playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Law According to Lidia Poet ย้อนยุคเรื่องจริงทนายสาวทวงสิทธิสตรี

The Law According to Lidia Poet 

Summary

ซีรีส์อิตาลีย้อนยุคแนวสืบสวนผ่านทนายสาวที่แฝงการต่อสู้สิทธิสตรีจากเค้าโครงเรื่องจริง งานโปรดักชั่นสวยมาก นางเอกสวยเด่นมีเสน่ห์มีฉากเปลืองตัวเยอะ ตัวเรื่องมีความหวาน รัก ตลก สืบสวน ผสมกันค่อนข้างกลมกล่อมกำลังดี โดยเดินเรื่องจบในตอนสั้น แต่ตัวคดีจะจบง่ายทุกตอนไม่มีอะไรให้ลุ้น ทำให้เรื่องดูเบา และขาดแง่มุมการกฎหมายลึกๆ อย่างที่ควรจะเป็นตามชื่อเรื่อง

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง
  • เรื่องราวของการต่อสู้สิทธิสตรี
  • นางเอกสวยมีเสน่ห์
  • มีฉาก SEX เปลือยเยอะ
  • คดีสั้นจบในตอน

Cons

  • คดีในเรื่องจบแบบง่ายๆ ทุกตอน

 

The Law According to Lidia Poet  กฎหมายบองลิเดีย ซีรีส์ Netflix อิตาลี 6 ตอน สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ Lidia Poet หญิงสาวที่จบเนติมาเป็นทนาย แต่กลับโดนสภาทนายถอดใบอนุญาติด้วยเหตุผล ผู้หญิงไม่เหมาะกับการมาทำหน้าที่นี้ เธอจึงต้องแอบทำงานลับๆ ภายใต้สำนักงานทนายของพี่ชายบังหน้า

The Law According to Lidia Poet (2023) on IMDb

รีวิว The Law According to Lidia Poet 

 

ซีรีส์อิตาลีย้อนยุคแนวทนายที่แฝงการต่อสู้สิทธิสตรีจากเค้าโครงเรื่องจริง ที่มีความหวาน รัก ตลก สืบสวน ผสมกันค่อนข้างกลมกล่อมกำลังดี โดยเดินเรื่องจบในตอน 1 คดีสั้นๆ มีจุดเชื่อมโยงแต่ละตอนเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของลิเดียกับพี่ชาย คนรัก และความพยายามยื่นอุธรณ์การถอนใบอนุญาตทนายของเธอ ซึ่งจุดนี้คือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของจริง ส่วนคดีในแต่ละตอนคือเรื่องราวที่แต่งขึ้นมาเสริมให้สนุกขึ้น โดยคดีทั้ง 6 ตอนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องจริงในประวัติศาสตร์นั้นเลย ส่วนหนึ่งก็เพราะเนื้อหาเรื่องจริงตรงนั้นค่อนข้างน้อย เป็นแค่แบ็คกราวด์เสริมตัวละครลิเดียให้มีชื่อเสียงขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากในยุคนั้นที่ผู้หญิงแม้แต่การขี่จักรยานก็ยังถือว่าเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสม ในเรื่องเราจะเห็นลิเดียทำสิ่งที่เป็นปกติในปัจจุบัน แต่กลับกลายเป็นของแปลกหรือสิ่งต้องห้ามมากมายในยุคนั้น ผู้หญิงมีหน้าที่แค่หาคู่มีครอบครัวมีลูกแค่นั้นพอ (ในเรื่องลิเดียได้เรียนกฎหมายเพราะหนีออกจากบ้านหลังพ่อที่พยายามจับเธอแต่งงาน)

คดีในเรื่องทั้ง 6 ตอนทั้งหมดจะเป็นคดีฆาตกรรม และจำเลยที่ถูกกล่าวหามักจะเป็นคนชนชั้นล่างในสังคม โดยลิเดียจะเข้าไปช่วยโดยอาศัยตำแหน่งผู้ช่วยทนายของพี่ชาย ซึ่งจริงๆ เธอก็ยังไม่มีสิทธินี้ด้วยเพราะถูกถอนใบอนุญาต และไม่มีสิทธิเข้าไปในศาล การทำงานในเรื่องเลยเป็นแนวสืบสวนหาข้อมูลของลิเดีย ซึ่งเอาจริงๆ แทบจะไม่มีเรื่องข้อกฎหมายมาเกี่ยวเลย ลิเดียเป็นเหมือนนักสืบอัจฉริยะที่ปะติดปะต่อเรื่องราวในคดีหาคนร้ายได้เก่งมาก แถมยังวางแผนจับคนร้ายตัวจริงร่วมกับพี่ชาย บางตอนก็ลงมือจับเองเลยด้วย ฉากในศาลของเรื่องก็มีน้อยมาก จนแทบจะเรียกว่าเป็นซีรีส์กฎหมายตามชื่อเรื่องก็คงไม่ได้ เรียกว่าเป็นซีรีส์สืบสวนของลิเดียน่าจะตรงกว่า 

สิ่งที่โดดเด่นของเรื่องจริงๆ คืองานโปรดักชั่นมากกว่า เรียกว่าสัมผัสได้ตั้งแต่เปิดเรื่องตอนแรกๆ เลยว่านี่เป็นซีรีส์ที่วางเซ็ตติ้งย้อนยุคแล้วทำได้สวยสมจริงมาก ทั้งเครื่องแต่งกายย้อนยุคสวยๆ ที่ลิเดียใส่ทุกตอน รายละเอียดบ้านเมือง ผู้คน องค์ประกอบแสงสีละมุนแบบเก่าๆ เสียงรอบทิศทางหลายฉากก็ทำได้ดี ทำให้การรับชมเรื่องนี้ดูเพลินตามาก

ตัวนักแสดงเรื่องนี้ Matilda De Angelis สวยมีเสน่ห์เด่นชัดมาก เธอก็เล่นในบทบาทสาวหัวรั้นได้น่ารักหมาะกับบทบาท แถมยังเล่นฉาก SEX ได้เปลืองตัวมาก เพราะแค่ฉากต้นๆ ในตอนเปิดตัวก็เปลือยนู๊ด SEX ซีนกันแบบจะๆ และก็ยังใส่ฉากแบบนี้ไว้หลายครั้งด้วย แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นหนังอีโรติกเน้นสร้างอารมณ์อะไรแบบนั้น เป็นฉากแนวผู้หญิงหัวสมัยใหม่กับความสัมพันธ์แบบเฟรนด์วิทเบเนฟิท (Friend with benefits) เพื่อนนอน ที่ในเรื่องใส่ไว้เป็นปมความรักแทรกเพิ่ม

หลายอย่างในเรื่องถือว่ากลมกล่อม ทำให้เรื่องดูสนุกเบาๆ เพลินๆ ได้ไม่ยาก แต่ด้วยความเบาๆ ของเรื่องก็ทำให้บทเฉลยคนร้ายในทุกตอนดูง่ายมาก แบบแทบจะไม่มีอะไรให้ลุ้นเลยสักนิด ทั้งที่ตัวคดีและระหว่างสืบสวนก็ทำได้ดีพอสมควร (บางตอนใช้วิทยาศาสตร์มาช่วยไขคดีด้วย)

ตัวเรื่องจบ 6 ตอน แต่ไม่ใช่ลิมิเต็ดซีรีส์ เลยจบแบบค้างเผื่อไว้นิดๆ เหมือนมีต่อ แต่ก็ดูได้เลยไม่มีปัญหาคาใจอะไรครับ

 

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!