playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว My Oni Girl (Netflix) อนิเมะที่เดินตามรอยของ มาโกโตะ ชินไค แบบจืดๆ

My Oni Girl

Summary

สรุป อนิเมะที่พยายามตามรอยแฟนตาซีแบบ มาโกโตะ ชินไค ชัดเจน แต่ทำได้ไม่ถึง มีดีแค่ตัวละครน่ารักกับเรื่องรักเบาๆ ของตัวเอกทั้งคู่ แต่ในด้านแฟนตาซีค่อนข้างงง ขาดความเชื่อมโยงหลายอย่างให้เข้าใจ แต่ถ้าผู้ชมไม่สนใจก็ยังพอดูได้อยู่ครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • อนิเมะแฟนตาซีผสมความรักวัยรุ่น
  • ภาพสวยตัวละครน่ารัก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ส่วนของแฟนตาซีทำได้ไม่ดี
  • ตัวละครสมทบถูกปล่อยทิ้งหายไปหมด

My Oni Girl มาย โอนิ เกิร์ล ภาพยนตร์อนิเมะ Original Netflix เรื่องนี้กำกับโดย โทโมทากะ ชิบายามะ  ที่เคยทำ “A Whisker Away” (เหมียวน้อยคอยรัก) เป็นเรื่องแรกใน Netflix โดยเป็นเรื่องราวของหนุ่มน้อยขี้อายที่ปฏิเสธใครไม่เป็น เขาได้มาพบเจอกับเด็กสาวที่มีเขาบนหัวเรียกว่าโอนิ  ทั้งคู่เข้าไปพัวพันกับการผจญภัยเหนือธรรมชาติ เพื่อตามหาแม่ของเธอที่หายตัวไปในโลกมนุษย์
My Oni Girl (2024) on IMDb

 

รีวิว My Oni Girl มาย โอนิ เกิร์ล

อนิเมะที่พยายามเดินตามรอยของ มาโกโตะ ชินไค แบบชัดเจน ทั้งๆ ที่ผลงานเรื่องก่อนนี้และเครดิตการทำงานของเขาก็มาจากจิบลิ ซึ่งผลงานเรื่องก่อนนี้ยังคงเอกลักษณ์แบบเดิมของเขาไว้อย่างชัดเจน และก็ทำออกมาได้ดีทีเดียวด้วยแม้เรื่องจะเบาและไม่ลึกซึ้งเท่าจิบลิทำเอง พอเรื่องนี้หันมาจับแนวทางชินไคโดยใช้เรื่องความรักหนุ่มสาววัยรุ่นที่บังเอิญพบเจอกัน โดยสูตรของชินไคคือคนนึงต้องมีพลังพิเศษแล้วก็พยายามกู้โลกอยู่ ส่วนอีกคนคือนักเรียนธรรมดาที่หลงเข้ามาพัวพันกับโลกแฟนตาซีนี้ แล้วก็ช่วยแก้ปมนี้ให้อีกฝ่ายได้ในที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็แทบจะเหมือนกันเป๊ะๆ 

เนื้อเรื่องให้ตัวเอก ฮิอิรางิ เป็นคนปฏิเสธคำขอของคนอื่นไม่ลง เพราะไม่อยากเป็นที่รังเกียจและอยากเข้ากับคนอื่นๆ ให้ได้ จนมีปัญหาเก็บกดทุกเรื่องไว้ในจิตใจ พอได้มาพบกับ สึมุกิ โอนิ เผ่ายักษ์ที่ออกมาตามหาแม่ในโลกมนุษย์ เธอเป็นคนที่ทำอะไรตามใจตัวเองและเป็นขั้วตรงข้ามกับพระเอกแบบสุดๆ ก็ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูเดินทางผจญภัยที่มีเป้าหมายคือตามหาแม่ที่หายไป แต่พวกเขาก็ถูกสิ่งมีชีวิตประหลาดตามล่าอยู่ตลอดเวลา แล้วก็พบว่าการเดินทางนี้ค่อยๆ เปลี่ยนตัวตนของทั้งคู่และก็เริ่มก่อเกิดความรักขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว 

 

สิ่งที่เรื่องนี้ค่อนข้างทำได้ดีคือแนวเรื่องใสๆ ของความรักครั้งแรกของตัวละครทั้งคู่ โดยเอาเรื่องการเก็บทุกสิ่งไว้ในใจของตัวพระเอกมาเป็นปมที่ทำให้เขาต้องแก้ไข โดยปมนี้ก็เชื่อมโยงกับปัญหาทางบ้านที่โดนพ่อขีดเส้นทางชีวิตไว้ตลอด ทำให้เขาก็เหมือนได้แหกกฏหนีออกจากบ้านมาผจญภัยกับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตครั้งแรก จากความรู้สึกปิ๊งเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่ยังไม่เข้าใจตัวเอง ซึ่งตัวละครนางเอก  สึมุกิ โอนิ ก็ทำคาแรกเตอร์อออกมาใสๆ น่ารัก ด้วยนิสัยที่ตรงข้ามกันก็เป็นเซ็ตติ้งตัวละครที่ทั้งคู่ได้เรียนรู้ข้อเสียของกันและกัน ผ่านอุปสรรคต่างๆ จนตอนท้ายก็ได้มารักกันในที่สุด แต่เรื่องก็ไม่ได้มีฉากขยี้ความรู้สึกของทั้งคู่มากเท่าชินไค เพลงประกอบเพราะๆ ก็ไม่มี มันก็เลยไม่ถึงกับอินได้นักครับ  

ส่วนแฟนตาซีของเรื่องมีความพยายามเล่นใหญ่โต โดยมีปริศนาแม่ของโอนิที่หายไปเชื่อมโยงกับความอยู่รอดของเผ่าโอนิที่บ้านเกิด ซึ่งก็มีความรักของพ่อกับแม่ที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนอีก มีเทพหิมะที่คอยกินสิ่งที่มนุษย์ปล่อยออกมาจากจิตใจที่เก็บไว้ มนุษย์ในเรื่องพวกนี้ก็จะกลายมาเป็นโอนิในเวลาต่อมา มีศาลเจ้าโบราณเป็นฉากจบ แต่ปมปริศนาแฟนตาซีของเรื่องนี้มันไม่ค่อยลงตัวนัก เรื่องไม่ได้ทำให้เราเข้าใจรายละเอียดต่างๆ เหมือนแค่หยิบจับมาใส่ๆ ไว้แล้วก็ไม่มีอธิบาย หรือความเชื่อมโยงให้พอเข้าใจก็ยังน้อยมาก สารภาพเลยว่าผู้เขียนดูแล้วก็งงกับหลายอย่างในเรื่องนี้มา ซึ่งนี่คือจุดบอดที่สุดของเรื่องต่างกับงานของชินไค ที่แม้จะเล่นเรื่องแฟนตาซีเหมือนกันแต่มีหลักเกณฑ์การอธิบายทำให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องได้ตามลำดับ 

นอกจากนี้ตัวละครสมทบระหว่างทางที่ทั้งคู่ไปเจอก็เหมือนถูกทิ้งไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนก็มีเรื่องราวที่เก็บกดไว้ในใจ แต่เรื่องแค่เล่าปัญหาให้ฟังโดยไม่ได้เคลียร์ปมเหล่านี้เลย มีแค่ตอนจบที่เอาตัวละครพวกนี้มาใส่เอนเครดิตด้วยท่าทางสดใสเหมือนเคลียร์ปมไปแล้ว หรือแม้แต่เรื่องของพระเอกกับพ่อก็ใช้ภาพเงียบๆ ช่วงนั้นเล่าแทน ทั้งๆ ที่ควรมีฉากบทเคลียร์ใจกับพ่อ แต่เหมือนเรื่องคิดไม่ได้ เลยให้ฉากเงียบๆ เล่าแทน แต่มันไม่เวิร์คเลยครับ เพราะนี่เป็นประเด็นหลักของเรื่องที่สร้างไว้ในตอนแรกแท้ๆ 

 

สรุป อนิเมะที่พยายามตามรอยแฟนตาซีแบบ มาโกโตะ ชินไค ชัดเจน แต่ทำได้ไม่ถึง มีดีแค่ตัวละครน่ารักกับเรื่องรักเบาๆ ของตัวเอกทั้งคู่ แต่ในด้านแฟนตาซีค่อนข้างงง ขาดความเชื่อมโยงหลายอย่างให้เข้าใจ แต่ถ้าผู้ชมไม่สนใจก็ยังพอดูได้อยู่ครับ


รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!