playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์เกาหลี Itaewon Class ทวงความยุติธรรมด้วยธุรกิจปิดเกมแค้น (อัพเดทครบจบสมบูรณ์)

Contents ซ่อน
Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น

สรุป

ซีรีส์จากสตูดิโอใหม่ของเกาหลีที่ทำเรื่องนี้เรื่องแรก และก็เป็นผลงานจากเว็บตูนที่เรื่องราวมีความพิเศษโดดเด่นมากๆ ด้วยเรื่องราวดราม่าดาร์คเข้มข้นหดหู่ไปกับความอยุติธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้นติดๆ กันจนเป็นปมให้พระเอกคิดล้างแค้นเอาคืน แต่มาในรูปการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ ท้าชนยักษ์ใหญ่ ควบคู่ไปกับปมความรักต่างจุดยืนทางธุรกิจกับนางเอกโลกไม่สวยความคิดสีเทาๆ ที่แตกต่างจากพระเอกอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังแฝงด้วยความรู้สึกอิ่มเอมไปกับความรักและมิตรภาพในเรื่องที่เต็มไปด้วยอุปสรรคพร้อมๆ กัน

แต่ถ้าใครไม่ชอบที่ช่วงหลังของเรื่องตั้งแต่ EP13 ไปจะเปลี่ยนเป็นแนวรัก และละทิ้งเหตุผลหลายอย่างที่ทำมาทั้งหมดในส่วนการต่อสู้ทางธุรกิจ ขอให้ข้ามเรื่องนี้ไปเลยครับ เพราะหนังเปลี่ยนทิศทางไปจากตอนแรกมากจนเหมือนคนละเรื่องกันเลย

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
4.57 (14 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ดราม่าสายดาร์คเนื้อเรื่องเข้มข้นมากๆ
  • เดินเรื่องเร็วทิศทางของเรื่องชัดเจน
  • ฟีลกู๊ดแบบอิ่มเอมไปกับมิตรภาพและความรักที่มาพร้อมอุปสรรค
  • แผนการของพระเอกที่วางไว้ตั้งแต่เด็กน่าติดตาม
  • มีจุดหักมุมแนวดราม่ากับการกระทำของพระเอกอยู่เรื่อยๆ
  • คาแรกเตอร์พระเอกโดดเด่นแตกต่างจากซีรีส์เกาหลีทั่วไป
  • คาแรกเตอร์ ความคิดอ่าน นิสัยของนางเอกโลกไม่สวยออกสีเทาๆ ทั้งคู่
  • สงครามรักสามเส้าของนางเอกสองคนที่สนุกแล้วก็ตลก
  • เจาะลึกธุรกิจในย่านอีแทวอนให้ได้ชม
  • เพลงประกอบโดดเด่นทันสมัยเข้ากับเนื้อเรื่องทุกตอน

Cons

  • คาแรกเตอร์รูปร่างหน้าตาพระเอกไม่มีเปลี่ยนเลยตลอดเรื่อง
  • การก้าวกระโดดทางธุรกิจช่วงหลังโอเว่อร์มากเกินไป
  • ตั้งแต่ EP13 เรื่องราวกระโดดข้ามมากไป จนทำให้ขาดความต่อเนื่อง
  • ช่วง EP14 ไปจนจบเรื่องกลายเป็นหนังรักเต็มตัว ในส่วนของเกมธุรกิจหายไปเกือบหมด
  • ช่วงใกล้จบเรื่องราวขาดเหตุผลรองรับหลายเรื่องมาก
  • ฉากแอ็กชั่นตอนท้ายเรื่องทำออกมาไม่สมเหตุผลและง่อยมาก

Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น ซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องใหม่สร้างจากการ์ตูนดังในเว็บตูน อีเทวอนย่านที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงของกรุงโซล ชายหนุ่มผู้เก็บงำความแค้นต่อบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ที่กระทำเรื่องอยุติธรรมต่อเขา ตัดสินใจเปิดบาร์ในที่แห่งนี้กับกลุ่มเพื่อนหัวขบถ เพื่อสร้างธุรกิจในฝันของเขาให้ยิ่งใหญ่จนล้มบริษัทนั้นให้ได้

 Itaewon Class (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น

หมายเหตุ รีวิวนี้เป็นงานอัพเดทตามการฉายทุกอาทิตย์จนจบ

ซีรีส์เกาหลีที่มาจากการ์ตูนดังในชื่อเดียวกันจากเว็บตูนของเกาหลี เขียนโดย Jo Kwang Jin (คลิกดู webtoon เกาหลีได้ที่นี่) และก็มารับหน้าที่เขียนบทในซีรีส์ด้วย โดยเสริมเรื่องราวจากในการ์ตูนให้สมจริงยิงขึ้น ส่วนงานกำกับผลิตโดยบริษัทหน้าใหม่ของเกาหลี Showbox ที่พึ่งเริ่มต้นเข้าวงการด้วยการทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก และก็เป็นโปรเจ็กต์ร่วมกับ Netflix ที่ทำซีรีส์จากเว็บตูนฉายในปี 2020 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและที่จะมีตามมาคือ My Holo Love (อ่านรีวิวที่นี่) นี่จึงเป็นผลงานเล่าเรื่องสไตล์ที่ฉับไวเข้มข้นเหมือนแบบในเว็บตูนที่ต้องทำให้คนติดตามต่ออาทิตย์ด้วยเนื้อหาสั้นๆ ไม่กี่หน้า และก็ดูเหมือนว่าผลงานชิ้นนี้จะทำได้ตามที่ถูกคาดหวังไว้จริงๆ ด้วย

ชื่อของซีรีส์มาจากย่านดังในเกาหลี อีแทวอน (Itaewon) ย่านที่มีความแตกต่างหลากหลายหลายและมีชาวต่างชาติเยอะที่สุดในกรุงโซล บรรยากาศแถวนี้จึงออกแนวอินเตอร์มีที่เที่ยวกลางคืนคึกคักเป็นพิเศษ คล้ายๆ ถนนข้าวสารของไทย แต่ขนาดพื้นที่ใหญ่กว่ามาก และด้วยความที่ทิศตะวันตกของอิแทนวอนอยู่ใกล้กับศูนย์บัญชาการกองทหารยงซาน (Yongsan Garrison) ของสหรัฐอเมริกา ย่านนี้ได้กลายเป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติไปโดยปริยาย และยังเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมและอาหารจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงบาร์หลากหลายเชื้อชาติไว้รองรับนักท่องเที่ยว
ซึ่งเรื่องราวเริ่มต้นจาก “พัคแซรอย” (รับบทโดย Park Seo-joon) มีผลงานหนังโรงเรื่องล่าสุดปลายปีก่อนฉายในไทยชื่อ “มือนรกพระเจ้าคลั่ง” กับซีรีส์เลขาคิม ซึ่งอายุจริงนักแสดง 31 ปีเข้าไปแล้ว แต่ว่าเรื่องจะเริ่มต้นจากสมัยนักเรียนมัธยมปลายที่แซรอยอายุ 16 ปีพึ่งย้ายมาโรงเรียนใหม่ก่อนจบ ม.ปลายเพื่อเตรียมสอบเป็นตำรวจ แต่แล้วในวันแรกที่เริ่มเข้ามาก็พบกับ “ชางกึนวอน” ลูกชายของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารที่พ่อของแซรอยทำงานด้วยมาทั้งชีวิต ด้วยความที่แซรอยเป็นพวกไม่เข้าสังคมและก็ทนเห็นความอยุติธรรมที่ชางกึนวอนแกล้งเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้ จึงเข้าไปห้ามจนกลายเป็นการทำร้ายชางกึนวอนไป และจากจุดนั้นเองกับเรื่องที่ตามมาจากการใช้อำนาจข่มเหงของพ่อชางกีนวอน ทำให้ชีวิตของเขากับพ่อได้พังทลายลงจนไม่อาจหวนกลับมามีความสุขเล็กๆ ตามที่ฝันไว้ได้ นั่นทำเขาคิดแผนการแก้แค้นผ่านการทำธุรกิจเล็กๆ เริ่มต้นจากบาร์ในย่านอีแทวอน เพื่อหวังโค่นบริษัท ‘ชางกา’ ของตระกูลชางกีนวอนให้จงได้
Solbin จากวง laboum 
Solbin จากวง laboum มาเป็นนักแสดง Cameo เปิดเรื่องราวสมัยเด็กมัธยมของพระเอก (ยังไม่แน่ว่ามีบทเพิ่มอีกไหม)

ซีรีส์เล่าเรื่องแฟลชแบ็คย้อนกลับมาจากจุดที่พระเอกน่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจแล้วระดับหนึ่ง ผ่านตัว “อีซอ” (รับบทโดย Da-mi Kim) ลูกทีมสาวอัจฉริยะไอคิว 162 ที่มีนิสัยแปลกๆ แตกต่างจากคนทั่วไปในสังคมเหมือนพระเอก และก็เป็นตัวละครในรักสามเส้าของพระเอกกับ “โอซูอา” (รับบทโดย Kwon Nara) ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กและเป็นรักแรกของพระเอกที่ยังอยู่มาตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวเดินหน้าไปไวถึง 15 ปี โดยที่ใช้นักแสดงเดิมแต่เพิ่มอายุบนใบหน้าเอา ซึ่งก็ทำได้ดีดูแตกต่างกับสมัยเด็กมัธยมได้อย่างสมจริง (แต่ของพระเอกจะดูไม่เปลี่ยนแปลงมาก)

หนังโฟกัสไปที่นิสัยจุดยืนของพระเอกที่แน่วแน่มั่นคงมากๆ คิดและเชื่อมั่นแบบไหนก็เดินหน้าทำตามที่คิดให้ได้ แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัวหรือความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาอารมณ์ในการดูซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ได้ไปในแนวทางรักโรแมนติกหวานๆ สักเท่าไหร่ แต่เน้นดราม่าจัดหนักกับปูมหลังของพระเอกที่ถูกความอยุติธรรมจากคนรวยเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้คาแรกเตอร์พระเอกมีความหนักแน่นกับแรงจูงใจมากพอให้คนดูเชื่อว่า พระเอกคือเด็กวัยรุ่นนักวางแผนที่เติบโตมาด้วยความแค้น+กับความตั้งใจโค่น “ชางกา” ธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ลงด้วยเกมธุรกิจแบบตรงๆ จากที่โดนประธานชางกา พ่อของคู่อริดูถูกเขาไว้เมื่อ 15 ปีก่อน แม้จะมีความแค้นลึกล้ำแต่พระเอกก็เป็นตัวละครที่มีลักษณะนิสัย อ่อนน้อม ระงับอารมณ์เก่ง ไม่โกรธใครง่ายๆ จากบทเรียนที่ผิดพลาดในอดีต

 

ลูกทีมพระเอกมีบทบาทสำคัญทุกคน

ด้วยคาแรกเตอร์แบบนี้พระเอกจึงมีบุคลิกผู้นำที่น่านับถือ และก็ดึงดูดคนให้มารวมตัวกันด้วยมิตรภาพและสัญชาตญาณส่วนตัว ที่พระเอกมีเซนส์ว่าใครไปกับเขาได้ ซึ่งหนังเปิดเรื่องตอนแรกให้เห็นเลยว่าลูกทีมของพระเอกมีใครมั่ง และก็ค่อยๆ ใส่ปูมหลังแต่ละคนที่ลึกซึ้งกลับเข้ามาได้น่าสนใจไม่แพ้กันสักคน ซึ่งนอกจากคนเกาหลีแล้วก็ยังมีคนผิวดำเชื้อชาติแอฟาริกามาร่วมเล่นเป็นตัวละครหลักในเรื่องอีกด้วย นับว่าไม่ค่อยเห็นได้ง่ายนักในซีรีส์เกาหลี แต่ด้วยบทที่อีแทนวอนเป็นสถาณที่รวมคนหลายเชื้อชาติ บทนี้จึงมีความสำคัญไม่น้อยกับการเดินเรื่องแนวธุรกิจในย่านนี้ และกลายเป็นตัวแปรหนึ่งที่ช่วยพลิกสถาณการณ์ได้แบบที่ลูกทีมคนอื่นๆ

 

รวมตัวละครมีปมในสังคมเกาหลี (สปอยล์)

หนึ่งในลูกทีมคนสำคัญที่มีบทมาตั้งแต่แรกคือ “มาฮยอนฮี” ที่เปิดมาเป็นผู้ชายพ่อครัวพระจำร้านพระเอก และต่อมาก็ได้กลายเป็นผู้ชายข้ามเพศ (ทรานเจนเดอร์) ที่ผ่าตัดสมบูรณ์แล้ว และก็กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในเรื่องที่มีผลถึงธุรกิจอาหารของพระเอก หนังใส่ปมปัญหานี้ไว้อย่างลึกซึ้งสะท้อนสังคมเกาหลีที่ยังไม่เปิดกว้างในเรื่องนี้เท่ากับบ้านเรา และก็มีอคติปิดกั้นเชื้อชาติคนผิวสี มีการเหยียดผิวหรือเพศสภาพ แม้ภายนอกจะมองดูว่าเจริญแล้วก็ตาม

เรื่องลูกนอกสมรสก็เป็นประเด็นปัญหาสำคัญกับตัวละครกึนซูที่ถูกวางไว้เป็นน้องชายของคู่แค้นพระเอก โดยที่ทั้งพ่อและพี่ต่างก็มองว่าเป็นแค่ลูกเมียน้อยเกาะกินไปวันๆ จึงไม่ให้ความสำคัญอะไรมาก ยกเว้นแต่ว่าจะทำประโยชน์ให้ ซึ่งก็สะท้อนความจริงในสังคมที่ลูกนอกสมรสเกิดมาก็ถูกจัดสถานะต้อยต่ำกว่าบ้านใหญ่ แม้จะสายเลือดเดียวกันก็ตาม โดยที่ผู้เป็นพ่อที่ให้กำเนิดกลับโทษว่าเป็นความผิดพลาด และใช้เงินเยียวยา แต่กลับไม่มีความรักมอบให้เลย ยิ่งในทางธุรกิจของเอเชียมักเน้นการส่งต่อให้กับสายเลือดแท้ๆ เท่านั้น ทำให้ประเด็นการสืบทอดอำนาจในเรื่องนี้เข้มข้นมากๆ ว่าสุดท้ายแล้วกึนซูจะเป็นยังไงในฉากสุดท้ายของเรื่องนี้

 

สองทีมธุรกิจที่มีดีทั้งคู่

สำหรับเรื่องนี้ตัวละครแบ่งทีมสองฝั่งเป็นขาวกับดำชัดเจน ทางฝ่ายพระเอกเป็นมือใหม่หัดทำธุรกิจเปิดบาร์ โดยค่อยๆ เรียนรู้ด้วยตัวเองทุกตัวละครตามชื่อ Itaewon Class ที่หมายถึง “ชั้นเรียนอีเทวอน” ที่มาจากประสบการณ์จริง แต่ก็มีการเดินเรื่องในทางอื่นร่วมด้วยอย่างการซื้อหุ้น ซึ่งเรื่องราวกระโดดข้ามแบบติดปีกจากย่านอีเทวอนออกมาโลกของตลาดหุ้นที่น่าติดตามไม่แพ้กัน และนอกจากนั้นยังได้อีซอสาวไอคิวสูงมาโชว์สกิลการบริหารงานให้ร้านเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งคนดูเองก็จะได้เห็นรายละเอียดการทำงานของอีซอที่ลงลึกทุกเม็ดในบาร์แบบใส่ใจ ทำให้เราเชื่อได้ว่าเป็นหนังแนวธุรกิจแบบแนวเรื่องเรียลจริงจังไม่ใช่แค่สมมุติเรื่องกันง่ายๆ
ส่วนทางฝ่ายชางกาก็ไม่ได้เป็นแนวร้ายไร้สมอง แต่เป็นทีมที่มีความสามารถสูงเช่นกัน โดยนอกจากบทประธานชางกาที่เหมือนเป็นบอสใหญ่ที่มีกึ๋นกับความสามารถของจริง และก็เป็นเป้าหมายที่พระเอกจ้องโค่นให้ได้แล้ว ยังมีซูอาเพื่อนผู้หญิงที่พระเอกรักมาตั้งแต่สมัยเรียนไปร่วมอยู่ด้วย ซึ่งเธอบอกพระเอกไว้ชัดเจนตั้งแต่เด็กว่าไม่สามารถเดินตามแนวคิดของพระเอกกับพ่อที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพียงเพื่อรักษาความเชื่อของตัวเอง ทำให้ซูอานางเอกอีกคนกลายเป็นตัวละครที่เทาๆ มาตั้งแต่แรก และก็ยังเลือกอยู่กับความจริงที่จับต้องได้เลย มากกว่าแนวทางการดำเนินชีวิตตามอุดมคติในฝันอย่างของพระเอก แต่เรื่องก็ไม่ได้ทำให้เธอดูใจร้ายจนเป็นตัวร้ายให้คนเกลียด (แม้จะมีเคืองๆ กับนิสัยอยู่บ้าง) เธอกลับเป็นตัวละครที่น่าสงสาร เพราะติดอยู่ระหว่างกลางสนามรบของพระเอกกับชางกา แบบที่เลือกทางไหนก็ต้องมีความเจ็บปวดตามมา

สงครามความรักในเรื่องที่น่ารักน่าลุ้นและตลกไปพร้อมกัน

สงครามนางเอกสองคน
สงครามนางเอกสองคนในเรื่องที่ปะทะคารมกันอยู่บ่อยๆ

นอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว ส่วนที่ทำให้ Itaewon Class สนุกขึ้นมากอีกอย่างคือ ปมรัก 3 เส้าที่นางเอกสองคนเปิดเผยชัดเจนกว่าชอบพระเอก แม้ว่าพระเอกก็ชอบซูอาชัดเจนมาตลอด แต่เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เพราะซูอาอยู่คนละขั้วธุรกิจที่เธอต้องเลือกงานมาก่อนความรัก แต่ก็ยังไม่ปล่อยให้พระเอกไปให้คนอื่น (ออกแนวหวงก้าง) แล้วอีซอที่มาทีหลังก็เริ่มทำคะแนนพร้อมกับประกาศศึกกับซูอาตรงๆ พร้อมทำตัวเป็นก้างขวางคอทุกจังหวะที่สองคนนี้เริ่มจะอินกัน แต่ว่าตัวอีซอเองก็ไม่ใช่นางร้ายหรือนางอิจฉา เธอเป็นนางเอกตัวจริงอีกคนที่เราต้องลุ้นกันว่าเรื่องราวสงครามรักจะจบอย่างไร

characters-itaewon-class

“รักที่ต้องทนรอ” กับ “รอที่จะถูกรัก” (สปอยล์)

ส่งที่เป็นประเด็นถกเถียงกันมากที่สุดของเรื่องนี้คือรักสามเส้าในเรื่อง ที่แซรอยบอกชอบซูอาชัดเจน แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่พร้อมที่จะดูแลเธอ และก็ให้ซูอากำหนดความสัมพันธ์นี้เอง ในขณะที่ซูอาลึกๆ ชอบแซรอยมาตลอด แต่ก็รู้ว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะมีความสุขได้ในเมื่อตัวเธอเองก็ยังทำงานที่ชางกา และความแค้นของแซรอยก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวพระเอกตลอดเวลา ในขณะที่อีซอก็วิ่งไล่ตามพยายามทำให้เถ้าแก่รัก ซึ่งเป็นเหมือนรักข้างเดียวที่เสี่ยงเจ็บหนัก แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าตัวเองเปลี่ยนใจเถ้าแก่ได้จึงไม่ท้อถอยแม้จะล้มลุกคลุกคลานบาดเจ็บหลายครั้งก็ตาม กลายเป็นว่าคนดูอินกับความสัมพันธ์สามเส้านี่มากกว่าเรื่องราวการแก้แค้นของแซรอยเสียอีก

เรื่องนี้ไม่มีเส้นเรื่องรองตามสูตรเกาหลีทั่วไป

ปกติในซีรีส์เกาหลีมักมียัดเนื้อเรื่องรองเป็นแนวที่แตกต่างไป หรือให้มีพระรองได้มีซีนเพิ่มบ้าง แต่เรื่องนี้ไม่มีเส้นเรื่องรองหรือการหักมุมไปเป็นแนวผสมแบบสูตรเกาหลีทั่วไป ทุกอย่างมุ่งตรงไปที่เส้นเรื่องหลักคือการชำระแค้นโค่นชางกาของพระเอก ตัวละครสมทบจึงไม่ใช่แค่ออกมารับบทเส้นเรื่องรองทำให้เรื่องยืดเลย แต่ทุกตัวละครใส่มาเพื่อให้มีผลกับเส้นเรื่องหลัก ซึ่งเป็นทั้งไม้ตายที่พระเอกซุกไว้ หรือการเข้ามาร่วมทีมแบบบังเอิญก็ตาม ซึ่งนั่นทำให้ตัวละครสมทบต่างๆ มีความน่าติดตามมาก ว่าจะกลายเป็นตัวแปรช่วยพระเอกได้แบบไหนบ้าง

 

ซีรีส์ถูกแบ่งครึ่งไต่ระดับจุดพีคเป็น 2 ส่วนทำให้แรงดีไม่มีตก

ที่น่าสนใจคือเรื่องนี้ไม่ได้ค่อยๆ ไต่ระดับไปเรื่อยๆ จนจบที่ EP16 ตามปกติ แต่มีการแบ่งครึ่งเรื่องไว้ที่ EP1-10 แล้วก็จัดเต็มใส่ทุกอย่างประเคนเข้ามาให้คนดูลุ้นมันส์ไปกับแผนการของพระเอกที่วางไว้ยาวนาน มีการแบ่งตัวละครเป็นเหมือนบอสรองกับบอสใหญ่ ซึ่งทำให้ซีรีส์นี้แรงดีไม่มีตกทุก EP ไม่เหมือนซีรีส์เกาหลีทั่วไปที่มักจะแรงต้นแผ่วกลาง เพราะเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากพอทำให้ต้องแอบยืดๆ เรื่องเพื่อไปโหมเอาช่วงหลัง รับรองได้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีเกิดกับอีเทวอน เหมือนเราได้ดูหนังยาว 10 ตอนจบพักครึ่ง ก่อนจะไปเริ่มต้นชกบนสังเวียนใหม่ที่แตกต่างไปจากครึ่งแรกอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่มีแผนกับพี่เลี้ยงคอยช่วยเหลืออีกแล้ว นั่นทำให้เรื่องยิ่งเดาไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไปจนจบครับ

นอกจากนี้ตัวละครสมทบในเรื่องมีบทโดดเด่นกันทุกคน ไม่มีใครจบเคลียร์ปมแล้วก็จางหายไป แม้กระทั่งตัวร้ายที่ร้ายจริงและจบเรื่องราวไปแล้วก็ยังมีบทกลับมาให้คนดูได้เห็นความเป็นไปหลังจากนั้นอีก ทำให้ทุกตัวละครมีมิติสำคัญกับเรื่องราวยันจบ รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ใช้ทุกตัวละครได้คุ้มมากจนซีนสุดท้าย

 

การกระทำของตัวละครเรียลสีเทาๆ ไม่มีผิดหรือถูกชัดเจน

นับเป็นจุดเด่นสำคัญมากเลยในเรื่องนี้ที่ตัวละครเรื่องนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง ในโลกจริงๆ ที่ทุกคนไม่ได้ขาวหรือดำสนิทไปซะทั้งหมด ทำให้การกระทำหลายอย่างของทุกตัวละครไม่เพ้อฝัน (ยกเว้นเรื่องการทำงานพระเอกที่เซ็ทให้บ้าอุดมการณ์) ซึ่งถ้าคนเคยดูละครตามสูตรปกติอาจจะรู้สึกว่าตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างเข้าใจยาก แล้วก็มีความเลวหรือทำเรื่องไม่ดีได้กันทุกคน แต่ก็จะเห็นว่ามีเหตุผลรองรับแบบเรียลๆ ประกอบอยู่ด้วยเช่นกัน ทำให้ระหว่างดูไปต้องเกิดความรู้สึกขัดใจ แต่ก็แอบเข้าใจในเหตุผลและการกระทำไปพร้อมกัน

สปอยล์ความคิดการกระทำของตัวละคร

ซูอา รักตัวเองมากกว่าใคร เพราะโลกนี้มันโหดร้าย (สปอยล์)

“ซูอา” ตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องรองๆ จากพระเอก และก็เป็นตัวละครที่นิสัยแบบพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตจริง แม้คนดูส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเธอนิสัยไม่ดีที่รักแบบเห็นแก่ตัว เอาตัวเองรอดไว้ก่อน ไม่เลือกข้างพระเอก แม้จะรู้ว่าพระเอกชอบตัวเองชัดเจน แต่ก็ยังยอมตกเป็นเครื่องมือให้กับชางกามาทิ่มแทงพระเอก แต่ถ้าพิจารณากันดีๆ จะเห็นว่าการกระทำของซูอาตั้งอยู่บนพื้นฐานของแบ็คกราวด์ตัวละครเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ เติบโตมาด้วยเงินทุนของชางกา และก็ได้เข้ามาทำงานให้ชางกา มีตำแหน่งใหญ่โตด้วยฝีมือของตัวเอง ในช่วงที่พระเอกติดคุก ซึ่งซูอาก็ไม่เคยได้ล่วงรู้แผนการของพระเอกมาก่อน เธอจึงกลายเป็นตัวละครที่มาติดหล่มไปทางไหนก็ไม่ได้ ต้องอยู่ท่ามกลางความแค้นของประธานกับพระเอก ถึงแม้ว่าจะลาออกไปก็ไม่ได้ช่วยทำให้ความแค้นนี้ดับลง และในความเป็นจริงก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมลาออกจากตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้เพื่อหันไปซบผู้ชายที่มาหลงรักได้ง่ายๆ อยู่แล้ว มันจะดูไร้เหตุผลมากที่ตัวละครจริงจังกับชีวิตตัวคนเดียวอย่างซูอาจะกลายเป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะเป็นคนไม่ดีแต่อย่างใด เรื่องราวมีเหตุผลในตัวเองอยู่แล้ว รวมถึงความรักที่ซูอาเก็บไว้ไม่บอกตรงๆ เพราะรู้ว่าถึงบอกไปก็ไม่อาจจะตัดความแค้นของพระเอกออกไปในตอนนี้ได้ เธอจึงอยู่ด้วยความเชื่อมั่นว่าสักวันเรื่องราวคลี่คลายลง ณ เวลานั้นการกำหนดความสัมพันธ์กับแซรอยคงจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกว่า

อีซอ คบคนเพื่อผลประโยชน์ ไม่คิดถนอมน้ำใจใคร (สปอยล์)

ตัวละครที่ดูขาดวุฒิภาวะในเรื่องอารมณ์ความคิดกับคนอื่น ถ้าเธอไม่ได้เห็นคนนั้นมีประโยชน์กับตัวก็พร้อมพูดตรงๆ ไม่คิดถนอมจิตใจใคร ไร้จริยธรรม ดูเป็นนางเอกที่แตกต่างจากซีรีส์ทั่วไปมาก แต่ถ้าดูจากอายุของตัวละครนี้ที่เป็นเด็กพึ่งจบมัธยมปลายและไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย ก็พึ่งจะ 20 หมาดๆ และเป็นคน Gen ใหม่ที่มีชีวิตอยู่กับโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยฟรีสปีชอยากพูดอะไรพูดได้ ก็สมเหตุผลที่เธอจะมีนิสัยแบบนั้นในตอนที่เจอกับพระเอกแรกๆ และยังหลงรักพระเอกแบบที่บอกคลั่งเถ้าแก่เอามากๆ ซึ่งการที่ผู้หญิงอายุน้อยมาคลั่งผู้ชายแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทำให้วิธีการและการกระทำของอีซอดูเป็นธรรมชาติจริงๆ ของคนที่อยากได้ต้องเอาให้ได้ และเมื่อรวมกับอาการทางจิตผิดปกติที่หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคต่อต้านสังคมด้วยแล้ว ถ้าอีซอทำอะไรตามปกติเป็นคนดีนิสัยดียิ่งขัดกับบทที่วางไว้มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวละครจะไม่มีพัฒนาการ เราจะเริ่มเห็นว่าเธอค่อยๆ เปลี่ยนไปหลังจากได้ทำงานกับพระเอก เมื่อเห็นแนวคิดในการใช้ชีวิตจริงกับคนอื่นๆ ที่เธอไม่ได้เป็นคนถูกเสมอไปอย่างที่ตัวเองมั่นใจมาตลอด จึงทำให้บทของอีซอด้านร้ายๆ กลับกลายเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ และตรงนี้ก็จะส่งผลไปยังเรื่องสงครามความรักที่เธอมีร่วมซูอาอีกด้วย

ประธานชางกา ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ความดีชั่วเอาอะไรมาวัด

ตัวละครที่ร้ายตั้งแต่แรกเริ่ม แต่มีเหตุมีผลกับการกระทำทุกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องไม่ดีก็ตาม แต่นี่แหละคือความจริงของโลกนี้ที่คนที่ทำธุรกิจมาจนประสบความสำเร็จแบบก่อร่างสร้างตัวจาก 0 ในยุคก่อน ยังไงก็ต้องเคยทำเรื่องเทาๆ มาบ้าง ถ้าไม่นับเรื่องการใช้เงินง้างกฎหมายไม่ให้เอาผิดลูกชายได้ ส่วนตัวประธานเองก็เล่นเกมธุรกิจสู้กับพระเอกโดยตรงถูกต้องตามกฏหมาย แม้จะมีเทาๆ บ้างแต่ก็อ้างเหตุผลทางธุรกิจได้ทุกเรื่อง ด้วยความที่เป็นทุนใหญ่ การข่มเหงกลั่นแกล้งทุนน้อย ปลาใหญ่กินปลาเล็กยังเป็นวลีที่เป็นจริงเสมอในโลกธุรกิจ ดังนั้นจะมองว่าประธานเป็นคนเลวโดยสมบูรณ์ก็อาจจะไม่ใช่ เพราะถ้ามองออกมาในโลกจริงของทุนนิยม ธุรกิจเล็กก็มักถูกอำนาจเงินและเส้นสายที่เหนือกว่าบดขยี้ให้ออกจากเกมธุรกิจเดียวกันอยู่แล้ว

แซรอย ซื่อๆ กับความรักฝังใจจนถูกมองว่าโง่ที่หลงรัก (สปอยล์)

อาจจะแปลกๆ สักหน่อยที่มีผู้ชายที่ยึดมั่นอุดมคติแบบนี้ในโลกรวมถึงความรัก จนดูเป็นโง่และทำร้ายคนอื่นไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีจริงเพราะในเรื่องตัวละครของพระเอกก็ไม่เคยมีใครนอกจากพ่อ และซูอาก็เข้ามาในสมัยวัยรุ่นตอนที่พระเอกชีวิตติดลบตั้งแต่การปะทะกับประธานชางกาครั้งแรกต้องออกจากโรงเรียน จนเกิดเป็นความประทับใจรักแรกที่ใครๆ ก็คงลืมไม่ลงถ้ายังมีโอกาสนั้นอยู่ ซึ่งซูอาก็ไม่เคยปฏิเสธแซรอย และแซรอยเองก็รู้ดีว่าตัวเองมีความแค้นเป็นที่ตั้งมากกว่าความรัก แถมวิถีชีวิตซูอายังพัวพันกับชางกาด้วย จึงทำให้แซรอยยิ่งรู้สึกต้องรับผิดชอบเอาเธอออกมาจากวงจรความแค้นนี้ของเขากับประธานให้ได้ จึงไม่แปลกอะไรที่แซรอยจะยังชอบซูอาอยู่เสมอ และมีความสุขที่ยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของซูอา ในอีกมุมหนึ่งซูอาก็ปิดโอกาสคบใครเพื่อรอพระเอกเช่นกัน

กึนซู ทะเยอทะยานทิ้งมิตรภาพเพื่อความรัก (สปอยล์)

ตัวละครที่ตกอยู่ในสภาพถูกกดดันให้สถานะต่ำต้อยมาทั้งชีวิต จนไม่คิดไขว่คว้าหาอะไรในชีวิตมากว่าไปความรักที่มีให้กับอีซอ เพื่อนสนิทที่คบกับเขาเพื่อหวังใช้ประโยชน์และเขาก็รู้ว่าเธอเป็นแบบนั้น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งกึซูก็ก้าวเข้าไปในโลกของความจริงที่ไม่พยายามไขว่คว้าก็ไม่ได้มา แม้จะเป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่สมควรทำก็ตาม แต่เพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่เขาอยากได้มาคือ การถูกยอมรับว่าคู่ควรเป็นคนรักจากอีซอ ก็ต้องยอมเลือกทางเดินนั้นเพราะไม่เหลือทางใดอีกแล้วที่จะได้มา แม้จะต้องตัดสิ้นมิตรภาพกับคนอื่นทิ้งก็ตาม


จุดด้อยของอีเทวอนคลาส

แม้ว่าซีเรื่องนี้จะมีจุดเด่นจุดดีมากมาย แต่จุดด้อยหลักๆ ของเรื่องคือ “การเดินเรื่องทางธุรกิจที่โอเวอร์มากกว่าความเป็นไปได้จริง” ซึ่งในช่วง 10 ตอนแรกซีรีส์ยังเดินเรื่องแบบมีเหตุผลรองรับทำให้เชื่อได้ว่าพลิกสถาณการณ์ได้จริงทำให้ซีรีส์ดูสนุกน่าลุ้นมาก แม้จะมีเรื่องดวงดีของพระเอกมาเกี่ยวข้องบ้าง ก็ยังอยู่ในจุดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยอมรับได้ แต่หลัง EP10 ไปที่เหมือนจบศึกครึ่งแรกกับชางกา ตัวเรื่องราวพยายามให้พระเอกก้าวกระโดดทางธุรกิจไปไวขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดพลิกยิ่งใหญ่ในพริบตา จนละเลยการใส่รายละเอียดสมเหตุผลลงไปแบบช่วงแรก เหมือนคนเขียนหมดมุกกับพยายามเร่งสปีดเรื่องให้จบ อาจจะเพราะการเปิดปมใหญ่เรื่องล้มชางกาที่เป็นบริษัทอันดับ 1 ในเรื่องยากที่จะหาเหตุผลสมจริงมาทำได้ จึงทำให้ซีรีส์เลือกเบนเรื่องไปทางอื่นแทน ทำให้การต่อสู้ทางธุรกิจในตอนแรกแทบหมดความหมายไปเลย นอกจากนั้นช่วงหลัง EP12 ไปเรื่องยังปรับตัวสมาชิกในทีมให้เป็นลุคใหม่หมด ซึ่งดูก็เข้ากับเรื่องในตอนนั้นดี แต่การที่เรื่องราวกระโดดข้ามมากจนเกินไป ทำให้รู้สึกไม่อินตามคาแรกเตอร์แบบที่ปูมาดีมากในช่วงครึ่งแรกได้ ตัวซีรีส์แทบจะทิ้งเรื่องราวของตัวละครลูกทีมไปทั้งหมดในช่วงหลัง กลายเป็นแค่ตัวประกอบเรื่องมากกว่าจะมีบทบาทสำคัญแบบในช่วงแรกที่ผ่านมา

หลัง EP14 เรื่องราวกลายเป็นหนังรักมากกว่าธุรกิจ (อัพเดทมีสปอยล์บางส่วน)

การเดินเรื่องช่วงหลังจาก EP14 เปลี่ยนไปโฟกัสที่ความรักของพระเอกจนกลายเป็นหนังรักมากกว่าเรื่องธุรกิจที่เดินเรื่องมาตลอด ทำให้อารมณ์ของเรื่องเปลี่ยนไปอย่างมาก จนคนดูที่สนใจแนวเรื่องเชือดเฉือนกันด้วยเกมธุรกิจแบบช่วงแรกคงรู้สึกผิดหวัง แถมเรื่องยังผลักดันไปนอกทิศทางการล้างแค้นของพระเอก เป็นแนวอาชญากรรมด้วยการให้เรื่องราวไปเกี่ยวพันกับการลักพาตัว ข่มขู่ ซึ่งไม่ใช่ธีมของเรื่องที่เดินมาตลอด นอกจากนั้นบทยังมีความไม่สมเหตุผลเข้ามามากหลายอย่าง ทั้งฝั่งตัวร้ายและฝั่งพระเอกที่ความคิดการตัดสินใจผิดจากตอนแรก จนทำให้เหมือนดูหนังคนละม้วนกับช่วงแรกเลย และเป็นไปในทางที่ไม่ดีกับซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย จนแทบรู้สึกว่าถ้ารู้ว่าเรื่องราวมาจบแบบนี้แต่แรก อาจจะตัดสินใจไม่ดูเลยจะดีกว่าครับ
 แต่สำหรับคนที่ชอบแนวรักโรแมนติกก็อาจจะรู้สึกฟินกับการที่เรื่องเบนทิศมาทางนี้เต็มตัวจนจบ และสามารถเคลียร์ปมเรื่องราวความรักทั้งหมดได้ฟินลงตัวพอดิบพอดีครับ

 


สรุปความน่าสนใจ Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น

ซีรีส์จากสตูดิโอใหม่ของเกาหลีที่ทำเรื่องนี้เรื่องแรกและก็เป็นผลงานจากเว็บตูนที่เรื่องราวมีความพิเศษโดดเด่นมากๆ ด้วยเรื่องราวดราม่าดาร์คเข้มข้นหดหู่ไปกับความอยุติธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้นติดๆ กันจนเป็นปมให้พระเอกคิดล้างแค้นเอาคืน แต่มาในรูปการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ ท้าชนกับยักษ์ใหญ่ ควบคู่ไปกับปมความรักต่างจุดยืนทางธุรกิจกับนางเอกโลกไม่สวยความคิดสีเทาๆ ที่แตกต่างจากจุดยืนพระเอกอย่างสิ้นเชิงแต่ก็ยังแฝงด้วยความรู้สึกอิ่มเอมไปกับความรักและมิตรภาพในเรื่องที่เต็มไปด้วยอุปสรรคพร้อมๆ กัน
ซีรีส์มีทั้งหมด 16 ตอนตามสูตรเกาหลีปกติ มีตอนใหม่ทุกวันศุกร์กับเสาร์หลัง 4 ทุ่มไป สนใจคลิกรับชมผ่าน Netflix ที่นี่

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นในเว็บคลิกที่นี่

OST เพลงประกอบหลักของเรื่อง (มีสปอยล์)

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!