playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Nobody’s Looking ใครว่าสวรรค์มีตา แหกกฎเทวดาศาสนาคริสต์จนวายป่วง (ไม่สปอยล์)

สรุป

นี่เป็นซีรีส์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสาระและอารมณ์ขัน ยิงมุกแจกความฮากันแทบทุกนาที แถมยังมีเรื่องราวดราม่าชีวิตใส่มาทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตาให้ได้ประทับใจกันอีกด้วย การันตีเลยว่าไม่ดูคือพลาด!

ปล.ดูจบรับรองหลงรักหนูแฮมสตอร์ตัวน้อยในเรื่องแน่นอน

Overall
9.5/10
9.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • จิกกัดเสียดสีความเชื่อเทวดาในศาสนาคริสต์แบบเก็บทุกเม็ด
  • หนังตลกพร้อมรอยยิ้มไม่ขาดหายไปตั้งแต่ต้นจนจบ
  • นักแสดงเด่น เล่นดีทุกตัวละคร
  • หนังใช้เวลาในการดูน้อยตอนละ 20 นาทีสั้นๆ

Cons

ยังขยี้เรื่องราวได้ไม่สุดต้องไปต่อซีซั่น 2

Nobody’s Looking ใครว่าสวรรค์มีตา ซีรีส์ใหม่ของ Netflix จากบราซิล ที่เรียกได้ว่าท้าทายความเชื่อเทวดาในศาสนาคริสต์กันอย่างตรงๆ ด้วยเรื่องราวของเทวดาหน้าใหม่ที่พึ่งจุติมาทำงานช่วยเหลือมนุษย์ แต่กลับตั้งคำถามถึงกฎเกณฑ์ของเทวดาและความเป็นไปของชีวิตมนุษย์ ทำให้ระบบที่มีอยู่มาช้านานเริ่มปั่นป่วน

 Nobody's Looking (2019) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างหนังซีรีส์ Nobody’s Looking ใครว่าสวรรค์มีตา


นี่เป็นหนังแบบที่ท้าทายความเชื่อศาสนาคริสต์และความงมงายของมนุษย์ แบบที่ไม่ใช่แค่ล้อกันเล่น แต่ล้อกันหนักๆ แล้วก็ตั้งคำถามกลับให้คนดูได้คิด แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้คนดูเคว้ง ยังมีช้อยส์คำตอบให้คนดูได้เลือกเก็บไปคิดเป็นการบ้านต่อไปอีกด้วย ซึ่งถ้าใครเคยดู PK หนังอินเดียชื่อดังที่ตั้งคำถามถึงพระเจ้าบนโลกมนุษย์ เรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้น แต่เป็นเวอร์ชั่นศาสนาคริสต์ที่กวนทีนและวายป่วงไม่แพ้กัน ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะสร้างหนังเรื่องนี้ไม่ให้โดนด่าจากคนที่เชื่อศรัทธา โดยหนังตั้งคำถามย้อนกลับก็จริง แต่ก็ไม่ได้เพื่อลบหลู่ เป็นการมองต่างมุมจากความเชื่อเดิมๆ ที่อาจจะช่วยเบิกเนตรความงมงายของผู้คนได้ไม่มากก็น้อย

หนังเริ่มจากการกำเนิดของ “อูลี” เทวดาหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 300 ปี โดยเมื่อเกิดมาก็ต้องเข้าไปทำงานในระบบ “แองเจลุส” ที่บอส (หรือใครที่ไหนก็ไม่รู้) กำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ไว้ให้เทวดาต้องทำตลอดชีวิตที่เป็นอมตะ ซึ่งก็ทำให้อูลุสตั้งคำถามกลับไปและหาคำตอบในแบบที่แหกกฏทุกข้อ และก็ชวนให้พี่เลี้ยงเทวดา “เกรต้ากับชุน” ได้ลองแหกกฎแบบเขาดูบ้าง ซึ่งนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวพิสดารมากๆ ทั้งในเรื่องและกับผู้ชมด้วยเช่นกัน

หนังนำเสนอระบบการทำงานของเทวดาที่มีวงจรชีวิตเหมือนพนักงานบริษัทบนโลกมนุษย์ แต่ที่นี่ทำงานกันแบบไม่มีเกษียณอายุ แถมยังทำงานตามคำสั่งที่ป้อนมาผ่านเครื่องจักรของบอสหรืออีกนัยหนึ่งคือพระเจ้า ให้คอยดูแลช่วยเหลือมนุษย์ในแบบไม่ต้องสงสัยหรือโต้แย้งใดๆ จนกลายเป็นงานรูทีนซ้ำซากน่าเบื่อที่เทวดาไม่มีโอกาสได้เลือกมีชีวิตเป็นของตัวเอง ต่างกับมนุษย์ที่มีอิสระไร้กฎเกณฑ์มากกว่า แต่ชีวิตก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายแบบคาดเดาไม่ได้เช่นกัน 

Nobody's Looking
Nobody’s Looking

หนังหยิบจับทุกเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดีมาตั้งคำถามจิกกัดกลับไปอย่าง พระเจ้าสร้างเทวดามีปีกบินได้แต่ทำไมไก่บินไม่ได้? ทำไมเทวดาต้องหล่อหุ่นดีตามภาพลักษณ์ที่วาดตามกันมา? การมีศรัทธาในพระเจ้าช่วยได้จริงหรือ? การที่เทวดาสอดส่องดูมนุษย์เข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนตัวหรือไม่? รวมถึงเรื่องของมนุษย์บ้านๆ อย่าง แนวคิดไลฟ์สไตล์วีแกนรักษ์โลก กิจวัตรกินขี้ปี้เยี่ยว ความเชื่อโชคลาง หรืออย่างเรื่องถกเถียงที่ดูไม่เข้าท่า ดิสนี่ย์ vs.ไอนสไตน์ อะไรยิ่งใหญ่กว่ากัน เรียกว่าหนังเก็บหมดทุกเรื่องจิปาถะทั้งเทวดาและมนุษย์มาปั่นรวมไว้ในเรื่องนี้แบบกวนทีนมากๆ แต่ก็ไม่ได้แค่ถามหรือแค่ขำๆ หนังเดินเรื่องให้โดยแสดงให้เห็นผลลัพธ์ก่อนและหลังการกระทำของ “อูลี” เทียบกัน แต่ก็ไม่ได้ฟันธงว่าความคิดแบบดั้งเดิมหรือแบบปฏิวัติหัวใหม่แบบอูลีอะไรดีกว่ากัน ซึ่งเป็นข้อดีของหนังเรื่องนี้ไม่เดินเรื่องชี้นำเอนเอียงไปซะทั้งหมด

หนังมีกิมมิคในเรื่องการช่วยเหลือของเทวดาที่ต้องดูแล้วขำได้ทุกอย่างเช่น การส่งสารชี้นำทางถึงเป้าหมายที่กำหนดให้พูดผ่านได้เฉพาะช่างทำเล็บกับคนขับแท็กซี่ (ไม่รวมอูเบอร์) เท่านั้น การที่ล่องหนแล้วไม่พอยังต้องฝึกหลบหลีกมนุษย์ในแบบขั้นเทพเพิ่มอีกด้วย ซึ่งเอาจริงๆ เป็นไอเดียการประหยัดทุนสร้างไม่ต้องมี CG อะไรให้วุ่นวาย แถมยังฮาเข้ากับเรื่องได้ง่ายๆ ยอมใจคนครีเอทเรื่องนี้จริงครับ

ใครว่าสวรรค์มีตา
ถึงล่องหนแล้วก็ยังต้องมีสกิลหลบหลีกการโดนตัวมนุษย์เพิ่มอีกด้วย -ใครว่าสวรรค์มีตา

และไม่ใช่แค่หนังตลกเสียดสี หนังมีเมนหลักเป็นเรื่องราวความรักหลากหลายเคส มีทั้งความรักของคนสูงวัย เกย์ LGTB การเปิดเผยรสนิยมทางเพศต่อสังคม ครอบครัว ท้องก่อนแต่ง ซึ่งใส่เข้ามาเป็นปมปัญหาที่อูลีกับเพื่อนเทวดาต้องแก้ไข โดยผ่านบริการ “ทินเดอร์แองเจลุส” ที่อาศัยการอ่านแฟ้มประวัติชีวิตมนุษย์ที่เทวดาองค์ก่อนรายงานไว้มาเป็นข้อมูลหาคู่ให้ จนความรักในเรื่องก็เลยเถิดไปใหญ่จนกลายเป็นเเทวดาเองก็ตกมาอยู่ในบ่วงรักนี้ด้วย

นี่ไม่ใช่หนังที่มีไอเดียสดใหม่ และก็ไม่ได้ปกปิดตัวเองว่าเอาไอเดียมาจากหนังดังที่พระเอกนิโคลัส เคจเล่นเมื่อปี พศ. 2541 เรื่อง City of Angels (ชื่อไทย สัมผัสรักจากเทพ เสพซึ้งถึงวิญญาณ) แต่เอามาใช้เป็นมุกขำจริงจังอ้างอิงในเรื่องหลายอย่าง เช่นถ้าละเมิดกฎเทวดาจะเป็นอย่างไร ในเรื่องซิตี้ออฟแองเจิ้ลพระเอกจะกลายมาเป็นมนุษย์มีเจ็บตาย ในซีรีส์เรื่องนี้ก็เลยหยิบเอามาใช่เป็นบทลงโทษด้วยการให้ดูหนังเรื่องนี้แบบชั่วกัปชั่วกัลป์ (แถมเป็นเวอร์ชั่น HD บลูเรย์ด้วย) ซึ่งหลายๆ มุกล้อเลียนมาจากซิตี้ออฟแองเจิ้ลตรงๆ ถ้าเคยดูมาจะยิ่งขำขึ้นไปอีกกับมุกเหล่านี้ที่แอบดักแก่ผู้ชมพอสมควร เสียดายใน Netflix ไทยไม่มีเรื่องนี้ให้ดู แต่แถมตัวอย่างกับเรื่องย่อไว้ให้อ่านท้ายบทความรีวิวนี้ครับ

Nobody’s Looking เป็นซีรีส์ที่เต็มเปี่ยมด้วยสาระและอารมณ์ขัน ยิงมุกแจกความฮากันแทบทุกนาที แม้แต่เอนด์เครดิตบางตอนยังไม่เว้นใส่มา แถมยังมีเรื่องราวดราม่าชีวิตใส่มาทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตาให้ได้ประทับใจกันเล็กๆ อีกด้วย และก็ยังเป็นหนังเบิกเนตรความเชื่อแหกตาที่อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็น ผ่านประเด็น “ความจริง” ที่ควรบอก หรือ “ความจริง” ที่ไม่ถามก็ไม่ต้องบอก ถ้าคนเราไม่สงสัยก็ควรปล่อยให้เขาเชื่อไปดีกว่าไปทำลายศรัทธาที่เขายึดถือนั้นถูกต้องหรือไม่? ซึ่งหนังมีคำตอบให้นำมาถกเถียงกันต่อนอกจอได้อย่างน่าสนใจ แต่น่าเสียดายว่าซีรีส์เรื่องนี้ยังขยี้ไม่สุดต้องไปต่อซีซั่น 2 โดยหนังทำมาสั้นมากตอนละ 20 กว่านาทีมี 8 ตอน และประเด็นในซีซั่น 2 ก็หักล้างความเชื่อในซีซั่น 1 ทั้งหมดด้วย ก็ต้องรอลุ้นว่าจะมาเมื่อไหร่ ส่วนตัวยกให้เป็นซีรีส์ที่น่าทึ่ง Amazing มากๆ จนติดท็อปในใจการันตีเลยว่าดีมากๆ และควรค่าแก่การแนะนำบอกต่อให้ดูจริงๆ ครับ


ตัวอย่าง City of Angels 


เซธ (นิโคลัส เคจ) เทวดาที่คอยสอดส่องดูแลมนุษย์ในนิวยอร์ก ผู้ซึ่งไม่เคยได้รับรู้ความรู้สึกของมนุษย์ จนวันที่เค้าได้มาพอกับศัลยแพทย์สาวสวยประจำโรงพยาบาลสาวสวย แม็คกี้ ไรซ์ (เม็ค ไรอัน) ผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในเรื่องของพระเจ้าและกำลังตกอยู่ห้วงอารมณ์แห่งความเศร้า หลังจากที่ไม่สามารถช่วยชีวิตคนไข้ของเธอจากความตาย เมื่อ เซธ เริ่มรู้จักแม็คกี้มากขึ้นทำให้เค้าอยากที่จะเรียนรู้ถึงความรู้สึก เศร้า เสียใจ ดีใจ จนกระทั่งรสชาติของอารมณ์ การสัมผัสและเกิดตกหลุมรักเธอเข้าจนได้ จนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจเลือกระหว่างหน้าที่สำคัญจากสวรรค์และรักแท้บนโลกมนุษย์

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!