รีวิว The Post-Truth World หนังสืบสวนสะท้อนสังคมของสื่อหิวแสง (ไม่สปอยล์)

The Post-Truth World โลกหลังความจริง หนังสืบสวนคดีฆาตกรรมจากไต้หวัน ที่เป็นหนังฉายโรงไต้หวันปลายปี 2022 ก่อนที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อมาฉายทั่วโลก เมื่อตกเป็นตัวประกันของอาชญากรที่แหกคุกออกมา หลิวลี่หมินนักข่าวผู้ทำรายการสืบสวนผ่านโลกออนไลน์จึงหวังใช้เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างชื่อ โดยพยายามค้นหาความจริงในอดีตที่ตัวอาชญากรเด็กหนุ่มตกเป็นคนร้ายฆ่าแฟนสาวในสนามกีฬาเบสบอลอย่างโหดร้าย

รีวิว The Post-Truth World

 

หนังสืบสวนที่ได้พระเอกจากซีรีส์ The Victims’ Game ของเน็ตฟลิกซ์มาเล่นเป็นนักข่าวตกอับที่พยายามหาทางกู้ชื่อเสียงกลับด้วยการเพิ่มยอดผู้ติดตาม ซึ่งก็คืออาการหิวแสง โหยหายอดเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพไม่ให้ตกงาน เรื่องราวจึงเป็นแนวสื่อหิวแสงที่พยายามทำทุกอย่างโดยไม่แคร์ความถูกต้องเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและคลิปเพิ่มยอด สะท้อนสังคมปัจจุบันที่โซเชียลกับยอดผู้ติดตามมีบทบาทด้านความน่าเชื่อถือ ส่งผลชี้นำกระแสสังคมให้เป็นไปได้ตามต้องการ ซึ่งตัวเรื่องก็พยายามสอดแทรกผลกระทบจากการกระทำของตัวเอกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง 

แต่ทั้งนี้ตัวเรื่องจริงๆ ก็ยังเป็นแนวสืบสวนหาความจริงอยู่ด้วย ซึ่งจุดนี้ตัวเรื่องทำได้ค่อนข้างดีเมื่อคดีที่เกิดขึ้นเป็นปริศนาโยงใยกับหลายๆ อย่าง รวมถึงตัวภรรยาของตัวเอกที่เสียไปแล้วและเป็นนักข่าวในสังกัดเดียวกัน และลากไปยังผู้มีอิทธิพลหลายวงการมาเป็นผู้ต้องสงสัยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีลูกสาวของตัวเอกคอยช่วยพ่อสนับสนุนการทำงานสืบลับๆ ครั้งนี้ด้วย 

 

ตัวเรื่องยังนำเสนอมุมมองอีกด้านของอาชญากรผู้ที่ตกเป็นแพะในคดีนี้ จากกระแสสังคมโยนให้เขาเป็นฆาตกรจากการสืบสวนลวกๆ ของตำรวจ ซึ่งก็เป็นเรื่องราวดราม่าปูมชีวิตของเขากับแฟนสาวแฟลชแบ็คกลับมาเรื่อยๆ ระหว่างที่หลบหนีและสืบคดีนี้ไปพร้อมกับหลิวลี่หมิน ที่ต่างคนต่างใช้ประโยชน์ของกันและกัน แต่ก็ไม่ได้ไว้ใจกันซะทีเดียว 

ตัวหนังดำเนินมาได้ทั้งเรื่องแบบค่อนข้างน่าติดตาม คาดเดาไม่ได้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงกันแน่ แล้วตามสูตรหนังไต้หวันก็มักจะมีบทเฉลยดราม่าหักมุมที่รองรับเหตุผลได้ดีเสมอ แต่กับเรื่องนี้กลายเป็นว่าบทเฉลยเรื่องราวทั้งหมดกลับดูง่ายไปจนเหมือนหาทางลงให้เรื่องหักมุมแบบไม่สมเหตุผล โดยมีการกั๊กเรื่องราวส่วนสุดท้ายไว้ในช่วงเอนด์เครดิตเพิ่มอีก แต่ก็เหมือนไปเพิ่มให้ตัวเรื่องยิ่งดูแปลกประหลาดไม่สมเหตุผล แล้วก็รู้สึกว่างั้นๆ ไม่รู้จะกั๊กไว้ในตอนจบอีกรอบทำไมด้วย แม้จะเข้าใจที่เรื่องจะสื่อถึงความจริงที่สื่อมักรายงานความจริงไม่หมดก็ตามที ซึ่งนี่เป็นจุดด้อยที่ทำให้ทั้งเรื่องดูธรรมดาไปเลย 

 

ก็เรียกว่าเป็นหนังไต้หวันที่ค่อนข้างผิดหวัง เหมือนสำนวนที่ว่า ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา จนข้ามผ่านไปก็ได้ เพราะคุณต้องผิดหวังแน่ๆ ในตอนจบ (แต่จะลองดูก็ได้ถ้าไม่สนใจจุดนี้ครับ)

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่