playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Good Nurse หวาดเสียวลุ้นระทึกกับเรื่องราวชีวิตที่ใกล้ชิดปีศาจในคราบพยาบาล

The Good Nurse

Summary

หนังที่สร้างจากเรื่องจริงแค่บางส่วนของฆาตกรต่อเนื่องในคราบบุรุษพยาบาล  ไม่ใช่ทั้งหมดหรือลงลึกอย่างที่คนดูคาดหวังไว้นัก โดยไปเน้นมุมมองชีวิตของพยาบาลสาวเพื่อนฆาตกรในช่วงท้ายก่อนจะถูกจับที่สานสัมพันธมิตรภาพกับฆาตกรจนกลายเป็นเหมือนเรากำลังดูชีวิตจริงของฆาตกรต่อเนื่องที่แฝงตัวอยู่ในสังคมแบบเรียลๆ โดยเน้นบทสนทนาทั้งเรื่อง พ่วงกับพยายามตีแผ่ปัญหาของวงการสาธารณสุขอเมริกาหลายอย่าง แต่ก็ไม่ได้ลงลึกถึงเรื่องราวหรือปัญหาจริงที่เกิดขึ้นนัก แต่ตัวหนังก็ตอบโจทย์ในทิศทางดราม่าชีวิตผสมความระทึกขวัญแบบเรียลๆ ได้เป็นอย่างดี ผ่านการแสดงของตัวเอกทั้งคู่ที่ทำให้เรื่องราวนี้ดูสมจริงมากขึ้นไปอีก

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากเสี้ยวหนึ่งของเรื่องจริง ชาร์ลส์ คัลเลน ฆาตกรต่อเนื่อง 400 ราย
  • เรื่องราวแบบเรียลๆ ของชีวิตที่ใกล้ชิดฆาตกร
  • พยายามตีแผ่ปัญหาของวงการสาธาณสุขในอเมริกา
  • นักแสดงนำที่ได้ออสการ์ทั้งคู่
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • บอกเล่าเรื่องจริงแค่เสี้ยวเล็กๆ ไม่ได้มีรายละเอียดของ ชาร์ลส์ คัลเลน ในเชิงลึก
  • อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดตามที่หนังพยายามสร้างให้ดู
  • เล่าเรื่องแบบเรียบๆ เน้นบทสนทนาทั้งเรื่อง

 The Good Nurse (2022) on IMDb

รีวิว The Good Nurse

หนังที่บอกว่าสร้างจากเรื่องจริงของ ชาร์ลส์ คัลเลน (Charles Cullen) ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่สารภาพว่าสังหารผู้ป่วยมากถึงสี่สิบคนในช่วงอาชีพสิบหกปีของเขาในฐานะพยาบาลในรัฐนิวเจอร์ซีย์  จนได้รับฉายาจากสื่อว่า เทพบุตรแห่งความตาย (Angel of Death) ชายที่อาจจะฆ่าคนไปถึง 400 ราย ซึ่งก่อนดูก็ชวนให้คิดว่าจะทำเป็นเรื่องราวชีวประวัติของชาร์ล แต่กลายเป็นว่าเรื่องกลับยกมาแค่ส่วนเสี้ยวช่วงท้ายก่อนโดนจับได้ แล้วก็เล่าเรื่องผ่านมุมมองของพยาบาลเพื่อนสาวที่สนิทกับเขา ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำจากหนังสือขายดีอีกที แต่ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงก็ไม่อาจจะแน่ใจได้ เพราะข้อมูลที่ได้จากเรื่องนี้ก็ไม่ตรงกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้น (อ่านเรื่องจริงได้จากบทความ การมอบความตายคือการช่วยเหลือ? ‘เทพบุตรแห่งความตาย’ บุรุษพยาบาลผู้พรากชีวิตคนไข้)

เนื้อเรื่องไม่ได้มาในแนวฆาตกรต่อเนื่องตรงๆ แต่เป็นแนวดราม่ากดดันระทึกขวัญจิตวิทยา ผ่านตัวละคร เอมี่ พยาบาลลูกสองที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ และตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจทำงานหนักไม่ได้ จึงต้องปกปิดอาการเหล่านี้ไว้จนกว่าจะครบกำหนดการทำงานกับโรงพยาบาลในอีก 4 เดือน ก่อนที่ชาร์ลจะเข้ามาทำงานกะดึกร่วมกับเธอ และก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ซึ่งเรื่องราวปูดราม่าชีวิตเอมี่อย่างรันทดถึงสภาพที่ถูกกดดันว่าต้องทำงานหนักเพื่อลูกจะตายก่อนไม่ได้ โดยเป็นชีวิตของเอมี่ที่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตปัญหาในแต่ละวัน ที่มีเหตุการณ์ร้ายของผู้ป่วยที่เธอดูแลตายอย่างสะเทือนใจ ทำให้สภาพจิตใจยิ่งแย่เข้าไป ในขณะที่เธอไม่รู้เลยว่าฆาตกรต่อเนื่องอยู่ข้างๆ ตัวติดตามเธอไปถึงชีวิตที่บ้าน ซึ่งผู้ชมรับรู้อยู่แล้วแต่แรกว่าเขาเป็นฆาตกร นั่นทำให้เรื่องดูน่ากลัวแบบไม่ต้องมีฉากสยอง เหมือนชีวิตจริงแบบเรียลๆ ของฆาตกรที่อาจจะแฝงกายอยู่ร่วมเป็นข้างๆ คนรู้จักในชีวิต ซึ่งจุดนี้ตัวเรื่องทำได้ดีมาก ยิ่งถึงฉากที่เอมี่รู้ความจริงแล้วแต่ยังทำอะไรเขาไม่ได้ยิ่งทำให้ฉากเหตุการณ์ในชีวิตที่ดูเหมือนเรียบๆ กลับได้อารมณ์เสียวสยองหายใจไม่ทั่วท้องแบบที่คนดูรู้สึกได้เหมือนที่เอมี่ประสบในเรื่องเช่นกัน ซึ่งเรื่องก็ทำให้เธอเป็นโรคหัวใจด้วยยิ่งกดดันหนักหน่วงเข้าไปอีก

เนื้อเรื่องจงใจเล่าแค่ช่วงท้ายก่อนโดนจับของชาร์ล แล้วสร้างเรื่องราวมิตรภาพของเขาที่เกิดกับเอมี่ โดยพยายามทำให้เข้าใจว่าชาร์ลป่วยทางจิตแบบพยายามซ่อนไว้ จากปัญหาชีวิตที่ไร้ความสุขของเขา แล้วก็ทำให้เอมี่เป็นคนที่เข้าถึงและเข้าใจเขาจริงๆ จนนำไปสู่การจับกุมตัวพร้อมคำสารภาพได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องจะเน้นที่ฉากการพูดคุยของสองคนนี้เป็นไคลแม็กซ์สุดท้ายของเรื่องที่มีแต่บทสนทนาเนิบๆ ก็จริง แต่ก็ดูสมจริงจนน่าเชื่อถือมากว่าการทำให้ฆาตกรต่อเนื่องที่ป่วยทางจิตสารภาพได้นี่ต้องใช้ความเข้าใจแค่ไหน ซึ่งตัวเรื่องทำได้ดีไม่มีที่ติจากบทการแสดงพลังดาราออสการ์ของทั้งคู่ที่เล่นส่งต่อเคมีอารมณ์ทุกอย่างได้ตามที่เรื่องวางไว้

แม้ว่าตัวเรื่องจะจับจุดเล่าแค่ข่วงสั้นๆ เน้นดราม่าชีวิตมากกว่า และก็ทำได้ดี แต่ปัญหาก็อาจจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ชมคาดหวังว่าจะได้เห็นชีวิตลงลึกของฆาตกรรายได้มากวก่านี้ ซึ่งตัวเรื่องแทบไม่มีรายละเอียดเลยว่าเขาทำไปทำไม และการสืบสวนของเรื่องจากอัยการก็ดูเป็นแค่การบอกเล่าปัญหาว่าที่ชาร์ลทำอย่างนี้มาได้ตลอดกับ 9 โรงพยาบาล ก็เพราะการละเลยปกปิดปัญหา แต่ตัวเรื่องจริงมีเหตุผลที่มารายละเอียดค่อนข้างครบและตอบคำถามต่างๆ ที่เรื่องนี้คาไว้ได้โดยละเอียด อย่างจุดเริ่มต้นของการฆ่า แรงจูงใจต่างๆ ซึ่งพอได้อ่านเรื่องจริงกลายเป็นเรื่องนี้แทบจะตัดข้ามละเลยสิ่งที่ควรจะบอกเล่ามาทั้งหมด อย่างปัญหาว่าทำไมโรงพยาบาลละเลยไม่ใช่แค่เรื่องกลัวเป็นข่าวใหญ่ แต่ลึกๆ คืออาชีพพยาบาลขาดแคลน ทำให้ รพ. กลัวว่าจะยิ่งซ้ำเติมเรื่องนี้เข้าไปอีก ซึ่งจริงๆ ก็คือสิ่งที่เรื่องนี้แสดงมาตั้งแต่แรกว่าอาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่หนัก พร้อมเจอปัญหาเฉพาะหน้ากับผู้ป่วยก่อนใครด้วย

เอ็ดดี้ เรดเมย์น แคสมาได้ตรงตัวจริงมาก

สุดท้ายนี่ก็เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงแค่บางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมดหรือลงลึกอย่างที่คนดูคาดหวังไว้นัก แต่ตัวหนังก็ตอบโจทย์ในทิศทางดราม่าชีวิตผสมความระทึกขวัญแบบเรียลๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!