playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Last Mercenary การพลิกบทบาทไปตลกของ ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ในวัย 60 ที่น่าเอาใจช่วย (ไม่มีสปอยล์)

The Last Mercenary

สรุป

หนังสายลับแอ็กชั่นตลกของอดีตนักแสดงคิวบู๊ตัวจริงอย่าง ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ที่พลิกบทบาทมาเล่นตลกในวัย 60 ถือว่าผ่านเลย แฟนหนังของเขาคงรู้สึกดีเอาใจช่วยกับการกลับมาครั้งนี้ใน Netflix ซึ่งหนังก็ทำแนวตลกร้ายหน้าตายตามสูตรดาราหนังแอ็กชั่นปกติที่เคยผ่านตากันมาก่อน พ่วงด้วยตัวละครสมทบเรื่องที่ขยันแจกมุกฮาทุกฉากที่ออกมา อาจจะไม่ถึงกับฮาสุดๆ แต่ก็ต้องมีหลุดฮาออกมาบ้างแน่นอน แนะนำเลยว่าให้ดูพากย์ไทยจะได้ความฮามากกว่าเยอะ (เสียงต้นฉบับเป็นฝรั่งเศส) แต่ถ้าใครคาดหวังแอ็กชั่นดุเดือดดิบๆ อะไรนี่ก็คงไม่ได้มีให้ แต่สำหรับคนที่ยังจำท่าประจำตัวของเขาได้ อย่างท่าหักกระดูก ตบบ้องหู อะไรแบบนี้หนังยังไม่ลืมใส่มาเซอร์วิสแฟนๆ ได้ครบครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • การพลิกบทบาทของอดีตนักแสดงคิวบู๊ตัวจริงอย่าง ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ในวัย 60 ปี
  • มุกตลกนำหน้ากับทุกเรื่องขยันยิงบ่อย (ไม่ได้เดินเรื่องแบบต้องสมเหตุผล)
  • ฉากแอ็กชั่นกับท่าประจำตัวยังอยู่ครบ
  • ดราม่าพ่อลูกกับประเด็นเลี้ยงลูกด้วยเงินล้วนๆ กลายเป็นสปอยล์เด็กจนเสียคน
  • เสียงพากย์ไทยขยันใส่มุกเพิ่มได้ฮาดี

Cons

  • คู่หูตัวร้ายหน้าเดิมๆ ขยันวนมาให้พระเอกซ้อมจนเหมือนหนังไม่ลงทุนกับฉากแอ็กชั่นมาก
  • ช่วงที่พระเอกต้องปลอมตัวกะให้ตลก แต่ดูฝืดๆ มากกว่า
  • ถ้าไม่ใช่คนดูหนัง ฌอง-โคลด แวน แดมม์ จะไม่เก็ทหรือสนใจจุดขายนี้เลย

 

ทหารรับจ้างคนสุดท้าย The Last Mercenary หนังแอ็กชั่นตลก Netflix นำแสดงโดย ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ในบทสายลับในตำนานที่โดนรัฐบาลหมายหัวไว้ต้องกลับมายังประเทศฝรั่งเศส เพื่อช่วยลูกชายที่เขาไม่เคยมาเลี้ยงดูเลยตลอด 25 ปี

 The Last Mercenary (2021) on IMDb

ตัวอย่าง ทหารรับจ้างคนสุดท้าย The Last Mercenary

สำหรับชื่อ ฌอง-โคลด แวน แดมม์ (Jean-Claude Van Damme) คนดูหนังรุ่นหลังอาจจะไม่คุ้นหูเลยก็เป็นได้ เพราะเขาคือพระเอกนักบู๊ตัวจริงจากยุค 80 เริ่มแสดงครั้งแรกในปี 1979 แต่ก่อนหน้านั้นก็เป็นสตันท์แมนมาก่อน ก็คล้ายๆ กับจาพนมของเรา เส้นทางของแวนแดมม์คือ พระเอกในหนังแนวใช้ศิลปะการต่อสู้หลายชนิดรวมกัน เพราะตัวจริงเขาก็เป็นนักคาราเต้ที่ได้แชมป์มาแล้วหลายครั้งก่อนเข้าวงการ ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยได้ดูหนังแนวตลกจากเขาเลย หรืออาจจะมีก็ได้ แต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก่อน (แวนแดมม์เล่นหนังฝรั่งเศสเป็นหลักเยอะมากนับไม่ถ้วน แต่ไม่ได้เข้าฉายไทย) แต่การมาเล่นให้ Netflix ครั้งนี้คือเป็นหนังแอ็กชั่นคอเมดี้เต็มตัว ซึ่งจริงๆ ก่อนดูก็แอบห่วงว่าจะไหวรึเปล่ากับบทบาทแหวกแนวแบบนี้ แต่เหมือนพอยิ่งแก่ยิ่งเก๋า (ปีนี้อายุ 60 ปีแล้ว) ก็เรียกว่าผ่านเลยกับเส้นทางใหม่ตรงนี้

The Last Mercenary
The Last Mercenary

หลายคนอาจจะมองว่าดาราที่ขายบทบู๊แบบนี้มักจะเล่นหนังที่บทไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ จ้องกันแต่จะขายฉากบู๊เท่านั้น พ่วงด้วยเล่นก็แข็งๆ ซึ่งมันก็จริง แต่ก็ไม่ผิดอะไรมาก เพราะอย่างจาพนมก็เคยใช้จุดนี้ขายมาได้ แต่ถ้าเป็นไปได้บทที่ดีก็ช่วยส่งเสริมเรื่องราวให้ดีขึ้นได้อีกเป็นของแถม แต่กับเรื่องนี้ต้องมองว่ามันเป็นหนังตลกเป็นหลัก อย่าพึ่งไปมองว่านี่เป็นหนังแอ็กชั่นขายชื่อการกลับมาของ ฌอง-โคลด แวน แดมม์ หรา แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม ซึ่งจริงๆใ นฐานะแฟนหนังรุ่นเก่าก็ดีใจเขากลับมารับทสมวัย เหมือนได้เห็นซิสเวสเตอร์สตอลโลนหรืออาร์โนลด์กลับมาเล่นหนังในช่วงสูงวัยเช่นกัน เมื่อไม่ใช่หนังแอ็กชั่นเต็มตัวก็ไม่มีอะไรต้องน่าห่วง บทหนังทั้งเรื่องบอกเลยว่าไม่ได้คิดจะวางให้สมเหตุผลหรือซีเรียสจริงจัง แต่วางไว้เพื่อผลักดันให้เกิดมุกตลกล้วนๆ เท่านั้น ซึ่งมันก็ได้ผลตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่เชื่อเลยว่าต้องมีหลุดฮากันแน่ๆ กับภารกิจชิงตัวประกันแบบเทกระจาดที่ขำพรวดได้ทันที

ถึงเป็นหนังตลกที่ไม่ได้เน้นสมจริงหรือมีสาระ แต่โครงเรื่องจริงๆ ก็ค่อนข้างซับซ้อนใช้ได้เลย พระเอกคืออดีตสายลับที่หายตัวไปเป็นทหารรับจ้างในตำนาน แล้วก็ทิ้งลูกไว้ 25 ปี โดยแอบมีสัญญาลับกับรัฐบาลว่าลูกเขาต้องได้เงินเดือนจากรัฐฟรี พร้อมการคุ้มครองทางกฎหมายขั้นสูงสุด ซึ่งตัวหนังก็ขยักเรื่องราวที่มาตรงนี้ไว้เล่าภายหลังว่าทำไมได้ฮาใช้ได้ แถมตัวรัฐบาลฝรั่งเศสเองก็อยากปิดบัญชีสายลับในตำนานนี้สักที เหตุเพราะรู้ความลับเยอะ แล้วการโผล่มาอีกครั้งก็เพราะเหตุบ้าบอเมื่อลูกชายของเขาไม่ได้รับเงินจากรัฐ แถมยังถูกป้ายสีว่าเป็นพ่อค้าอาวุธสงคราม จนเป็นชนวนเหตุเขาต้องกลับมาช่วยลูกชายให้พ้นผิด พร้อมต้องสืบหาว่าใครที่เป็นตัวการในเรื่องนี้

ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ในบทตลกก็เล่นเหมือนที่ดาราแอ็กชั่นเก๋าๆ คนอื่นพลิกบทมาเล่นในอดีต ด้วยความที่เขาไม่ใช่สายตลกจริง บทจึงให้ปั้นเขาให้เป็นตลกร้ายสไตล์สายลับหน้าตาย เฉยๆ กับทุกอย่างในสถานการณ์เลวร้ายในเรื่อง จนคนดูต้องขำขึ้นมาเอง เรียกว่าเจออะไรพี่แกก็นิ่งๆ ใจเย็น แก้ไปตามหน้างานที่เจอแบบชิลๆ มีการแต่งตัวแปลงโฉมให้เข้ากับแผนตลกๆ จนถึงขั้นแต่งหญิงเลยก็มี แม้อาจจะดูฝืดๆ ไปบ้าง แต่เชื่อเลยว่าคนดูก็ต้องมีหลุดขำกับความกวนในมาดนิ่งๆ คำพูดทื่อๆ เข้มๆ หน้าตายแบบสายลับ อย่างคืนนี้เราต้องพักในท่อน้ำ รับรองว่าปลอดภัยงี้ หรือพวกมุกเรื่องเล่าในตำนานเว่อร์ๆ ก็ชวนให้ขำได้เหมือนกัน อย่างกัดกุญแจมือขาดจนเสียฟันกรามไปสามซี่งี้ คนอะไรโคตรโอเว่อร์มากๆ 555

โดยในเรื่องก็มีกลุ่มตัวละครสมทบมาเป็นแก๊งเพื่อนของลูกชายมาร่วมด้วยช่วยแต่งเติมความฮากันนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็มีตัวเด่นที่ฮาสุดเป็นนักการเมืองตัวต้นเหตุของเรื่องในบทเอ๋อๆ ดูโง่ๆ เหมือนไม่มีตัวตนในทีม แต่กลับเรียกเสียงฮากว่าใคร รวมถึงพวกฝ่ายรัฐบาลที่ขยันแจกมุกถึงเรื่องเล่ากับความแค้นในตำนานกับตัวพระเอกที่ฟังแล้วดูบ้าบอดีมากๆ อย่างเมียหัวหน้าหน่วยล่าพระเอกถูกพระเอกอึ๊บรัวๆ หลายครั้งให้สมจริงเพราะโดนศัตรูสงสัยว่าปลอมตัวมาเป็นคู่รักงี้ เลยแค้นต้องตามล่าพระเอกที่ปรากฎตัวออกมาให้ได้

ส่วนตัวร้ายในเรื่องที่ออกมามีก็เหมือนไม่มีเพราะบทออกมาน้อย แต่ก็เป็นตัวเรียกเสียงฮาได้จากบุคลิกชอบพูดโวยวายใหญ่โตโอเวอร์แอ็กติ้ง เพราะเป็นลูกของสุลต่านใหญ่ที่มาค้าอาวุธในฝรั่งเศสผ่านการสวมตัวตนเป็นลูกของพระเอกที่มีอภิสิทธิ์คุ้มครองลับๆ จากรัฐบาล ซึ่งเปิดมาในตอนต้นเรื่องก็จะเห็นเลย

ถึงเรื่องจะเดินไปในแนวตลกไร้สาระฮาๆ ไปเรื่อย แต่ก็มีแก่นสาระสำคัญอยู่ที่การกลับมาเจอลูกชายของพระเอก เรียกว่าเป็นบทดราม่าที่วางไว้ใช้ได้เลย เพราะตัวเรื่องเริ่มจากที่พ่อบุญธรรมของลูกชายพระเอกถูกเปิดเผยว่าเป็นสายลับก่อนตายในเวลาต่อ กลายเป็นลูกมองว่านี่คือพ่อแท้ๆ ที่อยู่กับเขามา 25 ปี ไม่ใช่พ่อคนที่ทิ้งเขาไปคนนั้น ซึ่งตัวพระเอกเองก็ไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองคือพ่อแท้ๆ เพราะกลัวลูกไม่ยอมรับ ในขณะที่คนอื่นรอบตัวรู้หมด จนกลายเป็นดราม่าประกอบเรื่องที่เผยให้เห็นความอ่อนไหวของพระเอก ทหารรับจ้างในตำนานที่มีแต่เรื่องเล่าเว่อร์ๆ ว่าแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี (มีแอบแซวแรมโบ้ด้วย) กลับมีมุมที่เขาอ่อนแอขี้แพ้ทันทีเมื่อต้องเล่นบทพ่อในเวลานี้ ซึ่งแม้ ฌอง-โคลด แวน แดมม์ จะดูแก่ลงไปมาก แต่กลับรู้สึกว่านี่เป็นบทดราม่าที่เหมาะสมลงตัวกับเขาดีเลยทีเดียวครับ

ตัวเรื่องแอบสอดแทรกประเด็นการเลี้ยงลูกด้วยเงินอย่างในโลกปัจจุบันจนเด็กเสียคนมาใส่ไว้ในหนังแนวสายลับ โดยตัวลูกชายเองก็ดันไม่เอาไหน ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แถมหน้าตาก็ไม่เหมือนพ่อเลยสักนิด (แม่เป็นสายลับตะวันออกกลาง แต่ในเรื่องตายไปแล้ว) ซึ่งความไม่เอาไหนนั้นก็มาจากการที่ลูกมีเงินใช้ทุกเดือนฟรีๆ แถมมีพ่อบุญธรรมปกป้องดูแลความปลอดภัยแบบทูนหัวไม่เคยเจอเรื่องเดือดร้อนอะไรมาก่อน โดยที่พ่ออ้างว่าต้องปิดบังตัวตนเลยมาเลี้ยงดูลูกไม่ได้ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ แต่เป็นความไม่พร้อมในฐานะพ่อคน ซึ่งประเด็นนี้ก็เข้ากับเรื่องได้เป็นอย่างดี แต่ตัวเรื่องส่วนนี้ไม่ได้ถึงกับเป็นดราม่าฟูมฟายอะไรนัก มีมาสั้นๆ เป็นระยะๆ แค่พอเป็นพิธี ก่อนจะเคลียร์ปมในตอนท้ายเรื่องหักมุมนิดๆ โดยยังแอบเซอร์ไพรส์เอาประเด็นนี้กลับมาใช้เป็นแรงจูงใจสำคัญของตัวร้ายในเรื่องเพิ่มได้อีกด้วย

ผมยาวๆ นั่นคือพระเอกที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิงในฉากบู๊

สำหรับฉากแอ็กชั่นถ้าใครจำสไตล์บู๊ดิบๆ ฉายาจอมหักกระดูกแบบที่ตอนหนุ่มๆ เขามักเล่นแบบนั้น ก็ต้องบอกว่ายังมีอยู่ ในเรื่องก็หักไปหลายเป๊าะเลย หรืออย่างท่าตบบ้องหูก็ยังใส่ไว้เหมือนเดิม แต่อาจจะทุนน้อยหรือเพราะเป็นหนังตลกก็ไม่รู้ ตัวร้ายที่สู้กับพระเอกดันเป็นนักฆ่าหน้าเดิมๆ สองคนที่วนเวียนมาให้พระเอกซ้อมเล่นแทบตาย แต่พออีกฉากมาหายดีให้มาซ้อมต่อซะงั้น ซึ่งไม่ต้องลุ้นว่าพระเอกจะโดนอะไรหนัก เพราะแทบไม่มี ถลุงเขาอย่างเดียว แต่ฉากแอ็กชั่นเรื่องนี้ก็ไม่ได้มากมายอะไร เรียกว่าแค่พอประกอบเรื่องให้ ฌอง-โคลด แวน แดมม์ ได้ขายของเก่าให้แฟนๆ ได้ระลึกถึงเท่านั้นครับ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะเป็นจุดด้อยไปด้วยถ้าผู้ชมไม่เคยดูหรือรู้จักเขามาก่อน แอ็กชั่นในเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่หรือดุเดือดสักเท่าไหร่ เทียบกับพวกหนังบู๊รุ่นหลังๆ ไม่ได้เลย แต่ก็ต้องอย่าลืมว่านี่เป็นหนังตลกด้วยเช่นกันครับ

The Last Mercenary ตัวหนังปิดจบเรื่องแบบกะทำต่อได้อีกแน่ถ้ากระแสดี โดยมีเอนด์เครดิตเล่าเรื่องประกอบเพิ่มนิดหน่อย จนถึงตอนท้ายสุดที่ข้ามช่วงเวลาไปเปิดตัวหลานของพระเอก ซึ่งก็น่าจะเป็นการทิ้งเรื่องไว้เพื่อสร้างภาคต่อในอนาคตได้สบายๆ ถือว่าผ่านเลยกับงานแนวตลกของอดีตดารานักบู๊คนนี้

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!