playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Ms. Marvel ซีรีส์มาร์เวลแบบเด็กๆ เรื่องราวเบาหวิว จนทำให้ไปไม่สุดสักทาง (ไม่สปอยล์)

Ms. Marvel

Summary

เป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่สเกลเด็กหน่อย ทุนไม่สูง จึงไม่มีฉากแอ็กชั่นอะไรเว่อร์วังหรือมีมากเท่ากับเรื่องอื่น แต่มีจุดเด่นที่ความพยายามขายวัฒนธรรมอิสลามของครอบครัวสมัยใหม่ที่อยู่ในอเมริกา ไม่ได้เคร่งมีการปรับตัวไปตามยุคสมัย แต่ก็ยังคงมีการจำกัดเสรีภาพของเด็กที่ขัดต่อจารีตดั้งเดิมอยู่ แต่ก็ไม่ได้ลงลึกอะไรมาก รวมถึงชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลก็ทำออกมารวบรัดไปไวๆ ด้วยความที่เรื่องมีเพียงแค่ 6 ตอนจบ อะไรๆ ในเรื่องนี้จึงไม่สุดสักทาง แต่ก็สามารถดูเพลินๆ ได้ถ้าเข้าใจแต่แรกว่านี่เป็นซีรีส์เด็กมากกว่าผู้ใหญ่ครับ 

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • วัฒนธรรมครอบครัวอิสลามสมัยใหม่ที่ปรับตัวในอเมริกา
  • พลังฮีโร่แบบเด็กๆ แต่เป็นตัวละครสำคัญของมาร์เวลคนหนึ่งต่อไป
  • เชื่อมโยงเรื่องราวกับประวัติศาสตร์ของอินเดียปากีสถาน
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ฉากแอ็กชั่นน้อย สเกลเล็กแบบเด็กๆ
  • น้องนางเอกท้วมมากจนทำให้ฉากแอ็กชั่นดูไม่คล่องตัว
  • ชีวิตวัยรุ่นรวบรัดตัดตอนจนแทบไม่มีอะไรให้อิน
  • ตัวร้ายไม่ค่อยเมคเซนส์ในการรกระทำสิ่งต่างๆ

Ms. Marvel ซีรีส์มาร์เวลบน Disney+ ที่จับเอาตัวละครเด็กสาวอิสลามมาทำเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ ซึ่งถือว่าฉีกขนบออกไปจากเรื่องก่อนๆ ที่ผ่านมาเลย เรื่องราวของ กมลา เด็กสาวที่มีแครอล กับตันมาร์เวลเป็นไอดอลหรือติ่งเลยก็ว่าได้ ก่อนจะได้กำไลโบราณที่ตกทอดมาของครอบครัว แล้วมีพลังยืดแขนขากับสร้างผลึกแสงเป็นเกราะกำบังกับที่เหยียบบนอากาศได้ดั่งใจ โดยมีศัตรูคือคนที่เกี่ยวข้องกับกำไลโบราณอันนี้ รวมถึงต้องหนีจากการตามล่าของหน่วยควบคุมความเสียหายของรัฐบาล ที่มองว่าเธอเป็นภัยร้ายของเมือง

 Ms. Marvel (2022) on IMDb

รีวิว Ms. Marvel

ถ้ามองในแง่การเอาเรื่องราววัฒนธรรมอิสลามมาเล่น ใครที่ไม่ได้ศึกษาหรือคุ้นชินกับอิสลามมาก่อนก็อาจจะคิดว่าเรื่องนี้บ้านเคร่ง นางเอกโดนห้ามแต่งชุดรัดรูปไปงานคอสเพลย์ พ่อแม่พยายามเลือกชุดใหมให้ หรือการทำผิดก็โดนต่อว่าคาดโทษ ดูเป็นจำกัดอิสรภาพของเด็กมาก แต่จริงๆ คือเรื่องนี้เป็นวัฒนธรรมมุสลิมในอเมริกาที่ห่างไกลความเคร่งมากมาย หลายอย่างในเรื่องที่เห็นคือไม่ว่าชาติไหนบ้าบ้านเคร่งหน่อยก็คงโดนทั้งนั้น ดังนั้นการนำเสนอวัฒนธรรมมุสลิมในเรื่องนี้จึงผิวเผินมาก แม้จะมองว่าเป็นซีรีส์วัยรุ่นคงไม่ต้องมีอะไรลึก แต่อย่างซีรีส์ดังของ Netflix ที่ชื่อ Never have i ever ที่เป็นตัวเอกเด็กสาวมุสลิมในอเมริกาเหมือนกัน แล้วตัวนางเอกคือเด็กที่ต่อต้านวัฒนธรรมเก่าๆ เหมือนกันอีก ในเรื่องนี้วัฒนธรรมอิสลามที่ถ่ายทออดออกมาลงลึกกว่ามาก ในแนวเรื่องไฮสคูลไม่ต่างกันด้วย แต่ไม่ใช่มิสมาร์เวลนำเสนอออกมาไม่ดีก็ไม่ใช่ เรื่องยังคงถ่ายทอดความเป็นมุสลิมที่ไม่เคร่งและเปลี่ยนไปจากยุคเก่าได้ดีมากกว่า อย่างคำเรียกแม่ว่า อัมมิ ที่ในเรื่องใช้คำนี้ตลอด (พ่อใช้คำว่าอับบู) ซึ่งครอบครัวมุสลิมยุคหลังสิบกว่าปีก่อนนำมาใช้ เพราะเป็นภาษาอาหรับ ตามคัมภีร์อัลกุรอาน ของศาสนาอิสลาม (ก็คล้ายๆ คนบวชเรียนศึกษาบาลีสันสกฤตได้) ซึ่งถ้าเคร่งมากเรื่องราวในเรื่องคงไม่อาจจะเกิดขึ้นได้เลยมากกว่าครับ และอิสลามก็ไม่ใช่แขก นี่ก็ไม่ใช่หนังแขกด้วย หนังที่มีฉากเต้นก็ไม่ใช่มุสลิม พวกนี้เป็นสิ่งที่คนไทยเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ (หนังอินเดียไม่ใช่หนังมุสลิม แต่ตัวละครเป็นฮินดูส่วนใหญ่)

พลังที่มาในเรื่องไม่เหมือนในคอมมิค

ถึงตัวละครนางเอกจะเป็นเด็กมุสลิม แต่เรื่องก็พยายามนำเสนออารมณ์ใสๆ ของวัยรุ่นไฮสคูลอยู่ดี ซึ่งก็ไม่พ้นเรื่องรัก การคบหาเพื่อน การมีแฟน ความพยายามหาเส้นทางของตัวเอง ซึ่งเรื่องก็นำเสนอออกมาแบบใสๆ เหมือนแนววัยรุ่นสมัยนี้ที่ระหว่างฉากต้องมีพวกอิโมน่ารักๆ เด้งมาประกอบ มีภาพบทสนทนาการพิมพ์ในโซเชียลต่างๆ แต่เรื่องมีเวลาแค่ 6 ตอน ดังนั้นความสัมพันธ์ต่างๆ ในเรื่องจึงเน้นรวบรัดฉับไวเอามากๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะนี่คือซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ผู้ชมอยากมาดูฉากแอ็กชั่นมากกว่า แต่ก็กลายเป็นเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นที่แทรกมาแทบไม่มีน้ำหนักความอินอะไรให้กับคนดูเลยสักเท่าไหร่ แค่มีอารมณ์ชวนจิ้นเล็กๆ อยู่เท่านั้น 

ในส่วนของเรื่องราวพลังที่มาฉากแอ็กชั่น เป็นความพยายามย้อนเอาเรื่องราวอดีตการปกครองอังกฤษที่ข่มเหงคนทุกศาสนาในอินเดีย แล้วก็พยายามแบ่งแยกเสี้ยมให้ตีกันเพื่อปกครอง โดยแทรกเอาตำนานโบราณที่สร้างขึ้นมาใหม่ของมาร์เวลผนวกเข้าไปตรงจุดแตกแยกประเทศอินเดียกับปากีสถาน ซึ่งก็ทำให้เรื่องราวดูมีมิติหมุนล้อไปกับประวัติศาสตร์ว่ากำไลอันนี้สามารถช่วยต่อสู้กับการถูกกดขี่ได้ หรือจะเลือกนำมาใช้เพื่อความต้องการของตัวเอง ในแบบที่ตัวร้ายเรื่องนี้ที่เปิดตัวออกมาในตอน 3 ซึ่งก็เป็นตัวร้ายในสเกลเบาๆ ทั่วไปของซีรีส์ แต่ก็มีความพยายามทำให้เรื่องดูใหญ่โตถึงขั้นเป็นอันตรายร้ายแรงกับโลกได้ แต่ก็ได้แค่เกริ่นเพราะทุนคงไปไม่ถึง จึงทำให้เรื่องราวถูกยั้งๆ ไว้หมด ส่งผลถึงฉากแอ็กชั่นในเรื่องก็ไม่มาก ตัวเรื่องในตอนแรกๆ เป็นแค่การช่วยคนทั่วไป ก่อนที่จะเปลี่ยนไปในแนวต่อสู้แบบเตะต่อยตีใช้อาวุธเพื่อโจมตีนางเอกที่มีพลังเป็นเกราะกำบังมากกว่าจะโจมตีโดยตรง ซึ่งก็ไม่ได้ดูอันตรายถึงตาย แม้แต่ตัวหน่วยควบคุมความเสียหายของรัฐบาลก็ใช้ปืนพิเศษเป็นพลังงานยิงใส่มากกว่า ทำให้ฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้เป็นระดับซีรีส์เด็กลงมามากๆ ในฉากสุดท้ายของเรื่องก็ยังไม่ได้มีความพีคอะไรเช่นกัน แม้แอ็กชั่นจะเด็กๆ แต่ในแง่ของอารมณ์ความสนุกก็ถือว่าสอบผ่าน ดูเพลินเช่นกัน แต่อาจจะไม่จุใจคนดูสายแอ็กชั่นมาร์เวลปกติเท่านั้นครับ

ตัวนางเอก Iman Vellan ถือว่าแคสมาดีในแง่ที่ต้องการนำเสนอเด็กสาวอิสลามสมัยใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเอง ถือว่าน้องมีเสน่ห์น่ารักใช้ได้ แต่ถ้ามองในแง่การเป็นซูเปอร์ฮีโร่เธอยังไม่ลงตัวนักจากรูปร่างที่ท้วมมากขนทำให้ฉากแอ็กชั่นต่างๆ ดูแล้วอึดอัดๆ ไม่คล่องตัว 

ซีรีส์มีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ตอนท้ายเครดิตฉากจบเกี่ยวกับกับตันมาร์เวล ซึ่งก็ต้องลองดูกันเอง แม้จะไม่มีอะไรมาก แต่มาร์เวลเองก็วางน้องกมลาไว้เล่นต่อในหนัง The Marvels ปี 2023 แล้วแน่นอนครับ ก็เรียกว่าห้ามพลาดล่ะถ้าใครจะดูหนังมาร์เวลต่อ ไม่เหมือนมูนไนท์ที่เป็นสแตนอโลนไม่ส่งบทไปถึงหนังใหญ่เรื่องไหนในตอนนี้ครับ

ติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นในดิสนีย์+ ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!