playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Tin & Tina ระทึกขวัญผ่านเด็กคลั่งศาสนาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ (ไม่มีสปอยล์)

Tin & Tina

Summary

โดยรวมถือว่าตัวหนังประสบความสำเร็จกับการเล่นเรื่องความบริสุทธิ์ของเด็กที่ถูกผู้ใหญ่เคร่งศาสนาชี้นำไปในทางที่ผิด ตัวหนังให้บรรยากาศตัดกันระหว่างความใสซื่อบริสุทธิ์น่ารักของเด็กกับอารมณ์สยองขวัญจากการกระทำของเด็กได้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับมีฉากสยองขวัญให้เห็นมากนัก เพราะหนังยังคงเล่นประเด็นความบริสุทธิ์ของเด็กต่อเนื่องจนถึงฉากจบแนวปลายเปิดที่ชวนให้คนดูงงอยู่เหมือนกันว่าต้องการอะไร ซึ่งหนังอาจจะไม่ถึงกับสนุกมากมาย แต่ก็ทิ้งแง่มุมที่ชวนให้คิดหลายอย่างไว้ในหัวได้เหมือนกันครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
4 (2 votes)

Pros

  • ระทึกขวัญจากความใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กที่คลั่งศาสนา
  • ให้บรรยากาศระทึกขวัญได้ตลอดเรื่อง
  • นักแสดงเด็กเล่นได้ดีมาก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ฉากสยองในเรื่องไม่ถึงกับให้เห็นอะไรมาก
  • เรื่องดำเนินไปแบบช้าๆ
  • ฉากจบปลายเปิดที่ชวนให้ตีความแบบงงๆ

 

Tin & Tina หนัง Netflix จากสเปนมีพากย์ไทย เรื่องราวของ Lola กับ Adolfo คู่รักที่พึ่งแต่งงานแต่กลับแท้งลูก ทั้งคู่จึงตัดสินใจรับเลี้ยง Tin และ Tina พี่ชายกับน้องสาวที่น่ารักสองคนจากแม่ชีที่เคร่งศาสนา ทำให้เด็กทั้งสองคนนี้ศรัทธาในพระเจ้าจนเกินเลย นำพาหายนะมาสู่ครอบครัวของพวกเขา
Tin & Tina (2023) on IMDb

 

รีวิว Tin & Tina (ไม่มีสปอยล์)

หนังแนวทริลเลอร์ระทึกขวัญจากสเปน ที่สร้างมาจากหนังสั้นของผู้กำกับ Rubin Stein โดยตรง นี่เป็นผลงานกำกับหนังเต็มตัวเรื่องแรกของเขาด้วย โดยเป็นพล็อตเรื่องแนวรับเด็กมาเลี้ยงแล้วกลายเป็นเด็กนรกที่ถูกนำมาใช้แล้วหลายเรื่อง ทั้งในแนวเด็กที่เป็นโรคจิตไปจนถึงเด็กปีศาจ แต่ในเรื่องนี้จะต่างออกไป ไม่ใช่ทั้งโรคจิตหรือปีศาจ แต่เป็นเรื่องของเด็กน้อยจิตใจบริสุทธิ์ที่ถูกสั่งสอนมาให้เชื่อในพระเจ้าจนเกินขอบเขต พวกเขาตีความพระคัมภีร์ไบเบิลแบบคำต่อคำ แยกเรื่องสมมุติกับเรื่องจริงไม่ออก ด้วยความเขื่อที่ผิดปกตินี้เองจึงกลายเป็นเหตุการณ์สยองขวัญในเรื่องหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็มาจากเจตนาที่ดี แต่ผลลัพธ์กลับเลวร้าย และไม่สามารถลงโทษเด็กได้ จนทำให้เหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรจากหนังแนวเด็กนรกเลย แค่กลับกันเป็นเด็กใสซื่อบริสุทธิ์แบบผิดๆ เท่านั้น  

ด้วยความที่หนังใช้เด็กเป็นตัวแทนของความเลวร้าย ฉากที่ออกมาในเรื่องนี้หลายครั้งจึงถูกลดทอนความรุนแรงลง มุมกล้องถูกบังไว้หมด อย่างฉากที่มีการฆ่าสัตว์ ผู้ชมจะไม่ได้เห็นภาพเด็กทำร้ายสัตว์ตรงๆ หรือเรื่องที่เลวร้ายกว่านั้นก็จะไม่ถูกทำออกมาให้เห็นชัด ส่วนหนึ่งเพราะตัวเรื่องตั้งประเด็นไว้ว่านี่คือความหลงผิดของเด็ก ไม่ใช่เจตนากระทำเรื่องเลวร้ายแบบพวกหนังเด็กนรก และส่วนนี้ก็ถูกนำไปเชื่อมโยงกับฉากสุดท้ายของเรี่องนี้ที่ถูกถ่ายทำเป็นลองเทคยาวกว่า 15 นาที เป็นฉากจบที่ทำให้ผู้ชมต้องสงสัยคาใจว่า “แท้ที่จริงแล้วเด็กสองคนนี้เลวร้ายจริง หรือแค่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นมาเท่านั้น” ซึ่งเป็นฉากจบปลายเปิดที่มีคำตอบใบ้ไว้ทั้ง 2 แบบ แล้วแต่ว่าผู้ชมจะเลือกเชื่อแบบไหนเท่านั้นครับ 

ตัวหนังไม่ได้โฟกัสแค่ที่การกระทำของเด็ก แต่ยังเสริมด้วยความรู้สึกผิดของผู้เป็นแม่ Lola (แสดงโดย Milena Smit) ที่คิดว่าเธอคงเลี้ยงดูเด็กไม่ดี สามีก็ไม่ค่อยอยู่บ้านเพราะทำงานเป็นนักบินพาณิชย์ และด้วยความที่เธอแท้งลูกจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก จึงทำให้ภาวะจิตของเธอทรุดหนักลง ตัวเธอเองก็ไม่ใช่คนนับถือศาสนา แต่เด็กกลับเชื่อมั่นในพระเจ้าและพยายามให้เธอเชื่อตาม จนกระทั่งเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับตัวเธอเอง ทำให้ความไม่เชื่อในพระเจ้าของเธอเริ่มสั่นคลอนขึ้นมาด้วยเหมือนกัน แต่ตัวหนังก็ไม่ได้ถึงกับทำให้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องมีคำอธิบายได้เช่นกัน

จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือตัวนักแสดงหลักเด็กน้อยทั้งสองคนซึ่งดูน่ารักจริงๆ (แสดงโดย Anastasia Russo กับ Carlos González Morollón ตัวจริงก็ไม่ใช่เด็กผมบลอนด์อย่างที่เห็นในเรื่อง) โดยมีลักษณะภายนอกชวนให้คิดถึงรูปลักษณ์ของเทวฑูตจากพระเจ้า ซึ่งตัวหนังตั้งใจให้เด็กเป็นตัวแทนในรูปแบบนี้จริงๆ และการกระทำในเรื่องถ้าไม่นับเรื่องเลวร้ายที่เกิด ส่วนอื่นๆ ของเรื่องทั้งคู่ก็แสดงออกมาอย่างน่ารัก เหมือนเด็กที่เล่นซนน่าเอ็นดูทั่วไป ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้ชมคงรู้สึกลังเลที่จะเชื่อว่าเด็กทั้งคู่เลวร้าย เหมือนกับที่ Lola และ Adolfo เชื่อนั่นเอง 

 

โดยรวมถือว่าตัวหนังประสบความสำเร็จกับการเล่นเรื่องความบริสุทธิ์ของเด็กที่ถูกผู้ใหญ่เคร่งศาสนาชี้นำไปในทางที่ผิด ตัวหนังให้บรรยากาศตัดกันระหว่างความใสซื่อบริสุทธิ์น่ารักของเด็กกับอารมณ์สยองขวัญจากการกระทำของเด็กได้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับมีฉากสยองขวัญให้เห็นมากชัดเจน เพราะหนังยังคงเล่นประเด็นความบริสุทธิ์นี้ต่อเนื่องจนกระทั่งฉากจบแนวปลายเปิดของเรื่อง ที่ชวนให้คนดูงงอยู่เหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้ต้องการอะไร หนังอาจจะไม่ถึงกับสนุกมากมาย แต่ก็ทิ้งแง่มุมที่ชวนให้คิดหลายอย่างไว้ในหัวได้เหมือนกันครับ 

 

Including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!