playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Glory Netflix ซีรีส์เกาหลีที่เขียนบทล้างแค้นได้เว่อร์สุดๆ

Summary

ซีรีส์แนวล้างแค้นที่เขียนบทให้นางเอกถูกกระทำในตอนเด็กได้เว่อร์เกินจริงมากไป จนดูไม่อินในตอนแรก แต่พอตอนโตตัวเรื่องเล่าถึงมิติของการล้างแค้นได้อย่างน่าสนใจด้วยการเปิดเผยตัวตรงๆ ทำให้เรื่องน่าติดตามแบบคาดเดาไม่ได้เลยว่านางจะยกระดับการล้างแค้นไปถึงขั้นไหนกันแน่ แต่น่าเสียดายที่เรื่องจบแบบค้างคาไปไม่ถึงจุดของการล้างแค้นใครได้สักคนจริงๆ ต้องรอเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งทำให้ตัวเรื่องในตอนนี้เป็นเพียงแค่การปูเรื่องล้วนๆ เท่านั้นครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • แนวล้างแค้นแบบเว่อร์ๆ ทั้งเหยื่อและคนกระทำ
  • เดินเรื่องแบบเดาไม่ได้น่าติดตาม
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • นางเอกตอนเด็กถูกกระทำแบบเว่อร์เกินจริงมาก
  • บทคุณป้าผู้ช่วยนางเอกไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่

The Glory Netflix หลายปีหลังผ่านพ้นชีวิตวัยเรียนที่ถูกข่มเหงรังแกสารพัด ผู้หญิงคนหนึ่งจึงเริ่มปฏิบัติการล้างแค้นอย่างแยบยล เพื่อลงโทษคนที่ทำให้เธอเจ็บ… ให้เจ็บยิ่งกว่า นำแสดงโดยซงฮเยคโยและอีโดฮยอน ผู้เขียนบท คิมอึนซุกจาก Guardian: The Lonely and Great God และผู้กำกับ อันกิลโฮจาก Stranger

 The Glory (2022) on IMDb

ตัวอย่าง The Glory Netflix

รีวิวซีรีส์เกาหลี The Glory Netflix

มีสปอยล์เนื้อหาบางส่วน แต่ไม่ใช่จุดหักสำคัญของเรื่อง

ซีรีส์แนวล้างแค้นที่วางพล็อตให้ตัวละครถูกกระทำย่ำยีตั้งแต่เด็กแบบเว่อร์สุดๆ ตั้งแต่ตอนแรกด้วยฉากทรมานของกลุ่มเพื่อนร่วมโรงเรียนของนางเอก มุนดงอึน แบบโหดเกินกว่าการกลั่นแกล้งบูลลี่ในโรงเรียน ด้วยการใช้ของร้อนนาบร่างกายทั่วตัวจนมีแผลไหม้ทั่วร่าง ซ้ำยังให้ตัวละครรอบตัวนางเอก บรรดาครู พ่อแม่ ตำรวจ ทำร้ายกับทอดทิ้งนางซ้ำเข้าไปอีก ซึ่งว่ากันตรงๆ มันเป็นบทที่เว่อร์เกินจริงไปมากแบบไม่มีทางเป็นไปได้เลย ยิ่งในเกาหลีใต้ที่มีกฎหมายค่อนข้างเข้มแข็งด้วย ทำให้การดูตอนแรกรู้สึกไม่อินกับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่สร้างมาเพื่อให้นางเอกมีปมแก้แค้นกลับตอนโต แบบไม่สมเหตุผล  เพราะในความเป็นจริงกรณีเคสทำร้ายร่างกายมีหลักฐานครบ ทั้งเจ้าตัวคนทำร้ายยังยอมรับหน้าตาเฉย ครูก็ทำร้ายนางเอกซ้ำในห้องทำงานท่ามกลางครูคนอื่นๆ อีก แม่ก็ทิ้งลูกไปทั้งๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยไม่มีคนของรัฐเข้ามาช่วย มันดูจงใจให้เป็นบทดราม่าเร้าอารมณ์เกินความเป็นจริงไปมาก


แต่ถ้าตัดเรื่องในตอนแรกออกไป มาถึงพาร์ทตอนโตที่เริ่มในตอน 2 แล้วนางเอกอายุ 36 จากตอนที่โดนรังแกอายุ 18 ตัวเรื่องถือว่ามีมิติของการเล่าเรื่องการแก้แค้นได้อย่างน่าสนใจ โดยเรื่องไม่ได้บอกว่าเธอจะทำยังไง แล้วให้ผู้ชมค่อยๆ ติดตามการสืบหาข้อมูลเพื่อล้างแค้นแก๊งโหดที่ตอนนี้ก็กลับได้ดิบได้ดีมีงานสวยหรูกันทุกคน โดยเริ่มจากตัวคนเดียวก่อนค่อยๆ มีผู้ช่วยเป็นแม่บ้านที่ผันตัวมาเป็นนักสืบให้นางเอก และก็ตามมาด้วยคุณหมอที่แอบหลงรักเธอ ซึ่งก็ต้องบอกว่าตัวเรื่องยังคงใช้ความเว่อร์เกินจริงมาขาย ทั้งๆ ที่การล้างแค้นด้วยการเปิดเผยว่าเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำก็น่าจะทำให้หน้าที่การงานพวกนี้ดับสนิท อย่างตัวร้ายหลักทำงานเป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าวงการเกาหลีมีเรื่องฉาวเมื่อไหร่ก็ดับทันที  แต่บทกลับข้ามไปเลยให้นางเอกพยายามล้างแค้นไปไกลกว่านั้น และเปิดเผยตัวเองต่อหน้าแก๊งโหดว่ากลับมาล้างแค้นกันตรงๆ ไม่มีปกปิด ซึ่งนี่คือความสนุกของเรื่องนี้ว่านางเอกกำลังพยายามยกระดับการล้างแค้นไปที่จุดไหนกันแน่ ทั้งๆ ที่หลายอย่างในเรื่องคือสามารถจบปิดบัญชีได้แล้วแท้ๆ แต่นางไม่ทำ!

ส่วนตัวร้ายในเรื่องนี้ก็คงเส้นคงวาความเลวตั้งแต่เด็กยันโตได้อย่างเว่อร์มาก เรียกว่าเป็นตัวร้ายที่ไม่มีมิติอื่นเลย ไม่มีความดีในตัวให้เห็นสักนิดทุกฉากคือกระทำแต่เรื่องเลวๆ เปิดเรื่องมาเลวสุดๆ ยังไง โตมาก็เลวแบบเดิมล้วนๆ แถมยังมีอำนาจเงินทอง ตำแหน่งในสังคมดูดีกันหมด จนรู้สึกว่าบทจงใจให้เลวเกินจริงเพื่อให้นางเอกดูชอบธรรมในการล้างแค้นล้วนๆ ซึ่งก็โอเคล่ะเพราะนี่คือซีรีส์แนวล้างแค้นแบบจัดเต็มไม่มีจุดให้เขวออกนอกทางได้เลย แม้แต่เรื่องรักยังแทบเบาบางมาก ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ตัวนางเอกดูหนักแน่นกับการล้างแค้นจริงจัง 

นอกจากนี้ตัวเรื่องยังมีเส้นเรื่องรองซ้อนอยู่ของคุณหมอที่หลงรักนางเอก ที่เขามีปมเรื่องพ่อถูกฆ่าโดยฆาตกรที่ตอนนี้ติดคุกอยู่และส่งจดหมายมาเย้นหยันอยู่เรื่อยๆ จนทำให้เขากลายเป็นคนที่มีบุคลิกภาพซ้อนแบบฝันถึงการฆ่าติดตามตัวตลอด ซึ่งตัวเรื่องเล่ามานิดๆ หน่อยๆ ยังไม่ได้เผยมาทั้งหมดว่าการล้างแค้นของหมอจะมาเชื่อมโยงยังไงกับตัวนางเอกอีกที

 

ซีรีส์มี 8 ตอนและยังไม่จบ โดยภาคต่อจะมาเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งทำให้ตัวเรื่องในตอนนี้เป็นเพียงแค่การปูเรื่องล้วนๆ เท่านั้น ตอนจบของเรื่องนางเอกก็ยังไม่ได้จัดการใครได้สักคน และยังฉายภาพหมากล้อมที่พึ่งวางหมากลงในกระดานเท่านั้น แนะนำว่าถ้ารอได้รอดูรวดเดียวจบเลยดีกว่ามาค้างคาครับ!

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!