playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Power แนววัยรุ่นพลังพิเศษที่ไม่ใช่แอ็กชั่น แต่เป็นการปฏิวัติสะเทือนโลก

The Power

Summary

ซีรีส์แนวพลังพิเศษที่ไม่ใช่แนวแอ็กชั่นต่อสู้กันด้วยพลังพิเศษ แต่เป็นแนวผลกระทบทั้งดีและร้าย หายนะ การปฏิวัติ จุดจบและจุดกำเนิดของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติครั้งใหม่ ที่สร้างนิวนอร์มัล เหมือนการระบาดของโรคโควิด-19 โดยใช้สเกลเรื่องใหญ่ เน้นด้านการเมืองการปกครองหลายระดับกับตัวละครมากมายแตกต่างกันทั่วโลก โดยมีเรื่องราวแยกเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป ด้วยความที่ตัวละครเยอะการเล่าเรื่องจึงตัดสลับไปมาตลอดเวลาจนผู้ชมอาจจะสับสนงุนงงกับทิศทางของเรื่อง แต่ซีรีส์ก็ทำได้สนุกน่าติดตามกับผลกระทบของพลังที่เกิดขึ้นในเรื่องแบบต่างๆ เพียงแต่สไตล์การเล่าเรื่องอาจจะไม่ถึงกับรวดเร็วทันใจ แต่ก็เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อเรื่องเป็นเอกลักษณ์ฉีกแตกต่างออกไปจากทุกเรื่องที่เคยมีมา ถ้าใครชอบความสดใหม่ของเรื่องราว นี่คือซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาดเลยครับ (แต่ถ้าคุณไม่คลิ๊กกับเรื่องราวแนวนี้ก็อาจจะไม่ชอบไปเลยได้เหมือนกัน)

 

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • แนววัยรุ่นพลังพิเศษที่เล่าเรื่องผลกระทบกับโลก
  • สร้างจากนิยายขายดีกับได้รางวัล
  • มีฉากโหดรุนแรง
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • 2 ตอนแรกปูเรื่องน่าเบื่อ ตัวละครเริ่มต้นเยอะจนงง
  • ไม่ใช่แนวแอ็กชั่นต่อสู้ด้วยพลังพิเศษ
  • เล่าเรื่องแบบตัดสลับหลายตัวละครเยอะมาก

The Power พลังปฏิวัติโลก ซีรีส์ amazon prime 9 ตอนจบซีซั่น 1 มีพากย์ไทย สร้างจากนิยายเบสเซลเลอร์นิวยอร์คและได้รับรางวัล Women’s Prize for Fiction แต่งโดย นาโอมิ อัลเดอร์แมน โลกของเรื่องนี้คือโลกปัจจุบันที่เกิดปรากฎการณ์ผิดธรรมชาติขึ้นพร้อมกันทั่วโลก จู่ๆ เหล่าเด็กสาววัยรุ่นจำนวนมากก็มีพลังไฟฟ้า จนกลายเป็นการพลิกผันที่ทำให้เกิดภัยอันตรายหายนะและพลังอำนาจการปกครองในโลก

The Power (2023) on IMDb

 

รีวิวซีรีส์ The Power (ไม่สปอยล์)

 

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวจากหลายตัวละครมากมายทั่วโลกพร้อมกัน ตั้งแต่ลอนดอนไปซีแอตเทิล ไนจีเรียไปยุโรปตะวันออกกลาง แต่นี่ไม่ใช่แนวซูเปอร์ฮีโร่บู๊แอ็กชั่นอย่างที่หลายๆ คนอาจจะหวังไว้ แต่เป็นแนวเรื่องราวผลกระทบทั้งดีและร้าย หายนะ การปฏิวัติ จุดจบและจุดกำเนิดของประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติ เปรียบเทียบก็คล้ายๆ กับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่พลิกโฉมโลกทั้งใบ สร้างผลกระทบให้เกิดกับคนทั่วโลก และก็ยังสร้างการใช้ชีวิตใหม่นิวนอร์มัลตั้งแต่นั้นมาด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็เอาพลังไฟฟ้านี้มาใช้เล่าเรื่องราวที่แตกต่างกันทั่วโลกในแบบที่แตกต่างกันไปตามประเทศ พื้นเพชีวิต ฐานะ ของตัวละครทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีเรื่องราวการชิงอำนาจทางการเมืองของอเมริกามาเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง

ตัวเรื่องเรียกพลังไฟฟ้านี้ว่า EOD และมีคำอธิบายของพลังไฟฟ้าที่เกิดมาในแบบที่เทียบเคียงกับธรรมชาติได้ และก็ยังแบ่งระดับของพลังไฟฟ้ากับความสามารถต่อยอดจากไฟฟ้าให้แตกต่างกัน โดยเด็กสาวตัวเอกแต่ละคนจะมีพลังอำนาจที่แตกต่างกัน (แต่จะมีเรื่องไฟฟ้าช็อตคนเหมือนกัน) โดยบางคนก็มีระดับความสามารถที่ถึงขั้นควบคุมฟ้าฝนได้ โดยเรื่องราวของแต่ละคนก็จะมีปมที่แตกต่างกันไปอย่าง เด็กสาวที่เกิดมาในฐานะลูกลับของเจ้าพ่อมาเฟีย เด็กสาวที่มีเสียงในหัวบอกให้เธอทำตามเหมือนเป็นศาสดาจากพระเจ้า ซึ่งทำให้เรื่องราวแต่ละคนมีความต่างกันมาก แต่ทั้งหมดก็จะถูกเล่าไปพร้อมๆ กับปรากฎการณ์กระแสการปฏิวัติจากผู้หญิงที่รุนแรงขึ้นทั่วโลก ซึ่งตัวละครแต่ละตัวจะมีเรื่องราวเป็นเอกเทศของตัวเอง ก่อนที่ตอนหลังตัวละครทั้งหมดจะเข้ามาเกี่ยวข้องกันในตอนจบซีซั่นแรก

นอกจากตัวละครหญิงแล้ว ในเรื่องยังมีเรื่องราวของตัวละครชายที่เป็นนักข่าว CNN วัยรุ่นผิวดำที่ทำหน้าที่เดินทางไปพบตัวละครหลักหลายๆ คนในเรี่องนี้ เขามีบทบาทในฐานะผู้ชายที่สนับสนุนกระแสการปฏิวัติของเพศหญิง คอยถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองของผู้หญิงที่มีพลังไฟฟ้านี้ แต่ก็ทำให้ได้เห็นภัยอันตรายร้ายแรงจากพลังอำนาจนี้เช่นกัน

ตัวซีรีส์มีความโหดรุนแรงสูง มีฉากล่วงละเมิดทางเพศ ฉากฆ่าคนด้วยไฟฟ้า ภาพบาดแผลบนร่างกายแบบต่างๆ คนตายจากสงครามและเหตุการณ์หายนะใหญ่ แบบมีเลือดท่วมจอโดยไม่เซ็นเซอร์อะไรทั้งนั้น เป็นผลงานตามสไตล์ Amazon prime เลยก็ว่าได้

แต่ตัวเรื่องจะมีปัญหาใหญ่ก็คือ 2 ตอนแรกเป็นการเปิดตัวละครมากมายหลายตัวพร้อมๆ กันที่ชวนงง และเป็นการปูพื้นตัวละครเริ่มเรื่องยาว 2 ตอนโดยไม่ได้มีฉากใช้ไฟฟ้าอะไรให้ดูมาก ทำให้ตัวเรื่องออกมาน่าผิดหวัง ดูไม่สนุก เน้นแต่เล่าเรื่องใช้ชีวิตทั่วไปของเด็กสาวที่พึ่งเริ่มมีพลังและไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ตอน 2 ท้ายเรื่องจะเปิดฉากระเบิดตูมพลิกเรื่องให้เป็นสเกลใหญ่โตในทันที ทำให้เรื่องกลับมาสนุกแบบน่าตื่นเต้นติดตามในตอน 3 และจากนั้นไปความน่าติดตามจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจจะไม่ถึงกับรวดเร็วทันใจ แต่ก็รับรองว่านี่เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อเรื่องเป็นเอกลักษณ์ฉีกแตกต่างออกไปจากทุกเรื่องที่เคยมีมา ถ้าใครชอบความสดใหม่ของเรื่องราว นี่คือซีรีส์ที่คุณไม่ควรพลาดเลยครับ (แต่ถ้าคุณไม่คลิ๊กกับเรื่องราวแนวนี้ก็อาจจะไม่ชอบไปเลยได้เหมือนกัน)

 

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!