playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Swarm (Netflix) หนังตั๊กแตนกินคนที่เกือบไม่ได้กินคนเพราะมัวแต่ปูเรื่องดราม่า

The Swarm

สรุป

หนังตั๊กแตนกินคนที่ไปกินคนเอาตอนเกือบจบเรื่องแล้ว ในมุมคนดูหนังสัตว์กินคนคงเกือบไม่ผ่านแบบคาบเส้นร่อแร่ (คือยังพอดูได้ถ้าอยากดูฉากตั๊กแตนกินคน) แต่คนทั่วไปที่หวังแค่มาดูหนังสยองขวัญคงหลับก่อนจากการปูเรื่องราวยาวแบบเอื่อยๆ สไตล์ฝรั่งเศส เป็นแนวดราม่าครอบครัวพ่วงธุรกิจฟาร์มแมลงมากกว่าจะเป็นหนังสยองขวัญจริงจังอย่างที่คิด

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
2.33 (3 votes)

Pros

  • ตั๊กแตนกินคนจริงๆ
  • เรื่องราวของธุรกิจฟาร์มแมลงอาหารแห่งอนาคต
  • ปมจิตๆ ของแม่ที่พยายามหาทางรอดให้ครอบครัวโดยไม่เลือกวิธีการ

 

Cons

  • การเล่าเรื่องเอื่อยๆ เนือยๆ สไตล์ฝรั่งเศส (ไม่กินคนสักที)
  • จุดไม่เมคเซนส์เรื่องการหาเลือดไปเลี้ยงตั๊กแตนหลายอย่าง
  • ฉากตั๊กแตนพุ่งจู่โจมกินคนไม่มี เน้นตัดฉากเอาตอนตายแล้ว
  • เป็นหนังทุนต่ำสเกลเล็กตัวละครน้อย

 

The Swarm ตั๊กแตนเลือด (ชื่อฝรั่งเศส La nuée) หนังสยองขวัญแนวสัตว์กินคนจากฝรั่งเศสของ Netflix เรื่องราวของแม่หม้ายลูกสองที่ทำธุรกิจฟาร์มแมลงสยองขวัญ ใช้เลือดเป็นอาหารเพาะพันธ์ตั๊กแตนจนเกิดหายนะขึ้นในครอบครัว

 The Swarm (2020) on IMDb

ตัวอย่าง The Swarm

หนังสยองขวัญแนวสัตว์กินคนที่ไม่ค่อยมีมาให้เห็นในปัจจุบันนัก ยิ่งจากฝรั่งเศสด้วยไม่ค่อยเห็นแนวนี้มาก่อน เพราะหนังฝรั่งเศสมักมีสไตล์การกำกับแบบเนิบๆ เนือยๆ ไปตลอดเรื่องจนจบ และเรื่องนี้ก็ยังหนีไม่พ้นอารมณ์แบบที่ว่านี้เช่นกัน

ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแฟนหนังสัตว์กินคนคนหนึ่งที่ดูมาตั้งแต่อดีต หนังพวกนี้คือต้องพยายามหาไอเดียสัตว์ตัวใหม่ๆ มาขายไม่ให้ซ้ำใคร คือจะมีสัตว์แบบนี้มากินคนก็มีได้แค่เรื่องเดียวหรือสองเรื่อง ยกเว้นพวก ฉลาม จระเข้ งู สัตว์ยอดฮิตพวกนี้มีทำซ้ำมาเรื่อยๆ ซึ่งตั๊กแตนก็เคยมีมาก่อนแล้วในหนัง Locusts ปี 2005 เป็นแนวตั๊กแตนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมหลุดออกมา แต่ดันไม่ได้กินคนแค่ทำลายพืชผลหนักจนรัฐบาลต้องออกมาปราบ ซึ่งก็ผิดหวังที่มันไม่ได้กินคนนี่แหละครับ มาเรื่องนี้ก็เกือบจะคล้ายๆ กันเมื่อหน้าหนังเป็นแนวตั๊กแตนกินคน แต่ในเรื่องจริงๆ แทบจะเป็นหนังแนวแม่โรคจิตพยายามทำฟาร์มตั๊กแตนให้สำเร็จให้ได้ แม้จะต้องใช้เลือดมาเลี้ยงก็ตาม โดยฉากกินคนที่รอดูไปอยู่เอาท้ายสุดของเรื่องใกล้จบสิบนาทีสุดท้าย ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนแนวนี้อยากดูแค่ฉากพวกนี้ก็ข้ามๆ ไปดูได้เลยก็ได้ครับ เพราะทั้งเรื่องมันเน้นวนเวียนกับดราม่าครอบครัวพ่วงปัญหาธุรกิจฟาร์มแมลงซะมากกว่า

ตัวเรื่องปูดราม่าว่านางเอกเป็นแม่หม้ายลูกสอง ที่พยายามหันมาทำธุรกิจฟาร์มตั๊กแตน โปรตีนจากแมลงส่งร้านอาหารราคาแพง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยง ลูกสาวก็มีปัญหาถูกเพื่อนในโรงเรียนล้อเรื่องแม่เลี้ยงตั๊กแตนอย่างหนักจนเครียด อับอายเพื่อน (ถ้าพล็อตนี้ในไทยคงไม่ผ่าน เพราะเพื่อนคงมีแต่มาขอตั๊กแตนไปกินหมด) ลูกชายคนเล็กเล่นฟุตบอลจริงจังก็ขาดเงินทุนสนับสนุนจากแม่ กลายเป็นครอบครัวนี้เหมือนจะเอาตัวไม่รอดเพราะแม่ที่เป็นผู้นำประสบความสำเร็จ แถมยังยึดมั่นถือมั่นว่าธุรกิจแมลงนี้เป็นอนาคตของอาหารโปรตีนในอนาคตเมื่อยามโลกขาดแคลน ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่เทรนด์การกินแมลงกำลังเริ่มนิยมไปทั่วโลก จากรสชาติที่ดีกับอัตราส่วนโปรตีนต่อน้ำหนักเท่ากันแมลงมีให้มากกว่า ผู้สร้างจึงนำไอเดียนี้มาต่อยอดให้เป็นหนังสยองขวัญที่พ่วงเรื่องธุรกิจแมลงไปด้วย โดยให้นางเอกพยายามหาทางขายแมลงที่ตนเองเลี้ยงทุกทางในราคาที่ดี แต่กลับไม่สามารถหาตลาดแบบนั้นได้ เพราะเธอเองก็เลี้ยงเพาะพันธ์ได้ไม่มากพอเช่นกัน

ช่วง 30 นาทีแรกตัวเรื่องปูวนเวียนกับเรื่องปัญหาดราม่าครอบครัวพ่วงธุรกิจฟาร์มแมลงของนางเอก จนกระทั่งวันหนึ่งนางเกิดพลาดลื่นล้มในโรงเรือนจนได้แผล ตั๊กแตนมารุมกินเลือด ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องที่คนดูแนวหนังสัตว์กินคนคิดว่ามันต้องมาแล้วฉากกินคนที่รออยู่ แต่กลายเป็นว่าหนังก็ยังไม่เดินไปในทิศทางนั้นเลย กลายเป็นการสานต่อแนวธุรกิจแมลงของเธอต่อไปอีก เมื่อเธอก็ได้เห็นว่าแมลงเติบโตดี ก็เริ่มขยายฟาร์มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และก็ปกปิดความลับเรื่องการเอาเลือดตัวเองพ่วงกับการขโมยสัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้านอย่าง หมา วัว มาให้ตั๊กแตนกิน ก่อนเอาแมลงไปขายเป็นอาหารสัตว์ให้คนเลี้ยงเป็ดทำฟัวกราส์ (ตับเป็ดตับห่าน) ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส ซึ่งเอาจริงๆ ผู้เขียนคิดว่าอาจจะไม่ต้องไปแนวกินคนแล้วก็ยังได้ แต่ทำเป็นแนวแหวะว่าเลี้ยงแมลงด้วยเลือดอะไรแบบนี้ก็น่าจะดี แต่หนังก็ไม่ได้จะเน้นแหวะแบบนั้นอีก ถึงจะมีฉากเน้นเลือดสัตว์ แผลจากแขนนางเอกที่ตั๊กแตนรุมกิน หรือฉากโคลสอัพตั๊กแตกกินเลือด แต่มันก็ทำได้แค่สยองนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ถึงใจอะไรมาก อาจจะรู้สึกว่านี่เป็นหนังที่โฟกัสไปที่ผู้หญิงโรคจิตอยากเลี้ยงแมลงให้สำเร็จเพื่อครอบครัวซะมากกว่า

และจุดนี้เองก็เป็นปัญหาใหญ่ของเรื่องจากความไม่เมคเซนส์ประหลาดๆ ตรงที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงตั๊กแตนอย่าง ทำไมนางเอกต้องขโมยสัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้านไปให้ตั๊กแตนกิน ซึ่งถ้ามองว่าในเรื่องนางพยายามให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ การหาเป็ดไก่หรือสัตว์เล็กอย่างอื่นมาให้ตั๊กแตนน่าจะง่ายกว่าเยอะ แถมยังทำได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหาต้องไปขโมยใครด้วย หรือการหาเลือดสัตว์ในฝรั่งเศสก็ดูหายากแบบไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลนัก (ในเรื่องบอกว่านางเอกไม่ได้เข้าสมาคมเกษตรเลยขายเลือดให้ไม่ได้) แถมตัวนางเอกนอกจากขโมยสัตว์มาให้ตั๊กแตนกินแล้ว ตัวเธอเองก็ยังต้องเอาตัวไปให้ตั๊กแตนกัดกินเลือดบ่อยๆ อีกด้วย จนมาเป็นปมว่าเธอต้องใส่เสื้อมิดชิดตลอดเรื่อง ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปก็ได้ แค่ถ่ายเลือดมาให้ตั๊กแตนกินก็น่าจะพอแล้ว แต่ในเรื่องก็ไม่ได้มีคำตอบอะไรพวกนี้ให้เลยครับ

ด้วยความที่หนังทั้งอืดทั้งเอื่อย เนือยๆ กับเรื่องราวดราม่าแบบที่บอกไป แม้มันอาจจะไม่ถึงกับแย่สุดๆ แต่ในฐานะหนังสัตว์กินคนต้องบอกว่ามันจะไม่ผ่านก็เพราะการโฟกัสผิดจุดไปปูเรื่องอื่นซะเยอะนี่แหละครับ ซึ่งพอถึงช่วงที่ตั๊กแตนหลุดออกมากินคนตอนท้าย (จริงๆ มีหลุดมากลางเรื่องครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรต่อมาเลย) เวลาในหนังมันก็ใกล้หมดแล้ว ผู้สร้างพยายามเลี้ยวกลับลำสุดตัวให้ตั๊กแตนมากินคนติดๆ กันเพื่อเอาใจคนดู แต่ก็ยังไม่ถึงใจอยู่ดี เพราะหนังเล่นตัดฉากมีตั๊กแตนมาเกาะทั่วตัวนอนตายแล้ว ไม่มีฉากเริ่มจู่โจมกัดกินคนแบบที่ควรจะมีในแนวหนังแบบนี้ อย่างฉากตั๊กแตนรุมพังบ้านก็ไม่มี ใช้ตัดฉากเอาทั้งหมด ซึ่งเข้าใจว่าคงเป็นเพราะหนังทุนต่ำสร้างฉากแบบนี้ลำบากด้วย แต่ก็ยังดีที่มีฉากฝูงตั๊กแตนรุมโจมตีที่แอบเว่อร์นิดๆ ในตอนไคลแม็กซ์ แต่ก็ยังเป็นสเกลเล็ก  ก่อนหาทางจัดการฝูงตั๊กแตนนี้ได้ในตอนท้ายพ่วงด้วยการเคลียร์ปมดราม่าแม่ลูกไปพร้อมกัน ซึ่งบอกตรงๆ ว่าแอบผิดหวังที่หนังเลือกจบแบบสวย แทนที่จะไปให้สุดกับแนวสยองขวัญดราม่าหดหู่ไปเลยขะดีกว่าครับ

สรุปเลยว่าสำหรับคนดูแนวสัตว์กินคนก็เกือบไม่ผ่าน คือยังดีที่ตัวเรื่องมีฉากกินคนในตอนท้ายเอาใจคนดูได้อยู่นิดๆ แต่สำหรับคนทั่วไปที่คาดหวังว่าจะมาดูแนวหนังสยองขวัญเพลินๆ น่าจะหลับก่อนแน่ๆ ครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!