playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว MONSTERS: The Lyle and Erik Menendez Story เล่าเรื่องอีกด้านให้ดูน่าสงสารแบบเดียวกับ DAHMER เป๊ะ!

MONSTERS: The Lyle and Erik Menendez Story

Summary

ซีรีส์จากผู้สร้าง DAHMER ที่เล่าเรื่องเบื้องหลังของฆาตกรให้ดูน่าสงสารแบบเดียวกัน มีความช้าในการเล่าเรื่อง ลงลึกหลายอย่างมากๆ จนเกินความจำเป็น และก็ไม่ใช่เรื่องจริงที่มีหลักฐานยืนยันได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้มีความต่างตรงที่เป็นโทนดาร์คคอมเมดี้จากเรื่องเล่าที่มีหลายเวอร์ชั่นของฆาตกรโรคจิตซ้ำๆ ในเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งความจริงเป็นเช่นไรก็ไม่มีใครรู้ และซีรีส์ก็ทิ้งไว้ให้ผู้ชมตัดสินเอาเอง แต่สิ่งที่เรื่องทำได้ดีมากคือนักแสดงพี่น้องฆาตกรในเรื่องที่เล่นได้สุดโต่งทั้งดูโรคจิตและน่าเห็นใจไปพร้อมกันไม่แพ้ อีแวน ปีเตอร์ส เลย

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ซีรีส์จากผู้สร้าง DAHMER ที่เล่าเรื่องในแบบเดียวกัน
  • เล่าเรื่องหลายเวอร์ชั่นในเหตุการณ์เดียวกัน
  • นักแสดงเล่นได้สมบทบาทมาก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • มีช่วงที่ตั้งใจเล่ายืดเยื้อเกินจำเป็นค่อนข้างเยอะ
  • ตัวเรื่องไม่ใช่สารคดีจึงไม่ใช่เรื่องจริงที่ยืนยันได้ทั้งหมด

 MONSTERS: The Lyle and Erik Menendez Story ซีรีส์ 9 ตอนจบ สร้างจากเรื่องจริงของคดีในปี  1989 โฮเซและคิตตี้ เมเนนเดซ ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมภายในบ้านตัวเองที่เบเวอลีย์ ฮิลส์ โดยลูกชายทั้งสองคนของเขาเอง แต่ในระหว่างการสู้คดีก็เผยความลับของครอบครัวที่ชวนให้สงสัยว่า ใครกันแน่คือปีศาจที่แท้จริง! 

 

รีวิว  MONSTERS: The Lyle and Erik Menendez Story (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ชุด Monsters จากผู้สร้าง DAHMER ที่ตีแผ่เรื่องจริงทุกแง่มุมของฆาตกรกินเนื้อคนอันโด่งดังของอเมริกา แล้วก็มีดราม่าตามมามากมายว่าเป็นซีรีส์ที่ทำโดนพลการไม่ติดต่อขอครอบครัวเหยื่อและทำให้ฆาตกรกลายเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจมากกว่าความโหดร้ายของเขา ซึ่ง อีแวน ปีเตอร์ส นักแสดงก็ได้รางวัลลูกโลกทองคำนักแสดงยอดเยี่ยมปี 2023 ซ้ำเติมไปอีกจนทางญาติของเหยื่อออกมาประณามการให้รางวัลนี้และ Netflix แต่ก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งมียอดผู้ชมสูงขึ้นไปอีก ซึ่งก็ถูกใจจนทำให้เน็ตฟลิกซ์อุนมัติงานสร้างเรื่องนี้ต่อออกมาทันทีเป็นชุดซีรีส์มองต่างมุมจากฆาตกร และคาดว่าจะมีตามมาอีกเรื่อยๆ แน่นอนครับ  

ซีรีส์เรื่องนี้สำรวจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของครอบครัวเมเนนเดซ พี่น้องคู่นี้ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญเพราะความกลัวและความสิ้นหวังที่โดนทำร้ายร่างกายและจิตใจมาหลายปี หรือทั้งคู่คือฆาตกรเจ้าเล่ห์ที่วางแผนการและลงมือเพราะความโลภและผลประโยชน์ทางการเงิน ซึ่งรูปแบบการดำเนินเรื่องก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง คือช่วงแรกให้เห็นคดีฆาตกรรมโหดร้ายเปิดเรื่องก่อน แล้วค่อยๆ ย้อนให้เห็นว่าเขาโดนจับกุมตัวยังไง ก่อนที่จะมีช่วงรายละเอียดเบื้องหลังอีกด้านค่อยๆ โผล่มา โดยมีการตั้งคำถามไปตลอดเรื่องว่าสิ่งที่พี่น้องคู่นี้เล่าออกมานั้นจริงเท็จแค่ไหน สุดท้ายผู้ชมก็ต้องเป็นคนตัดสินเองมากกว่าเรื่องจริงที่ศาลมีคำตัดสินออกไป 

ตัวเรื่องยังคงสามารถบิ้วให้ผู้ชมเชื่อแล้วเห็นใจไปกับตัวฆาตกรได้เช่นเดิม ซึ่งนี่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ไปแล้วว่าทำมาเพื่อล่อเป้าให้ถูกโจมตีโดยแท้ เพราะสิ่งที่เรื่องเน้นหนักคือพี่น้องทั้งคู่ถูกพ่อกับแม่ทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจ จนเป็นเหตุให้เขาตัดสินใจฉับพลันจากการแค่ดูหนังเรื่องหนึ่งที่ตัวเอกฆาตกรรมพ่อแม่ แล้วก็ทำตามเท่านั้น ซึ่งเหตุผลนี้ดูไม่น่าเชื่อในตอนแรก ตัวเรื่องจึงค่อยๆ เจาะจุดนี้ลงไปว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่อย่างลงลึกมากๆ โดยให้น้ำหนักข้อแก้ต่างอีกฝ่ายน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แถมโทษว่าอีกฝั่งมีอคติจากคดีฆาตกรรมลูกสาวที่เกิดขึ้นกับตัวเองเข้ามาร่วมด้วย ทำให้นี่ไม่ใช่แนวสารคดีจริงๆ นัก แต่เป็นซีรีส์ที่สร้างมาเพื่อช่วยให้เห็นมุมมองของทนายจำเลยโดยตรง ซึ่งในเรื่องจะมีฉากที่เค้นความลับจากลูกความให้ยอมสารภาพเบื้องลึกทั้งหมด เพื่อเอามาประกอบร่างเข้ากับสำนวนการต่อสู้ลดโทษให้มากที่สุด ทำให้ลูกขุนเห็นใจมากที่สุด ทำให้สื่อสาธารณะชนเห็นใจมากที่สุด จนเกิดกระแสสังคมที่มีคนมาหลงรักผู้ต้องหาอย่างคลั่งไคล้ประหนึ่งดารา เหมือนการสร้างหนังที่ต้องกำกับลูกความให้เป็นนักแสดงต่อหน้าศาลให้สมจริง แต่ก็ยังดีที่ยังใส่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไว้อีกด้านว่าพวกเขาก็มีเรื่องโกหกผสมลงไปในเรื่องด้วย ซึ่งก็ช่วยถ่วงน้ำหนักให้เรื่องราวนี้ดูไม่เขวมากจนกลายเป็นบิดเบือนข้อเท็จจริงไป

 

แต่สิ่งที่เรื่องนี้ต่างไปจาก DAHMER ก็คือตัวเรื่องนำเสนอความบ้าวิกลจริตของทั้งคู่ในแบบเกือบๆ จะเป็นดาร์คคอมเมดี้ เพราะการกระทำหลายอย่างดูเกินจริงแบบตลกจากความโรคจิตของตัวละครคนพี่ที่มีอาการมากกว่าคนน้องที่ดูตรงข้ามกัน เรื่องใช้ฉากการเล่าซ้ำๆ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะฉากก่อเหตุยิงที่มีหลายเวอร์ชั่นมาก พ่อกับแม่ก็มีสองเวอร์ชั่นทั้งโหดและดี รวมถึงเรื่องเล่าของทั้งคู่กับเรื่องที่ฝ่ายอัยการและคอลัมนนิสต์นำเสนอออกมาเป็นฉากๆ ก็ต่างกัน แม้แต่เรื่องของทนายจำเลยที่ฟังคำสารภาพในตอนแรกกับตอนหลังก็ต่างกันไปอีก ซึ่งเรื่องจริงก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นแบบไหนกันแน่ ทำให้ตัวเรื่องดูค่อนแล้วผู้ชมน่าจะค่อนข้างสับสนอยู่พอสมควรกับการเดินเรื่องแบบนี้ 

จุดที่เรื่องยังเป็นปัญหาแบบเดิมก็คือการเลือกเล่าเรื่องลึกเกินความจำเป็น โดยผ่านมุมมองตัวละครอื่นที่เกี่ยวข้องในคดี อย่างตัวละครพ่อแม่ที่เล่าเรื่อง 1 ตอนเต็มใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า เพื่อให้เห็นชีวิตอีกด้านตั้งแต่เด็กว่ามีส่วนทำให้พวกเขามาเลี้ยงดูลูกจนกลายเป็นคนโรคจิตแบบนี้ หรือตอนสารภาพเรื่องราวของคนน้องที่เหมือนต้องการโชว์ออฟด้วยการเล่าเรื่องนั่งคุยทั้งตอนซึ่งยาวมากแล้วก็ไม่ได้มีบทสรุปสำคัญอะไรมาก เพราะสุดท้ายแม้แต่ผู้สร้างก็ไม่ได้ยืนยันว่าสิ่งที่ซีรีส์นำเสนอเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีการอ้างอิงบอกไว้แบบนั้นเลยในเรื่องนี้ และอีกอย่างที่บ่งชี้ได้คือลักษณะของเรื่องเป็นแบบเดียวกับ DAHMER คือรีเสิร์ชแล้วนำมาสร้าง เพราะคนตายก็ไม่สามารถมาเล่าเรื่องชีวิตตัวเองละเอียดยิบได้แบบที่ซีรีส์นำเสนอแน่นอน

ตัวนักแสดงทั้งคู่ Nicholas Alexander Chavez กับ Cooper Koch เล่นเป็นไลล์และเอริคที่มีความโรคจิตผสมกับความน่าสงสารได้อย่างยอดเยี่ยมมาก โดยไลล์คนพี่คือไซโคพาธชัดเจนทั้งการคลั่งไคล้กับกระแสที่มีคนชื่นชอบเขา การตั้งใจแสดงละครในศาลได้อย่างน่าทึ่ง ส่วนเอริคคนน้องคือคนที่ถุกกระทำทุกอย่าง โดยรักและเคารพพี่มาตลอดแม้จะติดบ่วงกรรมจากความวิกลจริตของพี่ไปด้วย ซึ่งนี่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ชุดนี้แล้วว่านักแสดงที่เป็นฆาตกรต้องทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาคือเหยื่อผู้น่าสงสารจริงๆ นอกจากนั้นตัวทนายเองก็สวมบทได้เหมือนทนายจริงในคดีนี้แม้แต่หน้าทรงผมเป๊ะมากๆ ซึ่งเรื่องก็ทำให้เห็นว่าเธอเชื่อว่าลูกความของเธอตกเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำมาตลอดจริงๆ โดยไม่มีค่าจ้างทนายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพี่น้องทั้งคู่ไม่ได้มรดกจากพ่อแม่มาช่วย ซึ่งก็ทำให้เรื่องดูน่าสงสารกระทั่งทนายไปด้วยครับ

 

สรุป ซีรีส์จากผู้สร้าง DAHMER ที่เล่าเรื่องเบื้องหลังของฆาตกรให้ดูน่าสงสารแบบเดียวกัน มีความช้าในการเล่าเรื่อง ลงลึกหลายอย่างมากๆ จนเกินความจำเป็น และก็ไม่ใช่เรื่องจริงที่มีหลักฐานยืนยันได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้มีความต่างตรงที่เป็นโทนดาร์คคอมเมดี้จากเรื่องเล่าที่มีหลายเวอร์ชั่นของฆาตกรโรคจิตซ้ำๆ ในเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งความจริงเป็นเช่นไรก็ไม่มีใครรู้ และซีรีส์ก็ทิ้งไว้ให้ผู้ชมตัดสินเอาเอง แต่สิ่งที่เรื่องทำได้ดีมากคือนักแสดงพี่น้องฆาตกรในเรื่องที่เล่นได้สุดโต่งทั้งดูโรคจิตและน่าเห็นใจไปพร้อมกันไม่แพ้ อีแวน ปีเตอร์ส เลย

  

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!