playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว WeCrashed เรื่องจริงสุดเพ้อฝันของสตาร์ทอัพลวงโลก WeWork

WeCrashed

Summary

ซีรีส์แนวระดมทุนลวงโลกรายใหญ่ของบริษัท WeWork ซึ่งเรื่องถ่ายทอดเหตุการณ์ตามลำดับจริง แต่จะมีความล้นเว่อร์ๆ กับตัวเอกหลักทั้งคู่มาก ตัวเรื่องมาในอารมณ์เดียวคือนั่งดูตัวละครโม้สร้างภาพเกินจริงหลอกเงินคนมาลงทุน กับความสัมพันธ์คู่รักที่หลุดโลกไปด้วยกันว่าผลักดันกันอีท่าไหนจนมาถึงจุดหายนะของบริษัทได้ ถ้าใครชอบแนวลวงโลกแบบนี้ก็ดูได้ แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรใหม่น่าสนใจสักเท่าไหร่ แถมยังยืดยาววนเวียนกับเรื่องโม้ๆ เพ้อๆ ของตัวละครมากกว่าเรื่องชิงไหวพริบที่มีน้อยนิดแค่ตอนใกล้ๆ จบเท่านั้น

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • สร้างจากเรื่องจริงลวงโลกของ บริษัท WeWork
  • ได้ Jared Leto กับ Anne Hathaway มาแสดงนำ

 

 

Cons

  • เรื่องมีโทนเดียวส่วนใหญ่หมดไปกับการฟังตัวอดัมโม้สร้างภาพขายฝัน
  • ใช้เวลา 10 ตอนวนไปกับเรื่องแนวเดิมเยอะไป
  • ความล้นเว่อร์ๆ ของคาแรกเตอร์ที่ดูแล้วน่าอึดอัด

WeCrashed ซีรีส์ Apple TV+ 10 ตอนจบ สร้างจากเรื่องจริงของ Adam Neumann ที่ก่อตั้งบริษัท WeWork ทำธุรกิจ ‍Coworking Space ระดมทุนจนสร้างบริษัทได้ใหญ่โต แล้วเตรียมเข้าเป็นบริษัทมหาชนผ่านขั้นตอน IPO 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ได้เงินลงทุนจาก SoftBank Vision Fundเป็นยูนิคอร์นของสตาร์ทอัพ แต่กลับกลายเป็นเรื่องลวงโลก จนนำมาสู่วิกฤตที่บีบให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง

 WeCrashed (2022) on IMDb

ตัวอย่าง WeCrashed

ซีรีส์เรื่องนี้ได้ Jared Leto กับ Anne Hathaway มาแสดงนำเป็น อดัมกับรีเบคก้า คู่รักที่ร่วมก่อตั้ง WeWork ร่วมกับ Miguel McKelvey สถาปนิกรุ่นบุกเบิกของบริษัท แสดงโดย Kyle Marvin เป็นผลงานสร้างอ้างอิงจากพอดแคสต์ WeCrashed: The Rise and Fall of WeWork ซึ่งเป็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ของทั้ง 3 คนนี้กับธุรกิจที่พวกเขาขายฝันบอกว่าเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้คนสายนี้มาพบเจอกันแล้วทำงานเกิดไอเดียใหม่ๆ ในวงการ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นแค่บริษัทเกิดใหม่สายอสังหาเท่านั้น แต่การที่อดัม นิวแมน ผู้ก่อตั้งสร้างภาพขายฝันจนดึงดูดนักลงทุนมาได้มากมาย ก็ทำให้เขากลายเป็นธุรกิจลวงโลกขนาดใหญ่ที่มีความคล้ายกับ เอลิซาเบธ โฮล์ม เจ้าของสตาร์ทอัพตรวจเลือดลวงโลก เธราโนส ที่สตรีมมิ่งดิสนีย์+ ก็พึ่งทำซีรีส์เรื่องนี้ไปเช่นกันในชื่อ The Dropout ดรอปเรียน เซียนเลือด อ่านรีวิวได้ที่นี่ ซึ่งเคสของ WeWork ก็กลายเป็นบทเรียนสำคัญให้วงการสตาร์ทอัพได้ระวังการสร้างภาพมายาหลอกนักลงทุนมากกว่าตัวผลงานจริง

ด้วยความที่เรื่องนี้ออกแนวลวงโลกมาแต่แรกแล้ว ตัวเนื้อเรื่องจึงเป็นการเล่าแบบติดโม้ดูเว่อร์ๆ กับการกระทำของตัวละครมากเกินจริงพอสมควร คือเรื่องยังอ้างอิงเหตุการณ์จริงตามลำดับอยู่ แต่แอ็กติ้งตัวละครจะล้นๆ ของทั้งจาเร็ดกับแอนที่เล่นเป็นอดัมกับรีเบคก้า เหมือนเป็นคู่สามีภรรยาแนวไฮเปอร์เพ้อฝัน แต่คนนอกจะมองว่าพวกเขามีพลังงานล้นเหลือในการสร้างสรรไอเดียช่วยโลก ทั้งที่ความจริงแล้วตลอดเวลาที่เรื่องดำเนินไปผู้ชมก็รู้อยู่ว่าพวกเขาทั้งคู่สร้างภาพเกินจริงขายฝันหลอกดูดเงินนักลงทุนมาถลุงไปวันๆ ขาดทุนต่อวันหลักล้านเหรียญต่อเนื่อง เป็นการเบิร์นเงินลงทุนไม่หยุด ยังดีที่ตัวธุรกิจเป็นการทำสัญญาเช่ายาวทำให้มีเงินกลับมา แต่ก็ขาดทุนเป็นหลักพันล้านต่อปีเหมือนกันและด้วยความที่เรื่องนำเสนอโทนโม้ขายฝันมาตั้งแต่แรกยันถึงตอนจบ ก็ทำให้เรื่องราวแทบทุกตอนมีอารมณ์เดียวกันหมด จนดูแล้วจะรู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องมาดูอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งอย่าง The Dropout ยังต่างออกไปเพราะมีช่วงเล่ห์เหลี่ยมในการหลอกล่อนักลงทุนแทรกมา แต่เรื่องนี้คือเราจะได้เห็นแค่อดัมโม้ด้วยคำพูดเว่อร์ๆ แล้วนักลงทุนก็หลงเชื่อง่ายๆ แบบไม่มีอะไรพิเศษมากกว่านี้เลย

เนื้อเรื่องตั้งใจนำเสนอจุดพีคของเรื่องตั้งแต่แรกด้วยการเล่าเหตุการณ์ช่วงที่อดัมต้องถูกปลดออกจาก CEO ค้างไว้เป็นระยะทุกตอน แล้วค่อยๆ เล่าเรื่องตามไทม์ไลน์ปกติไปถึงจุดนั้น ที่มีการยื่น IPO ตั้งมูลค่าเกินจริงมาก แล้วก็โดนขุดคุ้ยตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึกจากนักลงทุนจนทำให้เขาต้องยอมแพ้ด้วยการถอนตัวออกไป ซึ่งจุดนี้เป็นช่วงที่มีทริกเล่ห์เหลี่ยมแทรกเข้ามานิดหน่อยว่าสุดท้ายแล้วอดัมล้มบนฟูกได้ยังไง โดยทิ้งพนักงานบริษัทที่โดนหลอกไว้แบบไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลย ซึ่งยิ่งทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารังเกียจมากขึ้นไปอีก

นอกจากเรื่องการลงทุนในบริษัทแล้ว ตัวเรื่องพยายามนำเสนอความสัมพันธ์ของอดัมกับรีเบคก้าว่ามีส่วนช่วยผลักดันกันยังไงจนมาถึงจุดที่กลายเป็นบริษัทลวงโลกได้ขนาดนี้ ซึ่งส่วนนี้ก็ออกแนวเพ้อฝันมากเช่นกัน เพราะไม่ว่าอดัมจะทำอะไรลงไป รีเบคก้าคือคนช่วยดันให้อดัมไปสุดกู่กว่าเดิมอีก ซึ่งแม้แต่มิเกลเพื่อนสถาปนิกที่อยู่ด้วยก็ไม่สามารถหยุดความบ้าของทั้งคู่ได้ และยังมีช่วงที่เขาเองก็หลงไปกับโลกของทั้งคู่นี้เช่น แต่ปัจจุบันมิเกลคือ COE คนที่บริหารงานล่าสุดและผลักดันให้ Wework กลับมาเข้าตลาดหุ้นได้สำเร็จ แต่ตัวเรื่องจะไม่ได้เล่าถึงจุดนี้ หยุดไว้แค่อดัมลงจากตำแหน่งและรับทรัพย์ก้อนโตไปได้ยังไงเท่านั้นครับ

สรุปเป็นซีรีส์แนวเรื่องจริงลวงโลกสตาร์ทอัพอีกเรื่อง ซึ่งหลังๆ มานี่จะมีแนวระดมทุนขายฝันแบบนี้คล้ายกันมากหลายเรื่อง (อย่างแอนนามายาลวงของ Netflix ก็ใช่) ถือว่าไม่ได้พิเศษมาก แต่ดูเป็นกรณีศึกษาเพลินๆ ได้อยู่ครับ

ติดตามอ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์ใน Apple TV+ คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!