playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Conference (Netflix)ไล่เชือดไปพร้อมกับวิพากษ์ข้าราชการทุจริตในระบบทุนนิยม

The Conference

Summary

สรุปเป็นหนังสยองขวัญไล่เชือดที่มีความแปลกใหม่ในเนื้อหาลึกๆ หลายอย่าง ด้วยการนำเหล่าข้าราชการมาเล่นในเชิงทุจริตวิพากษ์ทุนนิยมไปพร้อมกับโดนไล่ฆ่า ซึ่งมันเวิร์คใช้ได้เลยอย่างไม่น่าเชื่อ และก็ยังมีความฉลาดในการเขียนบทให้ฆาตกรที่ดูตลกจากหัวมาสคอตขนาดใหญ่ แต่ก็มีเหตุผลและความฉลาดในตัวเอง พร้อมทั้งแรงจูงใจในการฆ่าที่โอเคเลย เสียแค่ว่ามีการตัดฉากฆ่าโหดด้วยการเล่นมุมกล้องเยอะ ก็อาจจะไม่ถึงกับเด่นมากในแนวเดียวกันครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังสยองขวัญไล่เชือด
  • วิพากษ์ข้าราชการทุจริตกับทุนนิยม
  • หนังจากสวีเดน
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ฉากไล่ฆ่ายังมีช่วงเกินจริงอยู่บ้าง
  • เซ็นเซอร์โดยการตัดฉากหลบมุมกล้องเยอะ

 

The Conference สัมมนาเลือด หนังสยองขวัญ Netflix จากสวีเดน เมื่อพนักงานข้าราชการเทศบาลมารวมตัวกันพัฒนาความสัมพันธ์  แต่กลับเจอฆาตกรใส่ชุดมาสคอตไล่ฆ่า
The Conference (2023) on IMDb

รีวิว The Conference สัมมนาเลือด (ไม่มีสปอยล์)

 

หนังไล่เชือดที่พล็อตแหวกขนบธรรมเนียมวัยรุ่นยอดนิยมไปเป็นข้าราชการ ซึ่งฟังพล็อตแล้วอาจจะไม่แปลกใหม่นัก แต่เนื้อหาในเรื่องกลับมีความแหวกแตกต่างไปอีกด้วยการเอาเรื่องทุจริตการเมือง ทุนนิยม พฤติกรรมชายเป็นใหญ่ในที่ทำงาน เข้ามาเล่นร่วมกับการปล่อยตัวฆาตกรใส่หมวกตัวการ์ตูนมาสคอตของโครงการศูนย์การค้าใหญ่ที่เตรียมสร้าง ซึ่งทั้งหมดถูกใส่เข้ามาเป็นเบื้องหลังแรงจูงใจในเหตุการณ์นี้

ผลลัพธ์ที่ได้มันเลยกลายเป็นหนังไล่เชือดที่มีกึ๋น มีความเก๋แทรกลงไป มีเนื้อหาอื่นให้เล่านอกจากแค่ฆาตกรคนบ้าไล่เชือดตัวละครไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องมานั่งคิดว่าเป็นใคร แต่หนังได้วิพากษ์ตีแผ่พฤติกรรมข้าราชการทุจริตร่วมกับทุนใหญ่กดขี่ชาวบ้านชนบท โดยแม้แต่ลูกน้องก็ยังถูกจับเข้าร่วมโครงการทุจริตไปด้วยโดยไม่รู้ตัว และพอจะส่งเสียงค้านก็โดนปิดปากด้วยวิธีการต่างๆ แม้แต่การใช้ความเป็นเรื่องทางเพศเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหนังใส่เรื่องราวตรงนี้เข้ามาได้เหมาะตั้งแต่ช่วงเวลาเกริ่นนำเรื่อง เนื้อเรื่องตอนต้น หลังรู้ว่าฆาตกรมาไล่ฆ่าก็ยังหาทางแทรกเรื่องพวกนี้เพิ่มลงไปได้อีก ตอกย้ำความเลวร้ายของเจ้านายทุจริต โดยที่เนื้อหาเหล้านี้ไม่ขัดกับฉากหนีการไล่ฆ่าเลยด้วย ซ้ำยังทำให้บางช่วงกลายเป็นมุกตลกอย่างตั้งใจ ซึ่งนี่เป็นสไตล์ของผู้กำกับในคำโปรยเรื่องนี้เลยครับ

 

ส่วนของตัวฆาตกรแม้ว่าผู้ชมอาจจะรู้สึกรำคาญกับหัวมาสคอตขนาดใหญ่ที่ฆาตกรใส่อยู่ตลอดก็ตาม ซึ่งผู้กำกับเองก็รู้ดี โดยทั้งตั้งใจทำให้มันดูตลกผสมความโหด และยังใช้ป้องกันการตอบโต้ของเหยื่อกลับมาที่หัวได้ (เพราะมันหนาแล้วก็ใหญ่มาก) แล้วยังใช้มันเป็นตัวอำพรางคนร้ายว่าเป็นใครนิดๆ โดยมีตัวหลอกล่อความสนใจให้คิดว่าเป็นบางคน 

ในฉากฆ่าทั้งหลายก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีช่วงหลบฉากเซ็นเซอร์ไม่ให้โหดมากอยู่บ้าง แต่หนังก็ใส่ความโหดเข้ามาหลายฉาก อย่างการใช้เลื่อยไฟฟ้าไล่ฟัน แขวนคอคนโดยใช้เชือกเสาธง ใช้มีดกระซวกกลางตัว แถมฆาตกรยังฉลาดด้วยการทำกับดักเหยื่อไว้รอบป่า อย่างลวด กับดักหมี ตะปูบนถนน รวมถึงทุกจุดที่เป็นทางรอดออกไป และก็ตัดสมาร์ทโฟนทั้งหมดไปตั้งแต่แรกจากการเข้าแคมป์ด้วย ซึ่งโดยปกติหนังไล่เชือดมักไม่มีแบบนี้ แต่เรื่องนี้คือไม่ว่าตัวละครจะหนีไปทางไหนก็ไม่มีทางรอดตายไปได้ง่ายๆ เลย ทำให้เรื่องมีความเป็นไปได้มากกว่าการสร้างฆาตกรให้ไล่ฆ่าแล้วหนีหายไปตามปกติ 

 

และจุดที่ดีอีกอย่างคือหนังไม่ได้สร้างให้นางเอกเป็นตัวละครเดียวที่สู้กับฆาตกรได้ แต่หนังได้ให้ตัวละครสมทบเข้าร่วมสู้ด้วยในตอนหลัง ซึ่งเป็นตัวละครข้าราชการดีที่เหลืออยู่และก็ได้ซีนชดใช้ความผิดปลดล็อกตัวเองไป ส่วนนางเอกได้ฉากไคลแม็กซ์สู้กับตัวร้ายใหม่ออกไป ซึ่งมันเซอร์ไพรส์และแอบสะใจเลยทีเดียว

 

สรุปเป็นหนังสยองขวัญไล่เชือดที่มีความแปลกใหม่ในเนื้อหาลึกๆ หลายอย่าง ด้วยการนำเหล่าข้าราชการมาเล่นในเชิงทุจริตวิพากษ์ทุนนิยมไปพร้อมกับโดนไล่ฆ่า ซึ่งมันเวิร์คใช้ได้เลยอย่างไม่น่าเชื่อ และก็ยังมีความฉลาดในการเขียนบทให้ฆาตกรที่ดูตลกจากหัวมาสคอตขนาดใหญ่ แต่ก็มีเหตุผลและความฉลาดในตัวเอง พร้อมทั้งแรงจูงใจในการฆ่าที่โอเคเลย เสียแค่ว่ามีการตัดฉากฆ่าโหดด้วยการเล่นมุมกล้องเยอะ ก็อาจจะไม่ถึงกับเด่นมากในแนวเดียวกันครับ

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!