playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Extraction “คริส เฮมส์เวิร์ธ” กับหนังแอ็กชั่นเดินหน้าฆ่ามันแบบจอห์นวิค (ไม่สปอยล์)

Extraction

สรุป

คริส เฮมส์เวิร์ธ กับบทในเรื่องนี้ถือว่าสอบผ่านฉลุยในทุกๆ ด้าน หนังมีความมันส์ยิงแหลกเดินหน้าฆ่าแบบนับศพไม่ถ้วนเหมือนหนังจอห์นวิค ซึ่งก็ออกแนวโม้แหลกไม่ต้องสนใจว่าเรื่องจะสมจริงนัก คนดูทั่วไปก็คงไม่ใส่ใจอะไรกับจุดนี้อยู่แล้วเหมือนกัน แม้จะรู้สึกว่ามันเว่อร์เกินจริงอยู่ตลอดเวลาก็ตาม เรื่องยังมีปมดราม่าจางๆ มาช่วยทำให้เนื้อเรื่องที่ไม่มีอะไรให้มีติดหัวขึ้นมานิดนึง แถมด้วยฉากจบปลายเปิดไว้ให้ถกกันเล่นเผื่อทำภาคต่อไปอีกด้วย

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
4 (6 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • แนวแอ็กชั่นเดินหน้าฆ่ามันส์ตั้งแต่ต้นจนจบ
  • มุมกล้องเน้นแฮนเฮลด์+ลองเทคตามติดตัวละครทำให้ดูสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์
  • ดราม่าที่ใส่มาจางๆ แต่ก็ดูเข้ากับเรื่องพอดี
  • คริส เฮมส์เวิร์ธกับลุคทหารรับจ้างหล่อเถื่อนเนื้อตัวสกปรกตลอดเรื่องเข้ากันได้ดี
  • ดาราเด็กอินเดียเล่นเข้าคู่กับคริสได้ดีเลย
  • โลเกชั่นถ่ายทำให้เหมือนเมืองบังกลาเทศที่เต็มไปด้วยคนหนาแน่นดูสมจริง
  • มีเสียงพากย์ไทย

Cons

  • ตัวเรื่องพยายามให้มีความสมจริง แต่กลับโม้เกินจริงไปเยอะพร้อมๆ กัน
  • ศัตรูเรียงหน้ามาให้ฆ่าเล่น ทั้งๆ ที่มีถึงระดับหน่วยคอมมานโดแต่ดันเหมือนลูกกระจ๊อก
  • เนื้อเรื่องง่ายๆ แทบไม่มีอะไรให้เล่าได้ลึกเลย (พอๆ กับจอห์นวิคล้างแค้นหมา)
  • บทสรุปจบกันง่ายๆ ไปหน่อย แถมจงใจใส่เรื่องเด็กมาแบบยัดเยียดให้มีดราม่าปิดท้ายจนดูไม่สมเหตุผลเท่าไหร่
  • ตัวร้ายตัวจริงในเรื่องแทบไม่มีบทบาทอะไร

Extraction คนระห่ำภารกิจเดือด ไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ทหารรับจ้างผู้แกร่งกล้าทำภารกิจท้าตายเพื่อช่วยลูกชายของมาเฟียใหญ่ในแวดวงอาชญากรรมที่ถูกลักพาตัวไป ภาพยนตร์บู๊ระห่ำลุ้นจนลืมหายใจเรื่องนี้กำกับการแสดงโดยแซม ฮาร์เกรฟ สร้างโดยโจและแอนโทนี รุสโซ สองพี่น้องผู้กำกับล้ำวิสัยทัศน์จาก Avengers: Endgame เป็นหนัง Netflix ของคริส เฮมส์เวิร์ธ กับลุคทหารรับจ้างสุดโหดเดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยงโม้โอเว่อร์กันสุดๆ สไตล์เดียวกับจอห์นวิค 

 Extraction (2020) on IMDb
คะแนน IMDB

ตัวอย่าง Extraction คนระห่ำภารกิจเดือด

หนังแอ็กชั่นของ “คริส เฮมส์เวิร์ธ” พระเอกที่ทุกคนรู้จักกันดีจากการเล่นเป็น Thor ในหนังมาร์เวล แต่เรื่องอื่นๆ ของเขากลับไม่ได้ดังหรือทำเงินมากนัก ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ผิดที่ตัวคริส แต่เหมือนว่าตัวเรื่องต่อๆ มากลับไม่โดนสักเท่าไหร่ แล้วเขาก็สลัดภาพ Thor หลุดจากหัวผู้ชมไม่ได้สักทีด้วย แต่มาคราวนี้เขามารับบทที่เรียกว่าเครียดทั้งเรื่อง ไม่มีอารมณ์ขันหรืออะไรแม้แต่น้อย กับบททหารรับจ้างที่รับงานช่วยลูกมาเฟียในมุมไบที่ถูกลักพาตัวไปอยู่ที่ “ธากา” เมืองหลวงของบังกลาเทศ ที่ซึ่งเมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยคนของมาเฟียใหญ่ “อาเมียร์ อาซิฟ” เป็นเหมือน “ปาโบล เอสโกบาร์” ของโคลอมเบีย ซึ่งถ้าใครเคยดูซีรีส์ Narcos ที่จำลองมาจากเรื่องจริงก็คงนึกภาพออกว่าขนาดไหน ซึ่งตรงนี้แหละคือจุดที่หนังเอามาใช้เล่าเรื่องให้ระห่ำโม้แตกยิงแหลกทั้งเมืองแบบหนังจอห์นวิคเลยทีเดียว

ด้วยความที่หนังสเกลเล็กจำกัดพื้นที่ของเรื่องที่เมืองๆ เดียวไม่กว้างนัก แต่ดูแล้วงบคงเยอะพอตัว และได้ผู้กำกับ Sam Hargrave ที่ไต่เต้ามาจากงานฝ่ายสตันท์ของหนังมาร์เวลหลายเรื่องมาก บวกกับบทเรียบง่ายของสองพี่น้องรุสโซ ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ต้องมีอะไรมากมายเน้นแอ็กชั่นเดินหน้าฆ่ามันยิงกันหูดับตับไหม้ตลอดเรื่อง ผสมกับฉากแอ็กชั่นตัวๆ หลายฉากที่ทำได้อย่างสมจริงและโหดดิบแบบถึงเลือดถึงกระดูก เอาว่าตั้งแต่เปิดเรื่องมาก็มีแต่ฉากบู๊แอ็กชั่นแทบไม่มีเว้นให้พักหายใจกันสักเท่าไหร่ กับมีมุมกล้องที่เน้นแนวแฮนเฮลด์มือถือวิ่งตามติดตัวละครให้ภาพสั่นๆ กับฉากลองเทคไม่ยาวนัก แต่ต่อเนื่องกันเรื่อยๆ ทำให้ดูสมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งหนังตอบโจทย์คอหนังสายแอ็กชั่นได้อย่างเต็มที่แน่นอน แถมมีความดิบเถื่อนจากลุคหล่อโหดๆ ของคริสในบททหารรับจ้างที่ลุยแบบแลกแบบไม่คิดชีวิตเข้ามาเสริม ซึ่งตรงนี้จะมีปูปมที่มาไว้เล็กน้อยว่าเพราะอะไรในเรื่อง ซึ่งก็ช่วยเติมให้คาแรกเตอร์ของคริสดูมีมิติเพิ่มมาให้น่าเชื่อถือขึ้น นอกจากนี้ตัวหนังยังมีดาราสมทบในบทอดีตทหารรับจ้างคู่ปรับของพระเอกมาอีกคน ซึ่งในบทก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับที่คริสเล่น พี่แกเดินหน้าฆ่าไม่ยั้งทุกฝ่าย เรียกว่าหนังมีตัวโหดสองตัวในเรื่องไว้เสิร์ฟอาหารจานหลักของเรื่องที่เน้นแอ็กชั่นมันส์สะใจกันตั้งแต่ต้นจนจบแน่นอน

แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นข้อด้อยของเรื่องนี้ก็มาจากบทที่เรียบง่ายจนแทบไม่มีอะไรให้เล่าเลย นอกจากพระเอกไปช่วยเด็กแล้วพยายามหนีออกมาจากเมืองที่ถูกปิดล้อมไว้ทั้งหมดในเวลาชั่วข้ามคืน ซึ่งถ้าอิงจากการที่ตัวร้ายเป็นมาเฟียคุมเมืองแบบเอสโกบาร์ก็ดูน่าเชื่อถือว่าเป็นไปได้ที่ทั้งตำรวจ ทหาร หน่วยคอมมานโด ลูกน้องมาเฟีย และกลุ่มเด็กยากจน กลายมาเป็นคนตามล่าพระเอก (ซึ่งบทเปิดตัวร้ายเด็กก็ดันเหมือนใน Narcos ตรงที่โบ้ยความผิดให้คนตาย) ด้วยบทที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากตัวร้ายส่งคนมาตามล่าพระเอก ทำให้ตัวเรื่องกลายเป็นแบบจอห์นวิคเดินหน้ามาให้ยิงให้ฆ่าเล่นกันตลอดทางแบบนับไม่ถ้วน โดยที่ตัวเอกแทบไม่ได้โดนพวกลูกกระจ๊อกทำร้ายจนบาดเจ็บอะไรได้สักเท่าไหร่ จนดูโอเว่อร์มากๆ จะมีก็แค่ตอนดวลกับอดีตทหารรับจ้างคู่ปรับพระเอกเท่านั้นที่ดูแล้วเจ็บหนักกันทั้งคู่ แต่ก็เว่อร์ไม่แพ้กันในเมื่อต่างฝ่ายต่างโดนรถชนอย่างจัง แต่กลับแทบไม่เป็นอะไรเลยลุกมาลุยต่อได้หน้าตาเฉย แต่พอบทจะจบก็โดนกันง่ายๆ จนทำให้ความเก่งที่ผ่านมาทั้งเรื่องดูเหมือนไร้ค่าไปเลย ซึ่งถ้าจะเอาความสมจริงในเรื่องนี้มองข้ามไปเลย เพราะนี่คือหนังแนวแอ็กชั่นเดินหน้าฆ่ามันแบบจอห์นวิคชัดๆ แต่เปลี่ยนมาเล่นโดย คริส เฮมส์เวิร์ธ แทนเท่านั้น

ในส่วนของดราม่ามีใส่ไว้จางๆ กับปมลูกที่เสียไปของพระเอก ทำให้เขาเหมือนรับจ้างไปหาเรื่องตายมากกว่า แต่ก็ยังเป็นคนดีที่เลือกช่วยเด็กให้รอดแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ซึ่งในเรื่องมีตัวละครเด็กทั้งจากที่พระเอกช่วยและพวกเด็กที่พบเจอและพยายามฆ่าเขา แต่ตัวพระเอกก็แค่สั่งสอนแล้วปล่อยให้รอดไปทั้งหมด ซึ่งก็ดูเป็นคนดีจนรู้สึกแอบขัดแย้งกับแนวเรื่องจริงๆ อย่าง Narcos ที่เด็กก็โดนฝ่ายตัวเอกยิงหัวตายกันได้ง่ายๆ ไม่มีปราณีอะไรกันเพราะถือว่าฝ่ายมาเฟียยาเสพติดครองเมืองตั้งใจใช้เด็กให้มาหลอกฆ่าอยู่แล้ว ซึ่งตัวเรื่องดราม่ามีปูความสัมพันธ์ของพระเอกกับเด็กที่ช่วยไว้ตลอดทาง ดาราเด็กอินเดียก็มาช่วยส่งปมดราม่าให้ซึ้งได้นิดๆ ก่อนจะบิ้วให้ดราม่าสุดๆ กับฉากจบแนวฮีโร่ที่ต้องเสียสละ แถมยัดเยียดดราม่าเรื่องเด็กเข้ามาปิดท้ายแบบจงใจเกินจริง แต่เรื่องกลับไม่ได้จบลงที่ตรงนั้น มีเรื่องราวไปต่ออีกหน่อยเหมือนตั้งใจเอาใจคนดู หรือไม่ก็เปิดทางเผื่อไว้ภาค 2 เป็นแบบปลายเปิดนิดๆ ให้คนดูไปถกกันว่าสุดท้ายแล้วพระเอกรอดหรือไม่รอดครับ

ปล.ฉากถ่ายทำในเรื่องนี้บางส่วนถ่ายที่ไทย อย่างฉากสะพานตอนสุดท้ายของเรื่อง (แหล่งที่มาข้อมูล)

 

View this post on Instagram

 

“The bridge “. It’s almost over. #dhakamovie

A post shared by Mark Goellnicht (@gollymark) on


ติดตามรีวิวหนังซีรีส์ Original Netflix ในเว็บไซต์คลิกที่นี่

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!