playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Wonder ย้อนยุคตีแผ่ความเชื่อศรัทธาปาฏิหาริย์พระเจ้า (ไม่สปอยล์)

The Wonder

Summary

หนังดราม่าย้อนยุคที่ตีแผ่เรื่องราวศรัทธาปาฏิหาริย์ออกมาเป็นปมต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งในแง่สังคม จิตวิทยา ความเชื่อศาสนา วิทยาศาสตร์ได้อย่างครบถ้วน ไม่ใช่แค่ในอดีต แต่เทียบเคียงได้ถึงทุกเรื่องราวที่ยังเกิดต่อๆ กันมาทุกยุคทุกสมัยได้เป็นอย่างดี และยังให้อารมณ์ละเมียดละไมไปกับดราม่าความสัมพันธ์ตัวเอกทั้งคู่ได้อย่างสวยงามลงตัวในตอนจบมาก

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • พิสูจน์ความเชื่อศรัทธาปาฏิหาริย์ให้ออกมาเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก
  • นักแสดงหลักเข้าคู่กันได้ดี
  • ภาพอารมณ์บรรยากาศย้อนยุคสวย
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • เรื่องราวจะช้าๆ สโลว์เนิบๆ

The Wonder ภาพยนตร์ Netflix ดราม่าย้อนยุคของอังกฤษ สร้างจากนิยายปี 2016 ในชื่อเดียวกัน เรื่องราวของพยาบาลที่เดินทางจากอังกฤษไปยังหมู่บ้านห่างไกลในไอร์แลนด์ในปี 1862 เพื่อสืบเรื่องราวการอดอาหารที่น่ามหัศจรรย์ของเด็กหญิงคนหนึ่ง

 The Wonder (2022) on IMDb

รีวิว The Wonder (ไม่สปอยล์)

หนังที่สำรวจลงลึกถึงเรื่องเล่าตำนานปฏิหาริย์ในศาสนาคริสต์แบบหนึ่ง ที่เคยมีนักบุญอ้างว่าตัวเองไม่ต้องการอาหาร มีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอาหาร อิ่มทิพย์ เป็นปาฎิหาริย์จากพระเจ้า แต่ในเรื่องนี้คือเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่เชื่อว่าตัวเองอิ่มทิพย์เช่นกัน โดยไม่ได้กินอะไรมา 4 เดือนแล้ว ตัวเอกของเรื่องคือพยาบาลสาวชาวอังกฤษที่ถูกว่าจ้างโดยหมอและนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้มาจับตาเด็กคนนี้ ผลัดเวรยามร่วมกับแม่ชีเป็นเวลา 14 วัน เพื่อหาความจริงที่เกิดขึ้น

ตัวเรื่องดำเนินไปในรูปแบบของการท้าทายพิสูจน์สื่งที่เรียกว่าปาฎิหาริย์ โดยมีผู้ที่พร้อมใจเชื่อในเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งหมอที่ว่าจ้างเธอมาเอง รวมถึงพ่อแม่ของเด็ก คนในเมืองที่หลั่งไหลมาพบเด็กสาว ตัวเรื่องดำเนินไปแบบค่อยๆ เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการพิสูจน์ของนางเอก  เน้นถ่ายทอดดราม่าผลกระทบทุกอย่างที่เกิดจากความเชื่อในเรื่องปาฏิหาริย์ของผู้คนที่คาดหวังให้เรื่องราวนี้เป็นจริง ในขณะที่เธอเองก็ตั้งธงเชื่อว่านี่คือเรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่ และพยายามหาหลักฐานที่ว่านี้ให้ได้ จนถูกตั้งแง่ว่ากำลังทำลายศาสนา และกลายเป็นศัตรูกับหลายๆ คน

แต่ในระหว่างที่เรื่องพยายามให้ผู้ชมใคร่รู้ว่าความจริงเป็นยังไง ตัวเรื่องก็ค่อยๆ บอกเล่าอดีตของนางเอกที่เป็นหม้ายเคยเสียลูกกับสามีไปอย่างเจ็บปวด ไปพร้อมกับการที่เธอค่อยๆ รู้สึกผูกพันกับเด็กสาวคนนี้ด้วย โดยมีปมจิตวิทยาสำคัญซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังความเชื่อเรื่องปาฎิหาริย์ของพระเจ้าของเด็กสาว ซึ่งจะนำมาสู่ความเข้าใจ คำตอบ และการปลดปล่อยในท้ายที่สุด ตัวหนังเล่าร้อยเรียงเรื่องราวทุกอย่างไปสู่จุดหมายปลายทางสุดท้ายได้อย่างสวยงาม  โดยมีคำตอบทั้งเรื่องคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์และความเชื่อทางศาสนาได้อย่างกลมกลืน  และมีเรื่องมนุษย์ธรรมมาเป็นประเด็นหลักของเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ตัวหนังนั้นเรียบง่ายใช้แค่การแสดงของตัวเอกทั้งสองคนเป็นหลัก ซึ่งนักแสดง Kíla Lord Cassidy กับ Florence Pugh ก็แสดงมันออกมาได้เป็นอย่างดี ทั้งความรู้สึกไม่เป็นมิตรต่อกันในตอนแรก ก่อนที่ค่อยๆ กลายมาเป็นความผูกพันเหมือนแม่กับลูก ซึ่งทำให้ทางออกสุดท้ายของเรื่องนี้ดูสวยงามลงตัวมาก

 

เป็นหนังที่ดีในแง่ที่นอกจะสำรวจพิสูจน์เรื่องราวปาฏิหาริย์ได้อย่างน่าสนใจ ยังมีแมสเซจสำคัญบอกเล่าถึงต้นตอความเลวร้ายของเรื่องราวแบบนี้ที่เกิดขึ้นมาตลอดทุกยุคทุกสมัยไม่มีเปลี่ยนแปลง ให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในสังคมจริงๆ ครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!