playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์ Outer Bank SS1-2 ไล่ล่าหาสมบัติพร้อมเรื่องรักหลายเส้าของวัยรุ่น (ไม่สปอยล์)

  • คะแนน SS1 - 7/10
    7/10
  • คะแนน SS2 - 7.5/10
    7.5/10

สรุป

รีวิว SS1 ซีรีส์ทำออกมาผสมหลายๆ แนวมากเรียกว่ายำใหญ่ใส่มาแทบทุกอย่าง แต่เน้นหนักไปที่ผจญภัยกับดราม่าความรัก ซึ่งจากหนังตามล่าหาสมบัติในตอนแรก ตอนท้ายกลับกลายเป็นหนังรักฝ่าฝันอุปสรรคต่างชนชั้น พร้อมเส้นเรื่องใหม่แนวฆาตกรรมอำพรางใส่ร้ายป้ายสีตัวเอก จนไม่เหลือเค้าเดิมของหนังแนวตามล่าหาสมบัติในตอนแรกเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังใส่ปมเรื่องใหม่ๆ อัดเข้ามาตอนท้ายเพื่อไปต่อซีซั่น 2 มากจนเกินไป ทั้งๆ ที่สามารถจบเรื่องราวได้ในซีซั่นเดียวแท้ๆ

รีวิว SS2 โดยรวมซีรีส์ยังคงความสนุกในแบบเดิมไว้ได้ไม่เปลี่ยน อาจจะมีเรื่องงี่เง่ามาปนเยอะบ้าง จนทั้งน่ารำคาญกับตลกปะปนกัน เรื่องรักวุ่นๆ ก็แทรกมาได้ตลอด มาพร้อมกับขุมทรัพย์ใหม่ที่มีเรื่องเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถ้าใครชอบซีรีส์แนวล่าสมบัติในยุคนี้ก็คงมีแต่เรื่องนี้เท่านั้นครับ

Overall
7.3/10
7.3/10
Sending
User Review
4.25 (4 votes)

Pros

  • รักหลายเส้า รักต่างชนชั้นฐานะ พล็อตน้ำเน่านิดๆ แต่ก็ดูฟินดี
  • ตัวเรื่องเฉลยปมต่างๆ ที่ค้างไว้ตอนแรกไวไม่ต้องรอจนถึงช่วงท้าย
  • เน้นปมปัญหาหลังการพบเจอสมบัติมากกว่าตอนตามล่า
  • มีช่วงออกแนวระทึกขวัญที่สนุกในระหว่างค้นหาสมบัติ
  • โลเกชั่นเมืองในเกาะ Outer Banks จากของจริง

Cons

  • ตัวเรื่องมีจุดไม่สมเหตุผลเยอะ
  • มีตัวละครในแก๊งพระเอกที่บทจงใจให้งี่เง่าน่ารำคาญมาก
  • ปมปัญหาชนชั้นดูทื่อๆ มากไป
  • พยายามยัดปมเรื่องใหม่ๆ ไว้ตอนท้ายเพื่อไปต่อซีซั่น 2 จนเกินไป
  • หนังย้อมโทนสีส้มเยอะจนดูภาพออกมาดูเก่าๆ

Outer Bank สมบัติลับเอาเทอร์แบงค์ส ซีรีส์ Netflix เรื่องราวของแก๊งเด็กวัยรุ่น 4 คนที่ไล่ล่าตามสมบัติลับแห่งท้องทะเล เป็นทองคำมูลค่า 400 ล้านเหรียญในเรืออับปางเมื่อ 150 ปีก่อน พร้อมกับไขความลับการหายตัวไปของพ่อ และเรื่องราวความรักหลายเส้าที่เกิดขึ้นมาในระหว่างการผจญภัยในครั้งนี้
 Outer Banks (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Outer Bank สมบัติลับเอาเทอร์แบงค์ส

รีวิว Outer Bank SS1 (ไม่สปอยล์)

หมายเหตุ เนื้อหาบทความไม่มีสปอยล์

Outer Banks เป็นเกาะเล็กเรียวยาว 320 กิโลเมตร ของชายฝั่ง North Carolina ค่อนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ Virginia เป็นโลเกชั่นหลักของในเรื่องนี้ที่ถูกเซ็ทขึ้นมาว่ามีเรื่องเล่าขานถึงเรืออับปางเมื่อ 150 ปีก่อน ที่มีทองมูลค่า 400 ล้านเหรียญติดมากับเรือ ซึ่งพ่อของตัวเอก (John B) ในเรื่องนี้ตามล่าหาสมบัติลับนี้มานานกว่า 20 ปี จนวันหนึ่งกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มและตัดไฟฟ้าในย่านนั้นช่วงฤดูร้อน เหตุการณ์ประหลาดมากมายก็เกิดขึ้น พร้อมพบเบาะแสการหายไปของพ่อ จึงทำให้ John B นำแก๊งเพื่อนเด็กวัยรุ่น 4 คนของเขาออกตามล่าหาสมบัติสุดเสี่ยง

ซีรีส์วัยรุ่นผจญภัยที่ขุดเอาพล็อตตามล่าหาสมบัติของยุคเก่าเอามาเล่าใหม่ ในส่วนผสมตามสูตรเอาใจฐานคนดูวัยรุ่น Netflix เป็นหลัก ด้วยการรวมเรื่องผจญภัยหาสมบัติเข้ากับเรื่องรักว้าวุ่นของวัยรุ่นในช่วงอายุไม่ถึง 16 ปี (ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัย) ที่ต้องมีดราม่าเรื่องรัก ปัญหาครอบครัว ยาเสพติด เป้าหมายชีวิต การสอบชิงทุน อะไรพวกนี้เข้ามาเกี่ยวด้วย และก็ยังลากเอาแนวเรื่องทริลเลอร์ฆาตกรรมอำพรางมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถ้าผสมกันได้ลงตัวก็ไม่ถือว่าจับฉ่ายอะไรนัก หลายๆ เรื่องใน Netflix ก็มักทำกันเป็นสูตรสำเร็จอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง จนเกือบๆ จะอินไปกับแนวเรื่องที่ยำเข้าในแต่ละแบบได้แล้ว แต่กลับไปพลาดเอาช่วงท้ายเรื่องอย่างน่าเสียดาย

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยการปูให้รู้จักพลเมืองของ Outer Bank ที่มีสองชนชั้น รวยกับจนแบ่งเขตที่อยู่อาศัยแยกกัน ผ่านเสียงเล่าของตัวเอก John B ที่เป็นผู้นำแก๊ง “ปลาเล็ก” ที่รวมเพื่อนสนิทอีก 3 คนที่มีบุคลิกและความสามารถแตกต่างกัน JJ เพื่อนสนิทสมัยเรียนตั้งแต่ประถม นิสัยหัวร้อนง่าย ใช้กำลังแก้ปัญหาซะเป็นส่วนใหญ่ Pope (โป๊บ) หนุ่มผิวดำมันสมองของทีมที่เตรียมสอบชิงทุนเข้ามหาวิทยาลัย Kiara (เคียร่า) สาววัยรุ่นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่เข้าสังคมคนรวย แม้บ้านจะมีฐานะ ซึ่งทั้ง 4 คนนี้เป็นตัวละครหลักเดินเรื่องราวแบบไปไหนไปกันด้วยแทบทุกฉากตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียว

ในช่วง 3 ตอนแรกการเดินเรื่องค่อนข้างจำเจ ไปกับการตามรอยหาสมบัติแบบเก่าๆ ที่เรื่องดูยืดๆ ไม่ค่อยไปไหนไกลสักเท่าไหร่ แถมยังมีเรื่องสังคมวัยรุ่นแทรกเข้ามาเยอะมาก จนเหมือนเอาดีไม่ได้สักทาง ซึ่งแอบน่าเบื่ออยู่ไม่น้อย แต่พอเข้าตอนที่ 4 เรื่องราวกลับเข้าที่เข้าทางลงตัวขึ้นมาทันที ซีรีส์เปิดตัวแนวเรื่องใหม่ว่ามีคดีฆาตกรรมลึกลับกับฆาตกรปริศนาแฝงอยู่ในเมืองให้ตามคาดเดาว่าเป็นใครในเรื่อง พร้อมกับการโฟกัสไปที่เรื่องความรักการผจญภัยของ John B กับ Sarah นางเอกของเรื่องที่เป็นสาวจากครอบครัวไฮโซที่สุดของเมืองที่มีนิสัยแปลกๆ ไม่เหมือนใครซ่อนอยู่ ซึ่งเรื่องทำออกมาได้น่ารัก เฮฮา เปลี่ยนจากบรรยากาศเดิมๆ ใน 3 ตอนแรกไปอย่างสิ้นเชิง และก็เป็นจุดเพิ่มปมเรื่องราวความรักในกลุ่มที่ค่อยๆ ให้เห็นว่ามีหลายเส้า ทั้งแอบรักและการเขม่นกัน ซึ่งก็ไม่รู้จะเชียร์ใครดี เป็นปมความรักที่ดูสนุกน่าติดตามว่าใครจะลงเอยกับใครยังไง ส่วนการผจญภัยหาสมบัติก็เริ่มแปลกใหม่ย้ายมาอยู่บนดิน จากที่คิดว่าคงยืดไปเจอเอาตอนท้าย กลับกลายเป็นว่ากลางเรื่องก็เจอแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าการเจอปุ๊บจะจบเลย เรื่องถูกปูให้เห็นว่า การหาเจอแม้ว่ายาก แต่การนำออกมาจัดการให้เรียบร้อยกลับยากกว่าหลายเท่า ซึ่งตรงนี้แหละคือจุดเริ่มของเรื่องราวที่แท้จริงที่เกี่ยวพันย้อนกลับไปถึงการหายตัวไปของพ่อพระเอก และก็พาเรื่องราวจากการตามล่าสมบัติให้กลายเป็นหนังรัก + คดีฆาตกรรมที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนไม่เหลือเค้าของหนังตามล่าหาสมบัติในตอนแรกเลยแม้แต่น้อย 

การที่เรื่องเปลี่ยนแนวทางในช่วงหลังไปก็เพื่อปูสเกลของเรื่องให้ใหญ่โตขึ้นไว้ไปต่อซีซั่น 2 ซึ่งที่จริงก็ไม่ผิดอะไร แต่สิ่งที่หนังทำพลาดไปคือการใส่รายละเอียดหลายอย่างแบบไม่มีเหตุให้น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ในช่วงหลังที่มีปมใหม่ๆ เข้ามาเยอะมาก ทั้งฆาตกรจิตไม่ปกติ การแก้แค้น ปมอกหัก การไล่ล่าระดับปิดเมือง จนทำให้เรื่องช่วงท้ายเต็มไปด้วยปมเรื่องที่รุงรังมากจนเกินไป แล้วก็ไม่จบปมอะไรพวกนี้เลยสักอย่างเลยนอกจากเรื่องราวของความรักที่ดูจะเด่นชัดเกินหน้ากว่าเรื่องอื่นๆ มาก จนแทบจะเหมือนโรมิโอกับจูเลียตหนีตามกันไปตายอะไรแบบนั้นเลย แต่ก็ไม่ได้ทำให้อินได้เพราะทุกอย่างถูกทำไว้ให้ค้างไปต่อซีซั่น 2 ทั้งหมด แถมเยอะจนน่าเกลียด ซึ่งถ้าจบโดยไม่ขยายปมช่วงหลังซีรีส์น่าจะจบได้ลงตัวสวยงามกว่า เพราะเรื่องราวถูกปูมาดีจนสามารถจบได้ในซีซั่นเดียวแล้วแท้ๆ

เหล่าดารานักแสดงแม้ไม่ได้หล่อสวยเท่กันมากนัก แต่ก็เล่นได้ดีไม่มีติดขัดอะไรดูแล้วพออินได้ โดยเฉพาะในเรื่องราวความรักที่ออกมาน่ารักดูดี แถมนางเอกของเรื่องเป็นพวกรักนวลสงวนตัวแปลกแตกต่างจากซีรีส์ฝรั่งอื่นๆ แต่อาจจะน่ารำคาญกับตัวป่วนประจำกลุ่มอย่าง JJ ที่บทชอบให้เขาดูใช้ความรุนแรงแบบโง่ไร้เหตุผลจนเกินไปบ่อยมากจนดูไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ แม้จะปูว่าเป็นตัวละครที่มีปัญหาชีวิตถูกพ่อทำร้ายมาตั้งแต่เด็กก็ตาม

ตัวเรื่องยังพยายามใส่ปมปัญหาช่องว่างระหว่างชนชั้นในเมืองมาเพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวละครเด็กวัยรุ่นอายุ 15-16 ปีมีความกล้าในการตามล่าสมบัติที่เสี่ยง เพื่อหาทางหลุดกรอบชนชั้นของสังคมที่เป็นอยู่ พร้อมกับนำปัญหาความรักต่างชนชั้นไปขยายให้เรื่องราวใหญ่โตในตอนท้าย แต่เรื่องก็ทำออกมาไม่ค่อยมีมิติอะไรมาก ออกแนวทื่อๆ กลุ่มเด็กรวยมักนิสัยไม่ดี กลุ่มเด็กจนกลับนิสัยดีเป็นทีมพระเอกของเรื่องง่ายๆ ซึ่งดูใส่มาง่ายฉาบฉวยเกินไป

ซีรีส์ทำออกมาผสมหลายๆ แนวมากเรียกว่ายำใหญ่ใส่มาแทบทุกอย่าง แต่เน้นหนักไปที่ผจญภัยกับความรัก ซึ่งจากหนังตามล่าหาสมบัติในตอนแรก ตอนท้ายกลับกลายเป็นหนังรักฝ่าฝันอุปสรรคต่างชนชั้น พร้อมเส้นเรื่องใหม่แนวฆาตกรรมอำพรางใส่ร้ายป้ายสีตัวเอก จนไม่เหลือเค้าเดิมของหนังแนวตามล่าหาสมบัติในตอนแรกเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังใส่ปมเรื่องใหม่ๆ อัดเข้ามาตอนท้ายเพื่อไปต่อซีซั่น 2 มากจนเกินไป ทั้งๆ ที่สามารถจบเรื่องราวได้ในซีซั่นเดียวแท้ๆ

รีวิว Outer Bank SS2 (ไม่สปอยล์)

ซีซั่น 2 เรื่องราวต่อจากตอนจบเมื่อจอห์นบีกับซาร่าห์ถูกใส่ร้ายจนต้องหนีไป ในขณะที่เพื่อนที่เหลือก็พยายามช่วยหาหลักฐานให้จอห์นบีพ้นผิด ตัวซีรีส์ยังเดินไปแบบเดิมด้วยแนวผจญภัยผสมเรื่องรักวัยรุ่น เรื่องราวในช่วง 3 ตอนแรกจะยังเกี่ยวกับทองที่ค้างมาจากซีซันแรก ซึ่งบทพยายามปิดปมเคลียร์ตรงนี้เพื่อที่จะเปิดปมล่าขุมทรัพย์ใหม่ในช่วงหลังจากนั้น โดนจอห์นบีกับซาร่าห์ต้องพยายามปล้นทองที่พ่อของเธอเอาไปมาซ่อนไว้ที่แห่งใหม่ โดยมีตัวละครใหม่เป็นผู้หญิงผิวดำที่จะมาร่วมทีมปลาเล็กในซีซั่นนี้ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าทำออกมาดีเลย มีความสนุกในแนวผจญภัยวางแผนปล้นที่แตกต่างไปจากซีซั่นก่อน แต่ช่วงของเพื่อนที่เหลือเรื่องราวมีปัญหาติดความงี่เง่าของเคียร่าจนทำให้เนื้อเรื่องดูน่ารำคาญมากๆ (ตอน 2 คืองี่เง่าสุดๆ ของซีซั่นนี้เลย)

หลังจากตอน 3 ไปคือการเริ่มเข้าเรื่องขุมทรัพย์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับต้นตระกูลของโป๊บ ตัวเรื่องหันมาโฟกัสให้โป๊บเป็นตัวเอกสำคัญคู่จอห์นบี โดยมีปัญหาความรักกับเคียร่า จอห์นบีก็มีปัญหาซาร่าห์ออกแนวรักๆ เลิกๆ ซึ่งการตามล่าหาขุมทรัพย์ใหม่ก็ยังวนเวียนอยู่ในเกาะเดิม โดยมีความเกี่ยวข้องกับขุมทรัพย์เดิมบางส่วน และคราวนี้ขุมทรัพย์ไม่ใช่แค่ทอง แต่มีปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติมาร่วมด้วย การผจญภัยครั้งใหม่นี้ทำออกมาสนุกมาก ลากยาวในเกาะไปจนถึงกลางทะเล แต่ปมส่วนนี้จะยังไม่จบในซีซั่นนี้ ต้องไปต่อกันที่ซีซั่น 3 อีก โดยที่ฝ่ายตัวร้ายก็ยังเป็นตระกูลวาร์ดเหมือนเดิม และเพิ่มกลุ่มตัวร้ายใหม่เป็นอีกตระกูลที่เกี่ยวข้องกับวาร์ดมาตั้งแต่สมัยอดีต โดยตัวเรื่องจะเดินเรื่องตัวร้ายสองทีมคู่กันในการตามล่าหาสมบัติใหม่ชิ้นนี้ ซึ่งแก๊งปลาเล็กก็ต้องผจญศึกสองด้านไปพร้อมกันด้วย

โดยรวมซีรีส์ยังคงความสนุกในแบบเดิมไว้ได้ไม่เปลี่ยน ความยาวของเรื่องก็มี 10 ตอนเท่าเดิม อาจจะมีเรื่องงี่เง่ามาปนเยอะบ้าง จนทั้งน่ารำคาญกับตลกปะปนกัน เรื่องรักวุ่นๆ ก็แทรกมาได้ตลอด แต่ถ้าจะหาซีรีส์แนวล่าสมบัติในยุคนี้ก็คงมีแต่เรื่องนี้เท่านั้น ซึ่งปมล่าสมบัติของซีซั่น 2 ยกระดับขึ้นมาถึงเรื่องเหนือธรรมชาติที่อีกนิดเดียวจะเป็นอินเดียน่าโจนส์อยู่แล้ว ก็ถือว่าเรื่องฉีกแนวจากดราม่าวัยรุ่นได้สำเร็จ แต่ปมสมบัตินี้ต้องไปต่อกันที่ซีซั่น 3 ต่อเท่านั้นครับ

 

ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!