกกัดชายเจ้าชู้ได้อย่างมีศิลปะ

Ehrengard: The Art of Seduction

Summary

สรุปนี่เป็นหนังย้อนยุคตลกจิกกัดผู้ชายเจ้าชู้ได้อย่างทันสมัย คาดเดาเรื่องราวได้ยาก และแม้จะมาจากงานสร้างของพระราชินีเดนมาร์ก แต่ก็ไม่ได้โปรเจ้าแต่อย่างใด ถึงภายนอกอาจจะดูเชยๆ แต่แนะนำให้ลองเปิดดูจะพบว่ามันแตกต่างไปจากที่คาดไว้มากครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • งานสร้างของพระราชินีเดนมาร์ก
  • หนังย้อนยุคตลกจิกกัดผู้ชายเจ้าชู้
  • นักแสดงสมบทบาท
  • คาดเดาเรื่องราวได้ยาก
  • ไม่มีฉากโป๊เปลือยทางเพศ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ดำเนินเรื่องเรียบๆ ไม่ค่อยมีอารมณ์ตื่นเต้น

Ehrengard: The Art of Seduction (เอียเรนการ์ด ศิลปะแห่งการยั่วยวน)  หนัง Original Netflix เดนมาร์ค เมื่อจิตกรวาดภาพเหมือนผู้เชี่ยวชาญเรื่องหว่านเสน่ห์รับงานสอนศิลปะการล่อลวงให้เจ้าชายขี้อาย แผนการกลับล้มเหลว นำไปสู่เรื่องอื้อฉาวที่คาดไม่ถึง

Ehrengard: The Art of Seduction (2023) on IMDb

 

รีวิว Ehrengard: The Art of Seduction (ไม่สปอยล์)

หนังย้อนยุคราชวงค์แบบสมมุติโลกขึ้นมา โดยมีเบื้องหลังงานสร้างมาจาก “สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก” ที่ทรงดำรงพระองค์ในฐานะประมุขแห่งรัฐในปัจจุบัน (ครองราชย์ 51 ปี พระชนมพรรษา 83 ปี) ซึ่งผู้เขียนเห็นเป็นครั้งแรกของ Netflix ที่มีงานสร้างจากราชวงศ์โดยตรง โดยมีตำแหน่งออกแบบเสื้อผ้า สถานที่ และเขียนบทที่ดัดแปลงจากนิยายเก่าแก่ในชื่อเดียวกัน ซึ่งผู้ชมสามารถดูเบื้องหลังงานสร้างเรื่องนี้ได้จากใน Netflix (ดูเบื้องหลังงานสร้าง คลิกที่นี่)

แม้เรื่องนี้จะสร้างจากพระราชินี แนวเรื่องย้อนยุค หน้าปกกับเรื่องย่อก็ดูเชยๆ คงทำให้คนมองข้ามได้ง่ายๆ แต่ถ้าลองเปิดดูแค่ฉากแรกก็จะได้เห็นเลยว่าเรื่องนี้มีความทันสมัยในการเล่าเรื่องย้อนยุคให้ดูสนุก ตลก จิกกัดยุคสมัยเก่าที่ผู้ชายเจ้าชู้หว่านเสน่ห์เป็นที่นิยม และมักได้รับบทเป็นตัวเอกหลักในเรื่องด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกันในบทจิตกรที่ชื่อ Cazotte  โดยเขาพยายามหว่านเสน่ห์ใส่นางเอกของเรื่อง เอียเรนการ์ด ที่เป็นสาวชั้นสูงในครอบครัวทหาร ทำตนเหมือนเป็นนักรบหญิงวาลคีเรียที่แข็งแกร่งทั้งกายและจิตใจ ซึ่งนี่คือเรื่องราวการยั่วยวนล่อลวงหญิงสาวโดยตรง แต่เป็นในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไปทำให้รัก พร้อมกับบทพูดพร่ำพรรณาสวยงามตามแบบฉบับผู้ชายเจ้าชู้ที่มีหัวศิลปะไปด้วย ซึ่งอาจจะดูน่ารำคาญอยู่บ้าง แต่มันก็แฝงนัยยะสำคัญไว้ด้วยเช่นกัน

 

Ehrengard. (L to R) Mikkel Følsgaard as Cazotte and Sidse Babett Knudsen as The Grand Duchess in Ehrengard. Cr. Courtesy of Netflix © 2023

แต่สิ่งที่เรื่องนี้แตกต่างจากแนวยั่วยวนทั่วไป ก็คือเรื่องนี้เรต 13+ และไม่มีฉากเปลือยกายทางเพศแต่อย่างใด แต่มันมุ่งเน้นไปที่การเดิมพันของตัวละครหลัก Cazotte กับ The Grand Duchess ผู้ว่าจ้างเขาให้มาช่วยลูกชายของตนเอง โดยมีเอียเรนการ์ดเป็นเป้าหมาย แต่ไม่ใช่ตัวเอกหลักที่มีบทเท่าทั้งสองคน ซึ่งอาจจะดูแปลกที่ตัวนางเอกเองกลับมีบทบาทน้อยกว่า ซึ่งนี่เป็นแนวทางของเรื่องนี้ที่ผู้ชมจะคาดเดาไม่ถูกว่าเรื่องมันดำเนินไปในทิศทางไหนจนใกล้ๆ จบถึงจะเข้าใจความสำคัญของเอียเรนการ์ด ซึ่งแม้จะไม่หวือหวาแต่ก็คาดเดาไม่ได้ เป็นทางออกจบเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิงสวยงามลงตัว

 

ตัวนักแสดงเองก็เยี่ยมยอดมาก แต่ละคนดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติมากกับบทบาทที่เต็มไปด้วยตลกร้ายแสบๆ ในแบบผู้ดี โดยเฉพาะ The Grand Duchess ที่ดูแอบสนุกกับเกมเดิมพันนี้ตลอดเวลา เอียเรนการ์ดก็สวยสง่าสมกับบทนางเอกของเรื่องนี้มากๆ

 

ฉากในเรื่องมาจากงานตัดแปะภาพต่างๆ ตามจินตนาการของพระราชินี ซึ่งฉากปราสาทใหญ่ไม่มีสถานที่ตามนั้นจริง ทางผู้สร้างจึงต้องใช้ CG สร้างขึ้นมา และมันก็ออกมาสวยงามมาก รวมถึงฉากในห้องก็ถูกสร้างออกมาให้สวยงามตามจินตนาการเช่นกัน

(L to R) Emilie Kroyer Koppel as Ludmilla & Emil Aron Dorph as Prins Lothar

จุดด้อยของเรื่องคงมีแค่การที่เรื่องดำเนินไปแบบเรียบๆ ไม่หวือหวา เน้นบทสนทนา ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นหรืออารมณ์ลุ้นระทึกอะไรมากเท่านั้น แต่ก็ไม่มีปัญหาทำให้เรื่องอืดหรือน่าเบื่อแต่อย่างใด

 

สรุปนี่เป็นหนังย้อนยุคตลกจิกกัดผู้ชายเจ้าชู้ได้อย่างทันสมัย คาดเดาเรื่องราวได้ยาก และแม้จะมาจากงานสร้างของพระราชินีเดนมาร์ก แต่ก็ไม่ได้โปรเจ้าแต่อย่างใด ถึงภายนอกอาจจะดูเชยๆ แต่แนะนำให้ลองเปิดดูจะพบว่ามันแตกต่างไปจากที่คาดไว้มากครับ


including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!