playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว END OF THE ROAD ดีเดือดมันส์ได้เล็กๆ ในสเกลหนังเกรดบีทั่วไปของ Netflix (ไม่มีสปอยล์)

END OF THE ROAD

Summary

ถือเป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆ ที่พอดูเอามันส์ได้เล็กๆ แต่ก็แอบเสียดายที่เรื่องน่าจะทำให้ใหญ่โตหรือเดือดกว่านี้ได้มากจากพล็อตที่ปูไว้ตอนแรก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะทุนสร้างจำกัด จึงกลายเป็นหนังเกรดบีฟอร์มเล็กทั่วไปของ Netflix เท่านั้นครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • คุณแม่ดีเดือดมันส์ได้ในแอ็กชั่นสเกลเล็กๆ
  • หนังติดตลกนิดๆ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บทช่วงหลังไม่สมเหตุผล
  • ช่วงหลังตัวละครทำอะไรโง่ๆ ตามสูตรมาก
  • จบแบบเดาง่ายมากตามสูตรเป๊ะๆ

 

END OF THE ROAD สุดปลายถนน หนัง  Netflix แนวแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆ เรื่องราวของครอบครัวผิวดำที่เดินทางย้ายบ้านทางไกลหลังผู้นำครอบครัวจากไป แต่แล้วระหว่างทางพวกเขากลับเจอเรื่องสุดอันตรายที่เกิดจากการหักหลังชิงเงินของแก๊งค้ายาสุดโหด 

 

 End of the Road (2022) on IMDb

รีวิว END OF THE ROAD

ตัวหนึ่งเดินเรื่องแบบให้ฟีลเหมือนหนังแนวคนปกติดีเดือด เมื่อต้องไปเผชิญกับเรื่องอันตราย แล้วต้องพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้นให้ได้ โดยเปิดตัวให้ เบรนด้า แม่ของครอบครัวมีสกิลการใช้ปืนและเอาตัวรอดจากคุณปู่ที่เป็นทหารในอดีต แต่เป็นแค่เรื่องเล่าระหว่างเดินทางในรถ ก่อนที่เธอจะต้องงัดเอาสกิลบู๊ในอดีตกลับมาใช้เพื่อช่วยลูกๆ ของเธอ

ตัวหนังเหมือนแบ่งเรื่องเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการเดินทางที่ค่อยๆ ให้เธอเจออันตรายจากคนขาวระหว่างทางนิดๆ พอทำให้เรารู้จักนิสัยใจคอของเบรนด้าว่าไม่ใช่คนที่พยายามมีเรื่องกับใคร ก่อนที่จะเข้าไปเจอกับเหตุการณ์ฆ่ากันของแก๊ง และน้าชายตัวดีดันไปหยิบกระเป๋าเงินก้อนโตนั้นไป ทำให้แก๊งต้องจับตัวลูกชายเธอไปแลกกับการเอากระเป๋ามาคืน ซึ่งช่วงนี้เองที่เรื่องก็พยายามทำให้เกิดอุปสรรคไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อกระเป๋าเงินไปตกในมือคนอื่น เบรนด้าก็ต้องตามล่าเอากระเป๋าคืนมาให้ทันเวลา ซึ่งตัวเรื่องช่วงนี้ทำได้ค่อนข้างระทึก สนุกกับสถานการณ์บีบคั้นสุดๆ โดยที่มีสายจากคนที่เรียกตัวเองว่ามิสเตอร์ครอส เป็นหัวหน้าแก๊งที่ใครๆ ก็ต้องกลัวมาเป็นปริศนาให้คิดอีกว่าเบรนด้าจะเอาตัวรอดจากหมอนี่ได้ไง ซึ่งดูเรื่องจะค่อยๆ เลยเถิดไปถึงขั้นรบกับแก๊งค้ายาเลยหรือเปล่า

แต่แล้วตัวเรื่องกลับหักมุมแบบสุดๆ แบบที่อาจจะคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ใช่ไปในทำนองดีนัก กลายเป็นว่าเรื่องที่ดูเหมือนจะเดือดใหญ่โตกลายเป็นสเกลเรื่องเล็กๆ เปลี่ยนมาเป็นแนวหนังไล่ล่าฆ่าคน แต่บทกลับเต็มไปด้วยเรื่องโง่ๆ แบบเดิมๆ อย่างตีตัวร้ายฟุบแล้วกลับหนีไปเฉยๆ หรือมีโอกาสแต่กลับไม่ทำอะไรเลย ไม่โทรแจ้งตำรวจ เพื่อเปิดให้เรื่องพาไปในแนวไล่ล่าฆ่าคนกันเท่านั้น อาจจะดูมันส์ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่นัก ก่อนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรเป๊ะๆ 

ตัวนักแสดงเล่นได้ดี เบรนด้า ที่เล่นโดย Queen Latifah ดูเป็นคุณแม่ที่เก็บอารมร์โกรธทุกอย่างไว้ภายในเพื่อให้ความปลอดภัยกับลูกเป็นอันดับแรก ก่อนจะระเบิดออกมา และบทก็ยังให้เธอเป็นคนดีจนถึงที่สุดด้วยการพยายามคืนเงินแล้วลายครั้ง แต่เรื่องกลับยังไม่จบตามมาหลอนเรื่อยๆ ซึ่ก็ดูดีเกินจริงไปนิด แต่ก็พอเข้าใจเหตุผลได้ ส่วน Ludacris นักแสดงขายขำจากตระกูลฟาสก็ยังมีบทแบบเดิมมาขายขำในเรื่องนี้ต่อ แต่ก็มีความเป็นดราม่าที่แม้จะไม่เอาไหน แต่ก็ยังพยายามช่วยครอบครัวตามสไตล์ของเขา ซึ่งก็เล่นได้กวนๆ ขำๆ เนียนๆ ไปกับเรื่องได้

 

ถือเป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์เบาๆ ที่พอดูเอามันส์ได้เล็กๆ แต่ก็แอบเสียดายที่เรื่องน่าจะทำให้ใหญ่โตหรือเดือดกว่านี้ได้มากจากพล็อตที่ปูไว้ตอนแรก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะทุนสร้างจำกัด จึงกลายเป็นหนังเกรดบีฟอร์มเล็กทั่วไปของ Netflix เท่านั้นครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!