playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Truth or Dare เวอร์ชั่น Extended Director’s cut ตัดต่อใหม่ให้ดูแรงขึ้นกว่าเดิมนิดนึง….

สรุป

สำหรับคนชอบหนังสยองขวัญก็ถือว่าดูผ่านๆ เพลินๆ ได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรโดดเด่นน่าจดจำ นอกจากหน้าผียิ้มทั้งเรื่องที่น่ากลัวกว่าฉากตายสยองในเรื่องซะอีก สำหรับเวอร์ชั่นตัดต่อใหม่นี้ก็แค่เติมเลือดที่ลบไปกับมุมกล้องเห็นเลือดเพิ่มมาเท่านั้น ตัวเนื้อหาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจากเวอร์ชั่นก่อนครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • พล็อตเกม Truth or Dare กับตัวละครหน้าผียิ้มหลอนๆ
  • นางรองสวยกว่านางเอก

Cons

  • พล็อตดูน่ากลัวรุนแรง แต่ฉากสยองที่ออกมากลับเบาไป แม้จะมีเวอร์ชั่นตัดต่อใหม่มาช่วยก็แทบไม่ได้ต่างกัน
  • การท้าให้ทำอะไรหลายอย่างในเรื่องนี้หลายครั้งไม่ค่อยเข้าท่าตามแนวหนังสยองขวัญเลย

Truth or Dare Extended Director’s cut (Netflix) จริงหรือกล้า…เกมสยองท้าตาย เวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท ที่ตัดต่อใหม่ให้ดูแรงขึ้นกว่าเดิม

ตัวอย่าง Truth or Dare

หนังเรื่องนี้เข้าฉายมาก่อนแล้วในปี 2018 ในชื่อไทย จริงหรือกล้า…เกมสยองท้าตาย ผลงานจากค่าย บลัมเฮาส์ โปรดักชั่นส์ ผู้สร้าง Happy Death Day, Get Out, Split ซึ่งก็ถือว่ามีเครดิตดีเลยล่ะ แต่ว่าตัวเรื่องนี้กลับไปไม่ถึงจุดที่เรียกว่าหนังสยองขวัญได้สักเท่าไหร่ เพราะตัดต่อในเรต PG-13 ก็คือ อนุญาตให้ทุกวัยเข้าชมได้ แต่เนื่องจากเนื้อหาบางส่วนอาจจะไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปีต้องมีผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ร่วมชมและคอยให้คำเตือน ซึ่งก็ตัดพวกเลือดและอะไรที่ดูรุนแรงจะๆ ออกไปจนดูหน่อมแหน้มไม่สมกับพล็อตเรื่องแนวตายสยองผิดธรรมชาติแบบที่ตัวเรื่องวางไว้เลย จนทำให้คะแนนวิจารณ์ทั่วโลกเรื่องนี้เข้าขั้นแย่มาก และฟีดแบ็คจากผู้ชมก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ (เว็บ IMDB โหวตได้ 5.2 คะแนนจาก 4 หมื่นคน)

มาในเวอร์ชั่นนี้ผู้กำกับ Jeff Wadlow เลยขอแก้ตัวตัดต่อใหม่ เมื่อไม่ได้ลงโรงมาลงแผ่นบลูเรย์จึงทำให้ใส่ฉากรุนแรงได้มากขึ้น (เวอร์ชั่นเน็ตฟลิกซ์มาจากบลูเรย์) โดยตัวเรื่องก็ยังเหมือนเดิมแทบไม่ได้มีฉากอะไรเพิ่มมา เรื่องยังเริ่มกันที่กลุ่มเพื่อนนักศึกษามหาลัยได้ไปเลี้ยงฉลองกันที่เม็กซิโก ก่อนที่จะเจอชายหนุ่มลึกลับพาไปที่โบสถ์เก่าแห่งหนึ่ง แล้วก็เล่นเกม Truth or Dare ที่เรามักเห็นฝรั่งเล่นกัน โดยการให้ “ถามหรือท้า” ถ้าถามก็ต้องเลือกตอบตามจริง ถ้าท้าก็คือต้องปฏิบัติตามที่อีกฝ่ายบอก แต่ว่ากลายเป็นโดนคำสาป ถ้าไม่ทำก็คือตาย โกหกก็คือตาย ไม่เล่นก็คือตาย ติดตามหลอนกลับมาที่อเมริกา และก็ไล่เรียงคิวเจอกันทีละคนๆ โดยคำสาปนี้จะมาในรูปของการเปลี่ยนคนอื่นหรือแม้แต่เงาของเราเองในตอนนั้นเป็นหน้าฉีกยิ้ม ซึ่งจะไม่มีใครเห็นนอกจากคนที่โดนถามตอนนั้น และกลุ่มตัวเอกต้องหาทางหยุดคำสาปนี้ให้ได้

ตัวเรื่องใช้เกมนี้มาเป็นตัวบ่อนทำลายมิตรภาพในกลุ่มเพื่อน แบบใครมีความลับอะไรกับเพื่อนก็ต้องโดนคำสาปบังคับแฉออกมา หรือต้องปฏิบัติตามที่คำสาปสาบบอกแบบเสี่ยงๆ ถ้ารอดก็จะเป็นคิวของคนถัดไป แต่ต้องบอกเลยว่าทั้งความลับที่เรื่องใช้มาเป็นเมนหลักในการเดินเรื่องเบาเกิน ค่อนข้างธรรมดามากไปด้วย อย่างแค่ใครแอบชอบใคร ใครนอกใคร แล้วที่คำสาปบังคับให้ทำก็ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ อย่างให้ไปนอนกับคนนี้ ทั้งๆ ที่สองคนนี้ก็แทบจะเอากันอยู่แล้ว หรือพวกฉากที่ตั้งใจทำให้เสียวสยอง แม้จะพอมีความน่าสนใจอยู่บ้าง แต่ในเวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัทนี้ก็แค่เห็นเลือดเพิ่มมาเท่านั้น (เวอร์ชั่น PG-13 ตัดมุมกล้องที่เห็นเลือดออก) ซึ่งก็มีเพียงน้อยนิดแบบเพิ่มมารวมๆ ไม่กี่นาที ส่วนใหญ่เป็นฉากเห็นแวบๆ ว่าฟัน แทง ก่อนตายวูบเดียวแล้วก็ตัดไม่ให้เห็นหรือแช่ภาพแบบที่หนังสยองขวัญดีๆ ทำไว้เลย ซึ่งตัวเรื่องนี้ก็มีความคล้ายไฟนอลเดสติเนชั่น แต่เรื่องนั้นเน้นการตายจะๆ สยองขวัญมากกว่าแบบเทียบไม่ติด

ดูภาพที่ตัดกับแก้ไขทั้งหมดได้ที่นี่ครับ รวมภาพที่ตัดออก

ตัวอย่างที่ตัดออก ซ้ายเวอร์ชั่นโรง ขวาเวอร์ชั่นไดเร็กเตอร์คัท

ตัวเรื่องเดินไปแบบตามสูตรเป๊ะๆ มีคนตาย ไม่เชื่อว่าเป็นคำสาป พอโดนเองก็เลยเชื่อ หาทางแก้คำสาป ซึ่งเป็นพล็อตสูตรสำเร็จของหนังแนวๆ นี้ใช้กันมาเกลื่อน แต่ตัวเรื่องก็ยังมีความน่าติดตามตรงที่คนดูอยากรู้ว่าสุดท้ายจะแก้คำสาปนี้ได้อย่างไร ซึ่งตอนจบสุดท้ายของเรื่องก็ถือว่ากึ่งๆ ปลายเปิด และก็ทำให้ตัวหนังมีอะไรน่าคิดติดหัวขึ้นมานิดนึง ก็ถือว่าจบได้ดีพอตัวเหมือนแอบเผื่อไว้ทำภาคต่อไปในตัวครับ

สปอยล์ฉากจบ Truth or Dare Extended Director’s cut

นางเอกเลือกหาคนมาเล่นเกมเพิ่ม โดยอัดคลิปตัวเองยูทูบ ทำให้คนที่ดูโดนคำสาบกันหมด จะได้ไม่วนกลับมาถึงตัวได้ง่ายๆ 

 

สำหรับคนชอบหนังสยองขวัญก็ถือว่าดูผ่านๆ เพลินๆ ได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรโดดเด่นน่าจดจำ นอกจากหน้าผียิ้มทั้งเรื่องที่น่ากลัวกว่าฉากตายสยองในเรื่องซะอีก สำหรับเวอร์ชั่นตัดต่อใหม่นี้ก็แค่เห็นเลือดเพิ่มมาเท่านั้น ตัวเนื้อหาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจากเวอร์ชั่นก่อนครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!