รีวิว Mask Girl รวมคนประหลาดเพื่อหักมุมรัวๆ จนครึ่งหลังไม่ค่อยสมเหตุผล (ไม่สปอยล์)

Mask Girl ซีรีส์เกาหลี Original Netflix 7 ตอนจบ สาวออฟฟิศผู้ไม่เคยมั่นใจในหน้าตาของตนเองโด่งดังชั่วข้ามคืนภายใต้หน้ากาก และกลายเป็นดาวเด่นแห่งโลกออนไลน์ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ที่อาจทำลายชีวิตของเธอ

รีวิว Mask Girl (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์เกาหลีจากเว็บตูนที่เน้นเรื่องราวบิดเบี้ยวของมนุษย์ในสังคมมาปั่นรวมกัน โดยเริ่มจากตัวละครหลักสาวที่มีใบหน้าขี้เหร่ที่ฝันอยากเป็นนักร้องไอดอล แต่โลกความเป็นจริงกลับทำร้ายเธออย่างมาก จนเธอเป็นได้แค่สาวในช่อง Live สดปิดบังใบหน้าหาเงินจากการแสดงให้ผู้ชมออนไลน์ดู ซึ่งเธอก็ประสบความสำเร็จมาก แต่จุดนี้เองที่พาให้เธอไปเจอผู้คนแปลกประหลาดมากมายมาพัวพันกับชีวิต และก็นำไปสู่ฉากฆาตกรรมต่อเนื่อง สร้างบาดแผลต่อจนถึงรุ่นลูกของเธอ

การดำเนินเรื่องใช้วิธีการเล่าเรื่องสลับไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกันตอนละ 1 ตัวละคร ตอน 1 คือ คิมโมมี นางเอกของเรื่องนี้ ต่อด้วย จูโอนัม ชายหนุ่มในออฟฟิส และ คิมคยองจา แม่ของจูโอนัม นี่คือ 3 ตอนแรกและเป็น 3 ตัวละครหลักของเรื่องที่มาเกี่ยวพันกันโดยบังเอิญ และนำไปสู่เหตุการณ์ที่มีตัวละครอื่นๆ ตามมาอีกภายหลังจากเหตุการณ์ใหญ่ใน 3 ตอนแรกที่เป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทั้ง 3 คนนี้มีความผิดปกติในตัวเองบางอย่างที่น่าสงสาร (ไม่สามารถสปอยล์ได้) แล้วนำไปสู่พฤติกรรมแปลกๆ ในสังคมที่พวกเขาเก็บปิดบังไว้และยังไม่ระเบิดออกมา เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่รวมคนแปลกเลยก็ได้ ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้ผู้ชมได้เห็นอีกด้านของตัวละครแปลกๆ เหล่านี้ในมุมมองใหม่จากคนแปลกหน้า ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์ดีมาก คาดเดาไม่ได้ น่าติดตามมาก 

แต่หลังจากตอน 4 ไปคือเรื่องราวบทใหม่ นำไปสู่ตัวละครที่มีอาการแปลกประหลาดน้อยลง แม้จะยังมีส่วนของการรวมคนแปลกในแต่ละตอน แต่ก็เป็นผลพวงของการกระทำจาก 3 ตัวละครแรกที่นำมาสู่พวกนี้ ซึ่งในแง่ดีมันก็เหมือนช่วงเวลาของการแสดงผลกรรมในอดีต แต่ตัวเรื่องพยายามเน้นหักมุมเปลี่ยนแปลงทิศทางเรื่องฉับพลัน ไม่สอดคล้องกันแบบ 3 ตอนแรกที่เป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้เรื่องช่วงหลังจากนี้ดูมีบาดแผลช่องโหว่จากความพยายามหักมุมเหตุการณ์ในเรื่องอยู่ตลอดเวลา แทบเรียกว่าทุกอย่างที่เห็นว่าดีในเรื่องจะกลายเป็นตรงกันข้ามทั้งหมด ซึ่งมันได้แค่ความหวือหวาของเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ แต่ไม่ลื่นไหลสมเหตุผลแบบช่วงแรกเลย ทำให้ความดึงดูดในเรื่องที่เหลือเป็นแค่ดูไปว่าจะจบที่ตรงไหน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็แทบไม่มีความแปลกใหม่ เนื้อเรื่องหันกลับมาจบแบบโลกสวยในซีนดาร์คโศกนาฎกรรม  จนทำลายความแปลกใหม่ในตอนแรกไปทั้งหมด

แต่ถึงเนื้อเรื่องหลังๆ จะมีปัญหา แต่นักแสดงในเรื่องที่ต้องเล่นบทบาทมีปมทางจิตกันทุกคนถือว่าทำได้ดีเยี่ยมมาก (แม้ว่าบางคนจะได้รับบทโอเว่อร์เกินจริงไป) โดยเฉพาะนางเอกคิมโมมีใน 3 ตอนแรกที่เป็นนักแสดงไม่สวยจริงๆ มาเล่น เธอเป็นนักแสดงที่ถ่ายทอดความเจ็บช้ำจากใบหน้าที่ไม่สวยจนถึงขี้เหร่ออกมาได้ดีมาก โดยในภาวะปกติที่ไม่ใช่แมสเกิร์ลใส่หน้ากาก เธอเป็นสาวออฟฟิสธรรมดาที่มีจิตใจดีเลย แต่ปัญหาทางจิตทำให้เธอต้องสวมหน้ากาก และก็กลายเป็นคนใหม่ที่มีเสน่ห์เหมือนไอดอลได้ในฉับพลัน เหมือนเป็นนักแสดงคนละคนได้อย่างเหลือเชื่อมาก ซึ่งครึ่งหลังเธอต้องผ่าตัดศัลยกรรมหน้าใหม่ กลายเป็นนักแสดงคนใหม่ที่เป็นดาราดังมาเล่นแทน (Nana) แม้จะพยายามสวมบทบาทเดิมได้ค่อนข้างดี แต่มันก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นคนเดิมได้มากพอ ที่ดูดีคือได้ตรงความสวยมากแค่นั้น และในช่วงตอนสุดท้ายก็เปลี่ยนนักแสดงใหม่อีกคน ตามเวลาที่ตัวละครแก่ตัวลงไปเป็น Go Hyun-jung ซึ่งดูผิดลุคมากจนไม่รู้สึกเนียนว่าเป็นคนเดียวกันเลย แม้การแสดงจะดีอยู่ก็ตามครับ

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นผลงาน Original Netflix จึงมีฉากทางเพศมากกว่าปกติ รวมถึงเนื้อเรื่องที่มาแนวรวมคนโรคจิตแบบต่างๆ จึงมีตัวละครแนวโอตาคุแต่เป็นคนเกาหลีที่ชื่นชอบเซ็กส์ทอยของญี่ปุ่น และแสดงท่าทางการใช้งานอยู่หลายครั้ง เรตในเรื่องนี้จึงสูงกว่าซีรีส์เกาหลีที่ทำลงทีวีปกติค่อนข้างมากอยู่ครับ

สรุปนี่เป็นผลงานซีรีส์เกาหลีที่มีเนื้อเรื่องแปลกพิสดารค่อนข้างมาก เป็นการรวมตัวละครที่มีปมทางจิตจนนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ มาชนกัน ซึ่งทำให้เรื่องเต็มไปด้วยการหักมุมอยู่ตลอดเวลา ถ้าใครชอบจุดนี้ก็น่าจะชอบเรื่องนี้มาก แต่ถ้ามองในแง่ของเหตุผลการหักมุมต่างๆ ในเรื่องช่วงครึ่งหลังก็คือไม่เมคเซนส์จนน่าผิดหวังเช่นกัน แต่โดยรวมนักแสดงเล่นได้อย่างเยี่ยมยอดกับบทบาทคนโรคจิตเหล่านี้มาก จนทำให้ผู้ชมสนุกที่ได้ติดตามตัวละครเหล่านี้ไปสู่บทสรุปของทุกคนจนหมดสิ้นครับ

 

including other English reviews