playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Brews Brothers ซิทคอมตลกสัปดนเรื่องการทำเบียร์ Dirty Joke สุดแหวะ

Brews Brothers พี่น้องตกถังเบียร์

สรุป

ซีรีส์ตลกซิทคอมเรื่องราวของการทำธุรกิจเบียร์ ถ้าไม่มีอะไรจะดูแล้วหาหนังตลก Dirty Joke แรงๆ ก็คงดูได้ เพราะตัวเรื่องก็ตลกขำได้จริง แต่ถ้าจะหาอย่างอื่นจากเรื่องนี้คงไม่มีให้หรอกครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
5 (2 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • มุกตลกสกปรก Dirty Joke เต็มขั้น ซึ่งก็ตลกได้จริงถ้าคนชอบอะไรแบบนี้

Cons

  • ไม่มีเชิงลึกการทำเบียร์เลยสักนิด
  • เนื้อเรื่องเบาหวิวพร้อมระเหยแตกไปเหมือนกับฟองเบียร์
  • ตัวละคร Adam น่ารำคาญเกินมนุษย์
  • ทำไม่จบเพื่อวางไปซีซั่นต่อแบบน่าเกลียด

Brews Brothers (พี่น้องตกถังเบียร์) ซีรีส์แนวตลกแบบซิทคอมของ Netflix เรื่องราวของสองพี่น้องคนละขั้วที่ต้องมาร่วมกันทำธุรกิจโรงเบียร์ให้ประสบความสำเร็จ

 Brews Brothers (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Brews Brothers พี่น้องตกถังเบียร์

ซีรีส์แนวซิทคอมเรื่องราวของการทำเบียร์ที่พล็อตดูน่าสนใจมีความหวังว่าดูแล้วจะได้ความรู้เรื่องเบียร์ดีๆ บ้าง แต่ดูเหมือนจะเข้าใจผิดเพราะว่าตัวเรื่องราวจริงกลับเป็นเรื่องการทำเบียร์มั่วๆ ไม่ได้มีเรื่องจริงสักเท่าไหร่ เพราะแค่สองตอนแรกที่เริ่มมาก็เป็นเรื่องการทำเบียร์ด้วยส่วนผสมของ “ฉี่” จากการฟลุ๊คเยี่ยวลงไปในถังหมักเบียร์แล้วได้รสชาติดี ซึ่งก็เหมือนซีรีส์จะบอกเลยว่าอย่าได้หาความจริงจังอะไรกับเรื่องนี้ เพราะตลอดเวลาการรับชม 8 ตอน ตอนละประมาณ 28 นาที ตัวเรื่องไม่ได้ลงลึกหรือมีข้อมูลจริงของเบียร์ให้เราได้ดูกันสักเท่าไหร่ นอกจากแค่การเอาเรื่องเบียร์กับการเมาในแต่ละตอนมาวางไว้ให้เป็นเรื่องราวไปเรื่อยๆ เท่านั้น

เติมฉี่ลงไปในเบียร์
เติมฉี่ลงไปในเบียร์

หนังเปิดเรื่องมาที่โรงเบียร์ของ Wilhelm พี่ใหญ่ที่ตั้งใจทำธุรกิจเบียร์ด้วยเงินเก็บทั้งหมด แม้เบียร์จะรสชาติดี แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จและใกล้จะเจ๊ง จนการมาของน้องชาย Adam ที่เรียนเคมีมาเพื่อทำเบียร์โดยตรงและเรียกตัวเองว่าเป็น Brews Master ทำให้ร้านค่อยๆ กลับมามีความคึกคักได้ แต่ก็ต้องแลกด้วยการต้องทนกับนิสัยเสียสุดๆ ของน้องชายตัวแสบ ซึ่งวันๆ คิดแต่จะทำแค่เบียร์ชั้นสูงขายคนมีตัง โดยไม่แคร์ลูกค้าทั่วไปที่พี่ของเขาพยายามจับลูกค้าวงกว้างเลย ซึ่งก็กลายเป็นความอลเวงที่เกิดขึ้นในแต่ละตอน โดยมีเหล่าลูกจ้างและผองเพื่อนในร้านเบียร์มาร่วมด้วย

หนังแนวสร้างธุรกิจในฝันโดยเฉพาะเรื่องของเบียร์ที่ค่อนข้างเฉพาะทางทำให้พล็อตดูน่าสนใจ แต่ว่าเหมือนผู้สร้างแค่อยากได้เรื่องเมาๆ กับมุกตลกเรื่องสัปดนกับสกปรกมารวมกันเท่านั้น ซีรีส์จึงกลายเป็นแนว Dirty Joke เต็มเหนี่ยว แบบไม่ต้องมาเกรงใจคนดูเลยเปิดมาก็เป็นเรื่อง “ขี้” ใส่ขวดชวนแหวะแต่แรกเริ่มเลย แล้วก็ขยันปล่อยมุกแบบนี้มาไม่หยุด รวมถึงโชว์อ๊วกแหวะกันอยู่บ่อยๆ อีกทั้งเรื่อง SEX สัปดนก็จัดมาเยอะมาก แบบมีฉากให้เห็นตัวละครในเรื่องฟัดกันนัวเนียสดๆ อยู่เรื่อย ซึ่งแม้ว่ามันจะดูแล้วตลกหัวเราะได้จริงก็เถอะ แต่พอยัดมาถี่ๆ จนเยอะเกินก็เหมือนดูแล้วจะอ๊วกมากกว่าขำ เพราะยิ่งเดินเรื่องไปยิ่งเล่นหนักเลยเถิดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นเอาบาทหลวงมาเล่นขี้เยี่ยวกันแบบไม่เกรงใจเลย

ตัวเรื่องพยายามให้ตัวละครพี่น้องขัดแย้งกันในทุกแนวทาง ซึ่งจริงๆ ก็เป็นไอเดียเรื่องที่ดีเพราะมีปูมาว่าไม่ลงรอยกันเรื่องเบียร์กันตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งคนพี่แสดงดี ดูแล้วพอมีอะไรให้รู้สึกว่าน่าติดตามอยู่บ้าง รวมถึงมีเรื่องรักเล็กๆ กับลูกจ้างสาวที่โกงอายุเข้ามาทำงานก็ดูแล้วกุ๊กกิ๊กดี แม้จะมีเรื่องราวตรงนี้ไม่มากนัก แต่ปัญหาคือตัวน้องมันสุดโต่งเกินไป เป็นตัวละครที่ตั้งใจให้นิสัยเสียเพื่อให้ใครๆ ก็เกลียด แต่มันน่ารำคาญไปถึงคนดูด้วยนี่สิ เพราะตัวบทวางให้เขาเป็นมาสเตอร์ของการทำเบียร์มันน่าจะมีอะไรดีๆ อยู่บ้าง แต่หนังกลับใส่แต่พวกเรื่องนิสัยส่วนตัวแย่เกินมนุษย์ปกติมากลงไป แล้วเอาไปใช้กับการทำเบียร์ด้วย ซึ่งดูแล้วมันไม่น่าไปกันได้เลยกับคนทำเบียร์ที่ต้องใส่ใจอะไรมากกว่านี้

หนังวางให้มีปมในแต่ละตอนเชื่อมกันนิดหน่อย แล้วก็ค่อยๆ พาเรื่องธุรกิจเบียร์ให้คนได้รู้จักผ่านรูปแบบต่างๆ อย่างการจัดทัวร์มาลง การออกบูธ การระดมทุน การแข่งขันชิมเบียร์ จนสุดท้ายก็มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ แต่กลับถูกทรยศจากคนในร้าน แล้วก็ตัดจบเรื่องราวมานับหนึ่งใหม่ เพื่อไปซีซั่นต่อไป ซึ่งดูแล้วน่าจะยากกับการได้ทำต่อ เพราะแนวเรื่องนอกจากจะค่อนข้างล้าสมัยแล้วยังไม่มีอะไรให้แปลกใหม่น่าติดตาม เรื่องการทำเบียร์ก็เบาหวิวจนแทบไม่มีอะไรจับต้องได้เลย ยิ่งเมื่อเทียบกับเรื่อง Uncorked (บ่มรักสู่ฝัน) หนัง Netflix ที่พึ่งเข้ามาติดๆ กันเป็นเรื่องของการทำไวน์แล้วยิ่งเทียบกันไม่ติดในความลึกของเนื้อหาที่ละเอียดกว่ามาก

ถ้าไม่มีอะไรจะดูแล้วหาหนังตลก Dirty Joke แรงๆ ก็คงดูได้ เพราะตัวเรื่องก็ตลกได้อยู่ แต่ถ้าจะหาอย่างอื่นจากเรื่องนี้คงไม่มีให้หรอกครับ

 

ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!