playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว TROLL Netflix งานหนังสัตว์ประหลาดจากนอร์เวย์ที่ลอกสไตล์ฮอลลีวูดมาใช้ได้ดีเลย

TROLL

Summary

หนังสัตว์ประหลาดยักษ์ฟอร์มกลางๆ ที่ทำออกมาดีมาก ดูใส่ใจในงานสร้างสัตว์ประหลาด CG อยู่ในชั้นดีมาก มีฉากโทรลล์ออกบ่อยเห็นตัวกันเต็มๆ แต่ไม่ได้เน้นฉากแอ็กชั่นทำลายล้างอะไรมาก ตัวบทการดำเนินเรื่องต่างๆ จะเป็นสไตล์สูตรสำเร็จฮอลลีวูดเลย แต่ก็ลื่นไหล ดูสนุก เรียบง่ายเหมาะสมลงตัวกับความเป็นประเทศที่มีเรื่องเล่าตำนานโทรลล์โดยตรงและหยิบเจ้าตัวนี้มาใช้ครับ 

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนังสัตว์ประหลาดที่โชว์ตัวเต็มๆ เยอะมาก
  • CG อยู่ขั้นดีมากกับงานสตรีมมิ่ง
  • บทมนุษย์ในเรื่องไม่ได้น่าเบื่อ
  • มีปมดราม่าสะเทือนใจ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เป็นหนังนอร์เวย์แต่ใช้บทสูตรหากินฮอลลีวูดมากไปหน่อย
  • ไม่ได้เน้นฉากทำลายล้างอะไรมาก

TROLL หนังแอ็กชั่นสัตว์ประหลาดจาก Netflix นอร์เวย์ เรื่องราวของโทรลล์ที่ถูกปลุกขึ้นมาจากเหตุระเบิดกลางเทือกเขา และเดินหน้าตรงเข้ามาที่เมืองหลวง เจ้าหน้าที่รัฐบาลจึงมอบหมายให้นักบรรพชีวินวิทยาหาทางหยุดยั้งมันให้ได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะพังพินาศ
 Troll (2022) on IMDb

TROLL รีวิว (ไม่สปอยล์)

หนังสัตว์ประหลาดจากนอร์เวย์ ประเทศที่เราไม่ค่อยได้เห็นผลงานของเขามากนักแม้แต่ในเน็ตฟลิกซ์นี่ด้วย แต่คราวนี้คือผลงานที่เรียกว่าน่าจะแจ้งเกิดและสร้างชื่อให้ทีมผู้สร้างมาก เมื่อเลือกหยิบยกแนวสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์บุกเมืองที่แม้ทั้งพล็อตทั้งไอเดียจะไม่ได้ใหม่ แต่นี่คืองานสเกลใหญ่ยักษ์มากในระดับที่แม้แต่ฮอลลีวูดเองจะทำแบบนี้ได้ก็ยังต้องคิดหนัก แต่เรื่องนี้คือผลงานที่สอบผ่านฉลุยอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผลงานทุนปานกลางที่ลงเน็ตฟลิกซ์ด้วย

ตัวเรื่องแทบจะลอก+ยำจากพวกแนวนี้ของฝรั่งอย่าง คิงคอง จูราสสิคปาร์ค และอีกหลายๆ เรื่องมาเลย ด้วยการให้ตัวเอกเป็นนักบรรพชีวินวิทยา (ศึกษาฟอสซิล) แบบเดียวกับจูราสสิคปาร์ค แล้วก็มีพ่อที่เชื่อในเรื่องตำนานปรัมปราเป็นปมดราม่าความไม่เข้าใจกันสองพ่อลูก ตามสไตล์ฮลลีวู๊ดเป๊ะ ซึ่งผู้กำกับเป็นชาวนอร์เวย์ก็จริง แต่ก็เป็นผู้กำกับ ที่เคยทำงานฮอลลีวู๊ดอยู่แล้วอย่างทูมไรเดอร์เวอร์ชั่นล่าสุด ทำให้อารมณ์การดำเนินเรื่องแทบจะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นหนังนอร์เวย์เลย และก็เป็นแนวสูตรสำเร็จง่ายๆ ที่คนคุ้นเคย แต่มันก็ทำให้เรื่องราวดูลื่นไหลสนุกแบบไม่ต้องคิดมาก เหมือนได้ดูคิงคองเวอร์ชั่น Netflix ที่แค่ได้เห็นตัวโทรลออกมาทำลายล้างสิ่งต่างๆ เพียงพอแล้ว ซึ่ง CG ทั้งเรื่องตั้งแต่ฉากแรกก็อยู่ในขั้นดีน่าประทับใจ ไม่รู้สีกถึงความหลุดหรือ CG ลอยในทุกฉากของเรื่องนี้ (ถ้าไม่ขนาดนั่งจับผิด) และตัวเรื่องก็แทบไม่กั๊กตัวโทรลไว้เลย แม้ช่วงแรกกว่าจะเผยตัวได้ใช้เวลานานหน่อย แต่บทในช่วงนั้นก็ทำออกมาได้ไม่น่าเบื่อ เพราะเป็นการปูเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกที่ส่งมาช่วยนางเอก หัวหน้าทหารที่มีภารกิจนำพานางเอกไปสืบหาว่าสิ่งนี้มันคืออะไร รวมถึงพ่อนางเอกที่เป็นปมดราม่าขัดแย้งกับความเชื่อของลูก ซึ่งทุกตัวละครในช่วงแรกถูกวางบทบาทให้มีความสำคัญเฉลี่ยบทได้ดีทุกคน เพื่อที่ตัวละครเหล่านี้จะกลายมาเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่กู้วิกฤตครั้งนี้ได้ (ตามสูตรฮอลลีวูด) แทนที่จะเป็นพวกนักการเมืองนายทหารของรัฐบาล ที่ถูกวางให้เป็นตัวร้ายเล็กๆ บ้าอำนาจตามสูตรเช่นกัน และที่สำคัญคือตัวละครมนุษย์ทั้งหมดก็ไม่ได้ถูกยัดบทมาแบบน่าเบื่อเหมือนพวกหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ปกติที่มักยัดมาเพื่อให้หนังมีอะไรเล่ายาวๆ ลดฉากสัตว์ประหลาด เซฟงบอะไรแบบนั้น

แต่ด้วยความที่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังใหญ่แบบทุ่มทุนสร้างลงโรงอะไร ดังนั้นบทของโทรลล์จึงถูกวางไว้ให้มีลิมิตพอเหมาะกับสเกลงานลงสตรีมมิ่ง คือมีฉากออกเยอะ แต่ไม่ถึงกับเป็นหนังสัตว์ประหลาดทำลายล้างแบบก็อดซิล่าอะไรแบบนั้น แค่เดินๆ ผ่านแล้วไปชนตึกบ้านจนพัง พวกกองกำลังทหารที่ต่อสู้ด้วยก็มีแค่ซีนเดียวสั้นๆ แบบจำกัดไม่ได้เห็นระเบิดอะไรตูมตามมากช่วงกลางเรื่อง ต่อจากนั้นคือการเขียนบทที่เอาความเชื่อตามตำนานเกี่ยวกับจุดอ่อนของโทรลล์มาสู้แทนที่อาวุธ ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกแนวทางจำกัดงบที่ดีและเหมาะเจาะลงตัวกับการที่นอร์เวย์หยิบยกเอาโทรลล์ขึ้นมาด้วย เมื่อเรื่องราวมีการเชื่อมไปถึงสาเหตุที่โทรลล์ตัวนี้ปรากฎตัวออกมา แบบที่มาที่ไปเชื่อมกับความลับการก่อตั้งสร้างประเทศนี้ และกลายมาเป็นดราม่าสะเทือนใจให้อารมณ์แบบเดียวกับคิงคองที่พอรู้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่สัตว์ร้าย แต่คนต่างหากที่ร้ายกว่า ทำให้โทรลล์ในเรื่องนี้มีบทสรุปจบที่ไม่ใช่แนวทำลายล้างที่ดีพอตัวเลย แต่ก็ยังแอบแง้มเผื่อไว้ทำภาคต่อได้อีกด้วย

ถือเป็นหนังฟอร์มกลางๆ ที่ทำออกมาดีมาก ดูใส่ใจในงานสร้างสัตว์ประหลาด มีบทที่เรียบง่ายแต่ดีเหมาะสมลงตัวกับความเป็นประเทศที่มีเรื่องเล่าตำนานโทรลล์โดยตรงและหยิบเจ้าตัวนี้มาใช้ครับ ใครชอบแนวนี้ห้ามพลาดเลยครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!