playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Killer Book Club แนวไล่เชือดที่เลียนแบบต้นตำหรับได้จืดชืดมาก (ไม่มีสปอยล์)

Killer Book Club

Summary

หนังแนวสเแลชเชอร์ที่แย่มากตรงก็อปต้นฉบับมารวมกันโดยไม่มีเนื้อหาที่สดใหม่ใดๆ ฉากฆ่าก็ธรรมดาและมีช่องโหว่มากเกินไปตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครไม่มีเสน่ห์ไม่น่าจดจำ แต่ถ้าผู้ชมแนวนี้ต้องการดูแค่ฉากฆ่าก็ยังถือว่าดูผ่านๆ ได้ แต่หาความน่าจดจำคงไม่มีครับ

Overall
4/10
4/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เหตุผลฆาตกรมีความเชื่อมโยงพอใช้ได้
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เนื้อเรื่องขาดเหตุผลมากหลายอย่าง
  • ฉากฆ่าจืดชืด
  • ตัวละครไม่มีเสน่ห์

 

Killer Book Club หนัง Original Netflix แนวไล่เชือดของสเปน เพื่อนรักชมรมหนังสือสยองขวัญแปดคนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากฆาตกรในชุดตัวตลก ที่ดูเหมือนจะรู้ความลับอันเลวร้ายที่พวกเขา

Killer Book Club (2023) on IMDb

Killer Book Club รีวิว (ไม่มีสปอยล์)

หนังแนวสแลชเชอร์ฆาตกรไล่ฆ่าคนของสเปนที่ไม่ได้มีความแปลกใดๆ เลย ตั้งแต่โครงเรื่องที่เหมือนเอาหนังสยองขวัญระดับตำนาน 2 เรื่อง นั่นคือ I Know What You Did Last Summer รวมกับ Scream ตั้งแต่พล็อตเรื่องกลุ่มนักศึกษาชมรมหนังสือที่ร่วมกันทำความผิดฆ่าคนตายโดยไม่ได้เจตนาแล้วปกปิดความผิดไว้ในกลุ่ม แต่หลังจากนั้นกลับมีคำเตือนว่ามีคนรู้เรื่องนี้และพยายามไล่ฆ่าพวกเขา โดยสวมชุดเป็นตัวตลกและเขียนนิยายออนไลน์ส่งให้พวกเขาอ่านในแต่ละตอน ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ตั้งใจฉีกแนวหนังสยองขวัญจนกลายเป็นต้นแบบตัวละครสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะตัวเอกหญิงรุ่นใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ก็อปปี้เอามาใช้จนหมด แต่ขาดเสน่ห์ให้เอาใจช่วย แม้จะมีความพยายามให้เรื่องดูสดใหม่ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย อย่างการ Live สดของฆาตกร เว็บไซต์เขียนนิยายออนไลน์ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ได้ทำให้เรื่องนี้สดใหม่ใดๆ เลยแม้แต่น้อยนิด

แน่นอนว่าหลายคนที่ดูหนังแนวนี้ก็คงเข้าใจดีว่ามันคือหนังเกรดบี ใช้พล็อตเรื่องเดิมๆ แค่หาคนมาฆ่าโหดให้ผู้ชมแนวนี้ชื่นชอบก็จริง ซึ่งหลายๆ เรื่องก็เน้นตรงนี้แหละทำได้ดีแม้จะเป็นหนังเกรดบี แต่เรื่องนี้คือฉากสยองขวัญก็เดิมๆ ไม่มีฉากไหนโดดเด่น แถมยังทำฉากฆ่าให้เหมือนจินตนาการในนิยาย คือเป้นบทในนิยายออนไลน์อ่านฉากฆาตกรรมไป แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุก็ไม่พบศพหรือมีร่องรอยใดๆ นอกจากสีเขียนไว้ว่า to be continued (ในภาษาสเปน) แต่คนนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งข้ออ้างในตอนแรกคือ คนที่ตายอาจจะเป็นฆาตกรก็ได้ (หรือนางเอกหลอนไปเองก็ด้วย) แต่ว่าหลังจากนั้นฉากฆ่าแบบนี้ก็ยังมีตามมาอีกหลายคน จนท้ายๆ เรื่องถึงมีคนตายจริงแบบชัดเจนว่ามีฆาตกร ซึ่งมันสเปะสะปะมากกับการนำเสนอแบบนี้

 

ปัญหาหนักสุดคือ ความสมเหตุผลของเรื่องราวน้อยมาก เหล่าตัวละครพวกนี้ไปแจ้งตำรวจไม่ได้ก็จริง แต่ว่าตำรวจในเรื่องเองกลับไม่มีโผล่มาสืบสวนใดๆ เลยตั้งแต่คดีแรกที่พวกนี้ฆ่าคนตายแล้ว ทั้งๆ ที่จุดเชื่อมโยงก็มี และนี่คือมหาวิทยาลัยที่ต้องมีกล้องวงจรปิดกันหมดอยู่แล้ว ส่วนเหยื่อที่หายไปตั้งแต่แรก มีคำอธิบายแค่ว่าติดต่อไม่ได้ แต่ไม่มีการตามหาติดต่อครอบครัวพวกเขาเลยสักนิด ซึ่งมันผิดวิสัยเพื่อนมาก และตัวเรื่องพยายามเล่ารวบรัดไวจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่วันกันแน่ด้วย 


สิ่งที่พอมีให้ดีได้นิดหน่อยคือเหตุผลแรงจูงใจของฆาตกรที่มีความเชื่อมโยงมากหน่อย แต่มันก็แทบจะก็อปปี้ไอเดีย Scream ภาคแรกมาเลย แม้จะพยายามอธิบายอะไรมากมาย แต่จุดสำคัญคือระหว่างทางก็เลียนแบบมาชัดๆ และยังคาดเดาได้ตั้งแต่แรกด้วยสำหรับผู้ชมที่ชินกับหนังแนวนี้อยู่แล้ว และยังพยายามปูทางไปภาคต่อให้ได้อีก ซึ่งไม่น่าจะได้ทำต่อเพราะคุณภาพของบทต่ำมาก (แต่ถ้ายอดรับชมดีก็ไม่แน่เพราะนี่เป็นผลงานของ Netflix โดยตรง)

 

สรุปเป็นหนังแนวสเแลชเชอร์ที่แย่มากตรงก็อปต้นฉบับมารวมกันโดยไม่มีเนื้อหาที่สดใหม่ใดๆ ฉากฆ่าก็ธรรมดาและมีช่องโหว่มากเกินไปตลอดทั้งเรื่อง ตัวละครไม่มีเสน่ห์ไม่น่าจดจำ แต่ถ้าผู้ชมแนวนี้ต้องการดูแค่ฉากฆ่าก็ยังถือว่าดูผ่านๆ ได้ แต่หาความน่าจดจำคงไม่มีครับ

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!