playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Paradise Hills สวรรค์ซ้อนนรก

Paradise Hills สวรรค์ซ้อนนรก

สรุป

หนังดูได้เพลินๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เรียกว่าอาจจะเดาได้หมด เพราะหนังก็ไม่ได้ตั้งใจทำมาหักมุมคนดูอะไร จากที่ตัวอย่างหนังก็แทบจะเฉลยไว้เกือบหมด แต่ที่น่าสนใจคือประเด็นเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงตัวตนที่ทำออกมาเสียดสีสังคม

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เล่นประเด็นเสียดสีชนชั้นของสังคมได้น่าสนใจจากธุรกิจในเรื่อง
  • นางเอกนางรองสวยสวยมีเสน่ห์
  • งานคอสตูมโปรดักชั่นสวยงามโดดเด่นมาก

Cons

  • ขาดเหตุผลอธิบายเรื่องราวตอนท้ายหลายอย่าง
  • หนังคาดเดาง่าย
  • พยายามใส่ดารานักแสดงจีนแบบไม่เข้ากับเรื่องนัก

สวรรค์ซ้อนนรก เรื่องราวของ อูม่า (เอมมา โรเบิร์ต) ที่ตื่นขึ้นมาใน PARADISE HILLS ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนาบุคลิกภาพตั้งอยู่บนเกาะเขตร้อนที่บรรดาครอบครัวชนชั้นสูงจะส่งลูกสาวมาเรียนรู้การเป็นสุภาพสตรีสมบูรณ์แบบ โดยมี นายหญิง (มิลลา โจโววิช) คอยช่วยปรับบุคลิกภาพ พวกเธอต้องผ่านชั้นเรียนต่างๆ สุดเข้มงวด แต่ไม่นานอูม่าเริ่มค้นพบว่าที่แห่งนี้มีความลับดำมืดซ่อนอยู่ภายใต้ความงาม เธอและเพื่อนๆ จึงต้องรีบหาทางออกจากเกาะแห่งนี้ให้ทันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

ตัวอย่างซับไทย Paradise Hills สวรรค์ซ้อนนรก

“สวรรค์ซ้อนนรก” หนังชื่อไทยเก๋ๆ ที่ได้ “มิลล่า โจโววิช” เป็นจุดขายพร้อมกับดาราสาวสวยหน้าใหม่หลายคนในเรื่องราว “กึ่งเทพนิยายไซไฟแฟนตาซี” ที่เต็มไปด้วยงานคอสตูมสวยเก๋เหมือนเวทีแฟชั่นโชว์ พร้อมด้วยฉากที่แปลกตาเหมือนสวนสวรรค์ สมกับเรื่องราวที่เป็นการปั้นหญิงสาวให้กลายเป็นเหมือนนางฟ้าสมบูรณ์แบบ หนังใช้โลกอนาคตเป็นฉากหลังสร้างเรื่องราวกึ่งเทพนิยายเสียดสีสังคมวัตถุนิยมให้เป็นจริง

หนังหยิบยกค่านิยมการวัดคุณค่าผู้หญิงที่ดีต้องมีความงามสมบูรณ์เพียบพร้อมทุกด้าน มาเล่นเป็นเนื้อเรื่องหลักเสียดสีสังคม ซึ่งในยุคเก่าค่านิยมฝังหัวนี้ถูกนำมาบังคับใช้เป็นจารีตประเพณีเครื่องแต่งกายบังคับให้ผู้หญิงทำตามแบบที่ตีกรอบไว้ ถึงจะเรียกได้ว่าสุภาพสตรีมีสกุลรุณชาติ เป็นที่ต้องการของผู้ชายมีเงิน ช่วยให้ครอบครัวถูกยกระดับมีหน้ามีตาในสังคม

หนังหยิบเรื่องราวการตีกรอบผู้หญิงในยุคสมัยเก่า แต่เล่าเรื่องใหม่ด้วยการจินตนาการในโลกอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยเปลี่ยนพัฒนาบุคลิกภาพได้ ซึ่ง PARADISE HILLS ก็คือที่แห่งนั้น และเป็นธุรกิจรายได้งามที่ครอบครัวทั้งชนชั้นกลางและชนชั้นสูงก็มาใช้บริการ โดยการันตีผลลัพธ์ภายใน 2 เดือน ผ่านโปรแกรมพัฒนาบุคลิกภาพที่เหมือนวิธีโปรปากันด้า (Propaganda) แบบนุ่มนวลค่อยๆ ล้างสมองดีๆ นี่เอง

หนังเล่นกับความหัวขบถของนางเอกอูม่า ที่ไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเธอได้ หลังโดนแม่ขัดขวางให้แต่งกับผู้ชายที่ล็อคสเปคไว้ว่ารวย แทนที่แฟนหนุ่มจนๆ ที่เขากับเธอบูชาในความรักความซื่อสัตย์มากกว่าเงินทอง เราจะได้เห็นโปรแกรมการล้างสมองของ “นายหญิง” ที่ออกแบบให้สาวๆ ได้ทำกิจวัตรในแต่ละวัน ที่ดูแล้วชิลๆ ขำๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงพวกเธอได้ อย่างการฉายภาพข้อดีของเศรษฐีที่จะแต่งงานกับนางเอกให้ดูซ้ำๆ ซึ่งเราคนดูเองก็คิดเหมือนนางเอกนี่แหละว่าไม่มีอะไรมาเปลี่ยนตัวตนเธอได้แน่นอน แต่ทั้งหมดนั่นเป็นกับดักล่อลวงให้เธอตายใจ ก่อนจะไปพบกับความลับขั้นสุดท้ายของโปรแกรมเปลี่ยนตัวตนในชั่วข้ามคืน

มิลล่า โจโววิช
มิลล่า โจโววิช ในบทที่เหมือนเทพนิยายจำแลง

หนังไม่ได้เล่นแค่เรื่องราวของนางเอกอูม่าเพียงคนเดียว แต่มีเพื่อนพ้องที่ถูกส่งมาด้วยเหตุผลแตกต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกันคือ ลูกสาวที่เพียบพร้อมใช้เป็นหน้าตาหรือแหล่งทำเงินให้ตระกูลได้ ซึ่งบทเด่นๆ เลยจะตกอยู่ที่ “อมาร์น่า”  (ไอซ่า กอนซาเลซ สาวหน้าคมจาก Baby driver กับบทหุ่นสังหารสาวใน Alita) นอกจากหน้าตาสวยคมเด่นมีเสน่ห์เฉพาะตัว อาจจะเกินหน้านางเอกนิดๆ ด้วย หนังวางบทคู่จิ้นให้ทั้งคู่นี้มีซัมติงโมเมนต์น่ารักๆ ให้กันและกัน เคมีการแสดงของทั้งคู่ก็เข้าได้ดีอีกด้วย จนทำให้คนดูแอบเอาใจช่วยความสัมพันธ์ลับของทั้งคู่ไปในตัว แต่อีกด้านก็เหมือนหลอกล่อชวนคิดว่า บางทีเธออาจจะไม่ได้อยู่ข้างอูม่าแบบที่เห็นก็เป็นได้…

สวรรค์ซ้อนนรก

หนังได้งานโปรดักชั่นกับคอสตูมเสื้อผ้าที่สวยงามเลิศเลออลังการ แต่ก็รู้สึกได้ถึงความปลอมในเปลือกนอกที่ดูโอเวอร์เกินจริงไปหมด ซึ่งสิ่งสวยงามทั้งหมดในพาราไดซ์ฮิลล์ก็เหมือนลูกอมสีหวานที่ซ่อนยาพิษไว้ภายใน หนังทำให้เราระแวงสงสัยกับทุกอย่างในที่แห่งนี้ แต่อีกนัยหนึ่งก็รู้สึกแอบเชื่อนิดๆ ตามนายหญิงที่สุภาพเรียบร้อยกับเหล่าสาวๆ จนรู้สึกว่าบางทีก็คงไม่ได้มีเรื่องเลวร้ายอะไร เพราะพวกเด็กสาวก็มีอิสระทางความคิดการกระทำเหมือนปกติเช่นเดิม ออกจะเห็นใจนายหญิงบางครั้งที่พยายามทนรับมือกับอาการวีนเหวี่ยงของเด็กสาวเอาแต่ใจพวกนี้เสียด้วยซ้ำ ซึ่งการแสดงของ “มิลล่า โจโววิช” ก็ออกมาเหมือนตัวละครในเทพนิยาย ดูไปก็คล้ายๆ “มาเลฟิเซนต์” นางฟ้าปีศาจฉบับทำใหม่ของดิสนีย์ซะด้วย แถมยังมีพลังลึกลับในตัวที่พิเศษนอกเหนือจากเทคโนโลยีล้ำๆ ในเรื่องอีกด้วย

หนังดูได้เพลินๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เรียกว่าอาจจะเดาได้หมด ตัวหนังเองก็ไม่ได้ตั้งใจทำมาหักมุมคนดูอะไรมากนัก เพราะในตัวอย่างหนังก็แทบจะเฉลยไว้เกือบหมดแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือประเด็นเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงตัวตนชั่วข้ามคืนว่าทำได้ยังไง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอะไรที่เกินจริงในยุคปัจจุบันก็ทำได้เสียด้วยสิ แถมยังจุดประเด็นเสียดสีช่องว่างระหว่างชนชั้นได้อย่างน่าคิด ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องราวปัญหาของพวกนางเอกเป็นอะไรที่จิ๊บจ้อยมาก

พวกเด็กสาวถูกจับตาสอดส่องทุกอิริยาบถ อารมณ์ที่แสดงออกทางหน้าตา การกระทำ ความคิด ทุกอย่างถูกเก็บข้อมูลเพื่อประมวลไว้ให้ “ตัวเลียนแบบ” ที่เป็นเด็กสาวจากชนชั้นล่างของสังคมที่ไม่มีอันจะกิน ที่พาราไดส์ฮิลล์รับมาฝึกหนัก และศัลยกรรมทั้งตัวให้เหมือนตัวต้นแบบ แต่มีรูปลักษณ์ในแบบใหม่ที่ทางพาราไดส์ฮิลล์กำหนดเป็นเป้าหมายไว้ในตอนแรก ซึ่งตัวเลียนแบบก็ต้องไปมีตัวตนใหม่ แลกกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวที่ต้องสละทิ้งไป ซึ่งสิ่งที่นางเอกประสบมาไม่ได้เสี้ยวของพวกนี้ที่ชีวิตลำบากกว่ามาก 

 

แม้หนังจะปูเรื่องมาดี มีจุดเฉลยความลับของโปรแกรมมีเนื้อหาน่าสนใจ แต่หนังกลับมาตกม้าตายในช่วงท้ายที่หลายอย่างออกมาไม่สมเหตุผล ทั้งความลับของนายหญิงที่ไม่มีคำอธิบายให้ชัดเจนจนกลายเป็นเทพนิยายมากไป รวมถึงพล็อตเรื่องราวตอนจบที่มีผลต่อเนื่องกับความลับของนายหญิง อะไรหลายๆ อย่างดูรวบรัดง่ายดายไปหน่อย แต่ยังดีที่มีฉากจบที่ค่อนข้างลงตัวกับทางออกของเรื่องราวทั้งหมด

นายหญิงกลายร่างเป็นปีศาจสูบพลังชีวิตของเด็กสาวที่ถูกโละทิ้งจากโปรแกรมเปลี่ยนตัวตน (หลังตัวเลียนแบบสำเร็จ 100%) ซึ่งหลังจากนางเอกจัดการนายหญิงได้ ก็กลับมาบ้านได้แบบไม่มีรายงานว่าเธอหนีและฆ่าเจ้าของพาราไดส์ฮิลล์ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย 

 

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!