playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Secret Diary of an Exchange Student หนังรักสานฝันท่องเที่ยวในต่างแดนจากบราซิล

The Secret Diary of an Exchange Student

สรุป

หนังรักตลกเบาสมองจนเนื้อเรื่องเบาๆ กลวงๆ ซะส่วนใหญ่ ยกเว้นช่วงท้ายที่มีปมดราม่าปัญหาสังคมเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกากับคนต่างแดนที่ทำออกมาได้น่าสนใจและมีหักมุมจนทำให้ตัวเรื่องดูดีขึ้น โดยรวมก็พอดูได้พลินๆ โดยเฉพาะสายท่องเที่ยวน่าจะช่วยเติมฝันสร้างแรงบันดาลใจได้เหมือนกัน

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังแนวสานฝันท่องเที่ยวในต่างแดน
  • ปัญหาวีซ่ากับคนต่างด้าวที่อยากกลายมาเป็นพลเมืองสหรัฐ
  • แทรกวัฒนธรรมบราซิลไว้เยอะ
  • จิกกัดทุนนิยมอเมริกาจากมุมมองคนบราซิล

Cons

  • เรื่องราวส่วนใหญ่เบาจนดูกลวงๆ มาก
  • ปมต่างๆ ในเรื่องไม่ได้เคลียร์โดยสมเหตุผลสักเท่าไหร่
  • นางเอกไม่ได้สวยน่ารักอะไรมาก
  • พระเอกก็ไม่ได้หล่อดูดีมีเสน่ห์มากพอ

 

The Secret Diary of an Exchange Student ไดอารี่ลับนักเรียนแลกเปลี่ยน หนัง Netflix จากบราซิลเรื่องราวการไล่ตามความฝันไปต่างแดนของสองสาวที่เลือกการทำตามฝันด้วยการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา

 The Secret Diary of an Exchange Student (2021) on IMDb

ตัวอย่าง The Secret Diary of an Exchange Student ไดอารี่ลับนักเรียนแลกเปลี่ยน

หนังรักตลกจากบราซิลเรื่องราว 2 สาวคู่หูที่พยายามตามฝันท่องไปยังต่างแดน ในที่นี้ก็คือการได้ไปอเมริกา นางพยายามหาทางไปสารพัดแต่วีซ่าก็ไม่ผ่าน เพราะความไม่พร้อมในเรื่องการเงินและอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เป็นใจ จนได้ไปเห็นโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นพี่เลี้ยงเด็กหรือสาวรับใช้ของครอบครัวอเมริกัน ที่ฝ่ายนั้นจะออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้พร้อมทั้งส่งเรียนสายที่ต้องการสองปี ซึ่งก็กลายมาเป็นเรื่องราวการผจญภัยในต่างแดนเล็กๆ พร้อมกับพบรักกับหนุ่มในอเมริกา ที่สุดท้ายต้องพิสูจน์ความรักนี้ว่าจะได้ไปต่อแบบไหนยังไง

ตัวหนังให้บาบาร่านางเอกหลักของเรื่องเป็นสาวที่ค่อนข้างเก่ง พูดอังกฤษได้ มีการศึกษาอะไรหลายๆ อย่างมาดีพอ แต่ปัญหาคือการต้องมาเลี้ยงเด็กในบ้านที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวค่อนข้างเฮี๊ยบ ซึ่งตัวนางเอกบาบาร่าเองก็ดันมาเจอหนุ่มอเมริกันที่หลงไหลในบราซิลและพบรักกับเธอที่นั่น ก่อนจะมาเจอกันในอเมริกาอีกครั้ง พร้อมกับหนุ่มอีกคนที่วีซ่ากำลังจะหมดและต้องกลับประเทศ ทางเดียวคือต้องเข้ามหาลัยให้ได้ และหนุ่มอีกคนนี้ก็ดันมาปิ๊งเธอเช่นกัน เรื่องราวของบาบาร่าจะออกแนวรักสามเส้าพร้อมเรื่องป่วนๆ จากการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งตัวนางเอกเองอาจจะไม่สวยน่ารัก แต่ก็ถือว่าดูมีเสน่ห์พอตัว เรื่องราวของเธอดูเพลินๆ ในแนวหนังรักตลกใสๆ เรื่องดูง่ายๆ ไปหมดจนอาจจะดูเบาๆ กลวงๆ มากไปเหมือนกัน

ส่วนอีกคนเป็นนางรองเพื่อนของนางเอกที่ชื่อไทล่า เธอคนนี้ทั้งความสามารถและนิสัยต่างกับบาบาร่าทั้งหมด พูดอังกฤษก็ไม่ได้เลย นิสัยหมกหมุ่นโทษทุกอย่างไปที่อเมริกาจนออกแนวต๊องๆ ไปซะทุกอย่าง ซึ่งตัวไทล่าเองได้มาอยู่อีกบ้านที่สูญเสียลูกสาวไปในป่ามากว่า 5 ปีแล้ว ทั้งยังเป็นนักล่าสัตว์ตัวยงที่เธอเกลียดมากด้วย ซึ่งเรื่องราวของไทล่าจะเป็นด้านตรงข้ามบาบาร่า ออกแนวต๊องๆ จากปัญหาของตัวเธอเองที่ไม่พร้อม แถมยังแอนตี้อเมริกาแต่ต้องมาอยู่ที่นี่ เรื่องราวเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวตนจากพวกแอนตี้มาเป็นเสพติดทุนนิยมของอเมริกา ซึ่งแต่ละอย่างที่ไทล่าพบเจอคือมุกตลกที่เสียดสีทุนนิยมทางนี้ทั้งนั้น

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นหนังบราซิลจึงไม่ได้พูดอังกฤษมาก เป็นภาษาโปรตุเกสแทน ไม่มีเสียงไทยด้วย อาจจะไม่คุ้นกับการรับชมสักเท่าไหร่ และตัวเรื่องก็เน้นความเป็นบราซิลมากๆ จากวัฒนธรรมหลายๆ อย่างที่พอไปอยู่เมืองนอกแล้วก็คิดถึงสิ่งที่ห่างหายไป ตัวหนังก็เหมือนเอาเรื่องคนที่ไปต่างแดนมาบอกเล่าในอีกมุมหนึ่งแบบเหงาๆ ด้วยเช่นกัน

เนื้อเรื่อง 50% ของเรื่องคือแนวใสๆ ที่นางเอกได้ไปท่องเที่ยวในอเมริกายังที่ต่างๆ ตามความฝัน อย่างไทม์แสคว์ ที่เล่นสกี ซึ่งก็เหมาะกับคนดูที่ชอบแนวท่องเที่ยวหรือช่วยกระตุ้นความฝันได้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่หนังทุนต่ำก็อาจจะไม่ได้มีฉายสวยอะไรมากแบบหนังแนวนี้ อย่าง วอลเตอร์ มิตตี้ ก็ไม่ได้ขนาดนั้น แต่หนังก็มีปมปัญหาทางสังคมที่น่าสนใจแทรกไว้ในเรื่องช่วงหลัง เป็นเรื่องราวของการได้เป็นพลเมืองสหรัฐอย่างถูกต้อง ซึ่งตัวพระเอกของเรื่องเป็นลูกไม่มีพ่อ ไม่สามารถได้วีซ่าเป็นพลเมืองถาวรง่ายๆ ในขณะที่นางเอกเองก็ต้องเลือกความฝันกับความรัก เมื่อพระเอกอีกคนขอแต่งงานแล้วได้กรีนการ์ดมาง่ายๆ แต่เธอกลับรักหนุ่มบราซิลที่มีปัญหาวีซ่าคนนั้นมากกว่า ส่วนไทล่าเองก็ต้องเลือกว่าการที่ครอบครัวที่เธออยู่กำลังตัดสินใจรับเธอมาเป็นบุตรบุญธรรม ทำให้กลายมาเป็นพลเมืองสหรัฐแบบทางลัดได้เลย แต่มันผิดกับตัวตนของเธอที่แอนตี้อเมริกานี่สิ ซึ่งเรื่องราวการได้วีซ่าตรงนี้กลายมาเป็นปมปัญหาสำคัญที่ทุกคนในเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องหมด และก็มีการหักมุมในตอนท้ายที่ทำให้บทสรุปของเรื่องราวดูดีขึ้นมามาก ต่างจากแทบทั้งเรื่องที่เนื้อเรื่องค่อนข้างเบาแบบกลวงๆ มากไป

นี่จึงเป็นหนังรักใสๆ ของบราซิลที่เสมือนเป็นความฝันของคนรุ่นใหม่หลายๆ คนกับการเดินท่องเที่ยวไปยังต่างแดน และถ้าเป็นไปได้ก็จะปักหลักใช้ชีวิตเมืองนอก ตัวหนังดูได้เพลินๆ แบบช่วยสร้างฝันได้กำลังใจพอสมควร เหมาะกับคนชอบแนวท่องเที่ยวโดยเฉพาะครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!