playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ (ไม่มีสปอยล์)

สรุป

ซีรีส์ตลกสืบสวนล้อเลียนชวนปั่นกันสุดๆ แต่อาจจะต้องตามมุกให้ทันหน่อยถึงขำก๊ากไปกับเรื่องได้ แต่ถึงไม่ขำก็ยังสนุกไปกับเนื้อเรื่องที่ลับลวงพรางซะจนไม่น่าจะมีใครเดาได้ แต่ปัญหาก็คือตอนเฉลยสุดท้ายนี่แหละที่โอเว่อร์เกินขีดจนน่าจะมีทั้งคนชอบกับเกลียดคู่กันแน่ๆ (ผู้เขียนอยู่ฝั่งเกลียดขอหักคะแนนจาก 8.5 เหลือ 7 เพราะจุดนี้ล้วนๆ) แต่ยังไงก็เป็นซีรีส์สั้นๆ ที่ชวนให้ทดลองดูกันอยู่ดีครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • เต็มไปด้วยมุกแฝงล้อเลียนปั่นกันสุดๆ
  • เนื้อเรื่องหลอกล่อคนดูซะจนคาดเดาไม่ได้ (ชัวร์)
  • ฉากโรแมนติกของเรื่องทำได้ถึง ชวนอินชวนจิ้นเล็กๆ ตามเลย
  • นางเอกเหมาะกับบทสุดๆ แถมยังมีฉาก SEX สุดเร้าใจ
  • เวลาในแต่ละตอนสั้นๆ แค่ 20 นาทีกว่า มี 8 ตอน
  • จบเคลียร์เรื่องราวหมดในซีซั่น
  • พากย์ไทยดีมาก

Cons

  • บทเฉลยที่โอเว่อร์มากเกินไปหลายอย่างจนทำให้เหตุผลแทบพังทั้งเรื่อง
  • ทิ้งตัวละครที่มีบทดีสำคัญกับเรื่องไปง่ายๆ
  • ปมการตายของลูกนางเอกดูไม่สำคัญกับเรื่องมากเท่ากับที่วางไว้

The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ ซีรีส์ Netflix  8 ตอนสั้นๆ แนวตลกสืบสวนล้อเลียนหนัง/นิยาย แนวนี้ที่มีหลายเรื่องมากมาย แค่ชื่อก็ปั่นมากแล้ว  แถมยังทำได้ดีกว่าต้นฉบับที่ล้อเลียนไว้ซะอีก โดยเป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่เห็นฉากฆาตกรรมเพื่อนบ้าน แต่แล้วก็ชักไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เห็นคือหลอนไปเองรึเปล่า?

 The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window (2022) on IMDb

ตัวอย่าง The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ

ซีรีส์ที่ตั้งใจตั้งชื่อยาวๆๆๆๆ ล้อเลียนแนวนิยายฆาตกรรมที่มักขึ้นต้นด้วย The Woman in the…. อะไรก็ว่าไป แล้วก็ตั้งใจใช้โครงเรื่องเดียวกับหนัง The Woman In The Window หนังโรงของนางเอก เอมี่ อดัมส์ ที่มาลงเน็ตฟลิกซ์เมื่อกลางปีก่อน ซึ่งตัวหนังก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร (อ่านรีวิวได้ที่นี่) แต่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในหลายๆ แง่ที่ทำได้ดีกว่า ถือว่าเป็นการรียูสบทหนังที่ใช้แล้วมาทำใหม่ให้ดีได้ยิ่งขึ้น และก็พร้อมจะขายตัวเองเป็นแฟรนไชนส์ซีรีส์ยาวๆ ต่อไปในอนาคตด้วย

แค่ท่ากินไวน์ของนางเอกก็ฮาแล้ว เติมเต็มแก้วตลอด

เรื่องย่อ ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ

แอนนา (คริสเตน เบลล์) เธอนั่งจมอยู่กับตัวเองและแก้วไวน์จากปัญหาครอบครัวแยกทางกับสามีหลังเสียลูกสาวไป ในแต่ละวันเธอใช้ชีวิตมองออกไปนอกหน้าต่างและดูความเป็นไปรอบตัวเป็นกิจวัตรประจำวัน แต่เมื่อเพื่อนบ้านสุดหล่อกับลูกสาวที่แสนน่ารักย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านฝั่งตรงข้าม แอนนาก็เริ่มมีความหวังใหม่ในชีวิตขึ้นมาบ้าง จนกระทั่งได้พบเห็นการฆาตกรรมที่น่าสยดสยอง… หรือเปล่านะ?

รีวิว ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ (ไม่มีสปอยล์)

สำหรับคนที่ดู The Woman In The Window มาก่อนแล้วก็อาจจะดูเรื่องนี้สนุกขึ้นอีกนิดนึงมากกว่าคนไม่เคยดู เพราะโครงเรื่องหลักแทบจะยกหนังเรื่องนี้มาเลย ว่าด้วยนางเอกเป็นคนติดแอลกอฮอล์อย่างหนัก ไม่ไปไหนจากบ้านเพราะเป็นโรคทางจิตเวชกลัวผู้คน แต่ในซีรีส์จะเป็นโรคกลัวฝนตก ซึ่งก็มีสาเหตุที่มาโยงถึงการตายของลูกสาวที่เป็นความลับสำคัญอย่างหนึ่งของเรื่องเหมือนกันเป๊ะ แต่ในรายละเอียดหลายๆ อย่างถูกใส่ความโอเวอร์เข้าไป เพราะนี่เป็นงานล้อเลียนต้นฉบับที่อาจจะไม่ตลกแบบชัดเจน แต่ถ้าใครทันมุกแฝงต่างๆ ในเรื่องก็สนุกและตลกขำไปกับสิ่งที่เห็นได้ทันที อย่าง จุกไม้คอร์กไวน์ที่นางเอกสะสมไว้เต็มโถแก้ว แสดงให้เห็นเลยว่าติดไวน์หนักขนาดไหน มุกมองเห็นเพื่อนบ้านสุดหล่อแล้วจิ้นไปไกลเตลิดเปิดเปิง นิยายที่นางเอกอ่านระหว่างนั่งจ้องเพื่อนบ้านก็ล้อนิยาย The Woman in the อีกที อะไรพวกนี้คือมุกตลกมากมายในเรื่องที่อาจจะต้องคนเข้าใจทันนิดนึงถึงจะขำได้ แต่ยืนยันเลยว่านี่เป็นซีรีส์ที่ถ้าเข้าใจมุกแฝงเหล่านี้จะขำก๊ากได้จริงๆ

แต่ในส่วนของโครงเรื่องสืบสวนมีความต่างออกไปเยอะอยู่ อาจจะด้วยความที่เป็นซีรีส์ทำให้มีการเพิ่มรายละเอียดหลายอย่างลงไปค่อนข้างมาก อย่างปมการเห็นภาพฆาตกรรมของนางเอกที่ต้องถูกตีความว่าภาพหลอนหรือเรื่องจริง ในหนังคนดูค่อนข้างแน่ใจว่าจริงเพราะโครงเรื่องแบบนี้มันบิดหลอกกันไม่ได้ แต่พอมาเป็นซีรีส์ผู้สร้างเหมือนสนุกกับการปั่นหัวคนดูไปยาวๆ มากว่า ตกลงนี่มีฆาตกรรมจริงไหม แล้วใครฆ่า หรือนางเอกฆ่าเองแล้วลืมเองกันแน่ จากอาการทางจิตที่ซีรีส์ใส่รายละเอียดมามากกว่าว่า นางเอกเห็นภาพเธอแทงๆๆๆ เหยื่อที่เธอเห็นเองแว่บขึ้นมาเป็นระยะๆ แถมในบ้านเธอเองก็เหมือนมีความลับซ่อนอยู่อีกในห้องใต้หลังคา รวมถึงตัวละครล่อหลอกมีพิรุธหลายคนมากกว่าแค่หนุ่มหล่อบ้านตรงข้ามที่ดูน่าสงสัยสุดๆ เริ่มตั้งแต่สามีของเธอที่มีโปรไฟล์เป็นหมอจิตวิเคราะห์ฆาตกรทำงานกับ FBI แล้วมีส่วนทำให้ลูกสาวตายไปจนทำให้เกิดปัญหาทางจิตกับตัวนางเอก หนุ่มหล่อล่ำที่รู้จักกับเหยื่อที่เธอเห็น ช่างทำงานบ้านของนางเอกที่ดูมีพิรุธ เพื่อนสนิทที่ขยันมาหาเธอแบบไม่บอกกล่าว ซีรีส์ทำบทตัวละครพวกนี้ให้ชวนน่าสงสัยลับลวงพรางได้ดีตลอดเรื่อง คือผู้ชมต้องพยายามเดากันตลอดเรื่องอยู่แล้วล่ะว่าใครคือฆาตกร แต่เชื่อเลยว่าก่อนไปเฉลยในตอน 8 ไม่มีทางเดาได้ แล้วก็อาจจะตกหลุมพรางที่ผู้สร้างดักไว้หลายรอบเข้าด้วยเหมือนกัน

นอกจากแนวตลกกับสืบสวนที่ทำได้ดีแล้ว อาจจะต้องบอกว่าสิ่งที่ดีแบบไม่คาดคิดของเรื่องนี้คือ ฉากโรแมนติกหลายครั้งของเรื่องทำออกมาได้ดีเกินคาด ระหว่างที่ตัวเรื่องเดินหน้าสืบสวนแบบติดตลกไปเรื่อยๆ ก็มีพล็อตรองคือ ความพยายามฟื้นฟูจิตใจของนางเอกที่เสียไปจากการแยกทางกับสามี ซึ่งนอกจากปัญหาการตายของลูกสาวที่เธอก้าวข้ามไม่ได้สักทีก็มีเรื่องหัวใจนี่แหละที่ลึกๆ เธอโหยหาอยู่ตลอด จนการมาของหนุ่มหล่อบ้านตรงข้าม ซึ่งในตอนแรกเรื่องราวการเปิดความสัมพันธ์ใหม่ทำออกมาเบาๆ แต่ชวนจิ้นหลายครั้งอย่าง ฉากแตะมือชนกันโดยบังเอิญ การพูดคุยอ่อยแบบมีมารยาทของทั้งคู่ และยิ่งอีกฝ่ายก็เสียภรรยาไปด้วยยิ่งทำให้ทั้งคู่เหมือนเคมีต้องกันในทันที ซึ่งตัว คริสเตน เบลล์ เองแม้ไม่ได้สวยมาก แต่ก็มีเสน่ห์ยั่วยวนชัดเจน และเธอก็เล่นบทนี้แบบมีมารยาอ่อยเนียนๆ น่ารักกำลังดีเลย นอกจากนี้เธอก็ยังรู้สึกโหยหาอดีตสามีที่แยกทางกันอยู่ลึกๆ ซึ่งบทการพบกันของทั้งคู่แม้ไม่มีอะไรมาก แต่ก็แฝงความโรแมนติกทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ทันทีว่าเธอตัดเขาไม่ขาด แถมยังมีหนุ่มหล่อล่ำเพิ่มเข้ามากลางเรื่องอีกคน พร้อมฉาก SEX ดุเดือดสุดๆ แบบเย่อกันหลายท่าจะๆ (จริงๆ ฉากนี้คือตั้งใจล้อเลียนตลกๆ) ก่อนที่จะต่อด้วยฉากโรแมนติกยามเช้าสดใสอีกรอบ ซึ่งแต่ละครั้งที่เรื่องวกมาฉากโรแมนติกก็เปลี่ยนอารมณ์ของเรื่องได้ดีในทันที แอบซึ้งๆ อินตามได้เลย จนแอบคิดว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้สามารถเดินเรื่องด้วยแนวโรแมนติกสืบสวนเป็นหลักก็ยังคงความสนุกได้เช่นกัน เพราะคนดูเองก็คงลุ้นเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วนางเอกจะลงเอยกับใคร แล้วใครคนนั้นจะเป็นฆาตกรด้วยหรือเปล่าอีกต่างหาก (ไม่นับว่าเธอเองก็อาจจะเป็นฆาตกรไปด้วยนะ)

ต้องบอกเลยว่า 7 ตอนแรกของซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความสนุก ตลก โรแมนติก บทซับซ้อนหลอกล่อคนดูไปได้เรื่อยๆ เล่าเรื่องได้กระชับไม่มียืดยาด (ตอนนึงแค่ 20 กว่านาที) ผู้เขียนให้คะแนน 7 ตอนแรก 8+ ได้เลย แต่ปัญหามาโผล่เอาตอน 8 ที่เป็นตอนเฉลยเรื่องราวทั้งหมด บทตั้งใจหักมุมมากเกินไปจริงๆ เรียกว่าหักเกิน 360 องศาเลยดีกว่า คือระหว่างเรื่องถูกปูมาแบบมีเหตุมีผลไม่ติดเว่อร์ ทำให้คนดูสนุกลื่นไหลเชื่อตามไปกับเรื่องได้พอสมควร แต่พอเจอเฉลยแบบหักมุมนี่ทำให้เหตุผลทุกอย่างที่ปูมาแทบพังไปทันที คือนอกจากจะไม่น่าเชื่อแล้ว ยังทำให้มีพล็อตโฮลผุดขึ้นมาเพียบในหัวทันที แม้จะเข้าใจว่าเรื่องนี้มันแนวตลกล้อเลียนอาจจะไม่สนเหตุผลก็ได้ แต่แรงจูงใจในตอนท้ายก็อ่อนไปเหมือนอยากรีบจบเรื่อง แถมยังตอกย้ำด้วยฉากสู้กันที่ดูยังไงก็ไม่น่าเชื่อเข้าไปอีก ทุกอย่างในตอนนี้คือทำให้เรื่องที่ทำมาดีมากทั้งหมดพังแบบกู่ไม่กลับเลย แต่ถ้าใครไม่สนใจเหตุผลอะไรพวกนี้ก็คงชอบใจที่หักกันซะขนาดนี้ ซึ่งเชื่อว่าผู้สร้างก็อาจจะต้องการขายแบบนี้แหละ จะได้เป็นอะไรที่คนดูจดจำพูดถึงกันไปด้วย

ตัวเรื่องจบแบบเคลียร์ปมของซีซั่นนี้ทั้งหมด แล้วก็พร้อมไปต่อซีซั่น 2 กันต่อไป ดูแล้วถ้ารุ่งก็คงวางไว้ยาวๆ เป็นแฟรนไชนส์หากินกันไปเลยด้วย ซึ่งก็น่าสนใจอยู่ว่าผู้สร้างจะทำต่อได้ยังไง ในเมื่อปมทั้งหมดถูกเคลียร์ไปแล้วในซีซั่นนี้ครับ

 

สรุป The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ สนุกและดีไหม

เป็นซีรีส์สั้นๆ ที่โดยรวมสนุกมากอยู่ถ้าคนดูเข้าใจการล้อเลียนต่างๆ แต่ถ้าใครตามมุกไม่ทันก็อาจจะเหลือแค่สนุกไปกับเรื่องราวลับลวงพรางที่เรื่องวางไว้ดีมาก เป็นซีรีส์ที่ทำออกมาดีกว่าที่คาดว่าเป็นแค่แนวปั่นตลกๆ จากหน้าตาภายนอกครับ

The Woman in the House Across the Street from the Girl in the Window ลางหลอน ซ่อนมรณะจ๊ะ

SS2 มีไหม มาตอนไหน? (มีสปอยล์ตอนท้าย SS1)

ตอนจบของเรื่องนี้คือการไปต่อที่โลเกชั่นอื่น ซึ่งคราวนี้ก็เป็นเครื่องบิน  นางเอกยังติดนิสัยดื่มแอลกอฮอลล์กับยาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นวอดก้าซึ่งแรงกว่าไวน์ 3 เท่า แล้วก็เห็นภาพหลอนฆาตกรรมปนเปกับเรื่องจริง โดยล้อนิยายสมมุติเรื่อง The Girl on the Cruise (ผู้หญิงบนเรือ) ที่มาจากนิยายจริงเรื่อง The Woman in Cabin 10 พล็อตเรื่องหญิงสาวไปเที่ยวเรือหรูแล้วเห็นคนตาย แต่ศพกลับหายไป แล้วก็มาพบว่าเป็นฆาตกรรมซ่อนเร้นในเรือ นอกจากนี้ในตอนท้ายยังได้นักแสดงหญิงรุ่นเก๋าอย่าง เกลนน์ โคลส (Glenn Close) มารับบทเหยื่อที่หายไป ซึ่งแน่นอนว่าผู้สร้างวางพล็อตทำต่อไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนกำหนดมาตอนไหน คงต้องรออัพเดทยอดผู้ชมเรื่องนี้หลัง 28 วันตามการเก็บสถิติ Netflix อีกครั้งครับ

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!