playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Who Were We Running From? ดราม่าฆาตกรรมที่บทอ่อนจนไม่เมคเซนส์ทั้งเรื่อง

Who Were We Running From?

Summary

ซีรีส์ที่ชื่อเรื่องเหมือนปมปริศนาใหญ่ลึกลับ แต่แค่ตอนแรกก็เฉลยเรื่องราวแล้ว ส่วนที่เหลือก็คือเรื่องราวย้อนอดีตดราม่าแรงจูงใจของแม่ ผสมกับเหตุการณ์ดราม่าฆาตกรรมโรคจิต ที่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง เพราะทั้งเรื่องทำเหตุผลต่างๆ ออกมาได้อ่อนมาก ตำรวจที่ไล่ล่าดูโง่และตกยุค แม่ก็มีสกิลหนีได้แบบแถๆ ดูเหลือเชื่อเกินไป แต่ตัวเรื่องก็ยังมีดีตรงขายฉากโลเกชั่นท่องเที่ยวสวยๆ ทั่วโลก จากการเดินทางของสองแม่ลูกในเรื่อง กับความสวยของลูกสาวที่ถูกวางให้เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากจนสร้างปัญหาต่างๆ ในระหว่างเดินทางให้เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งพอดูกล้อมแกล้มเพลินๆ ได้อยู่บ้าง แต่เรื่องก็ไม่จบลงในซีซั่นนี้ถูกทำค้างไว้มีต่ออีก ทั้งๆ ที่ควรจะจบได้เลย

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • แนวดราม่าฆาตกรรม
  • เล่าเรื่องต่างโลเกชั่นมากมาย
  • นักแสดงที่เล่นเป็นลูกสวยมีเสน่ห์มาก

Cons

  • บทอ่อนไม่สมเหตุผลทั้งเรื่อง
  • ไม่จบในซีซั่นเดียวทั้งๆ ที่ควรจะจบได้

Who Were We Running From? (2023) on IMDb

 

รีวิว Who Were We Running From?

*มีสปอยล์เนื้อหาตอนแรก

ซีรีส์ที่ตั้งชื่อเรื่องเป็นคำถามให้ชวนสงสัย เหมือนเป็นปริศนาใหญ่ในเรื่อง แต่ความจริงแทบจะไม่ได้เป็นปริศนาอะไรเลย และเพียงแค่ตอนแรกก็เฉลยแล้วว่าตัวแม่นั้นคือ ฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าคนโดยอ้างว่าเพื่อปกป้องลูกสาวแสนสวย จากภัยรอบตัวในสังคม ที่แม่สร้างจินตนาการว่าพวกคนในสังคมเป็นคนไม่ปกติ เป็นวิญญาณเร่ร่อน เราไม่ควรไปสุงสิงกับพวกเขา ซึ่งเป็นอาการทางจิตของแม่ที่ตั้งแต่ตอนแรกก็เผยให้เห็นฉากฆาตกรรมตามมาจากเหตุเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย ทำให้ตัวเรื่องที่เหลือทั้งหมดไม่ได้เป็นแนวปริศนาหาคำตอบอะไร แต่เป็นการไล่ล่าของตำรวจที่ตามล่าพวกเธอทั้งสองคน กับการหลบหนีตามโรงแรมต่างๆ แล้วก็มีเหตุต้องฆ่าคนที่นั่นอยู่เรื่อย แทบทุกตอนต้องมีคนตาย ก่อนที่ตัวเรื่องจะปิดท้ายที่การจนมุมของสองแม่ลูก แต่ตัวเรื่องก็ค้างคาไม่จบ วางไว้ทำซีซั่น 2 ต่อไปได้อีก 

ปัญหาของเรื่องนี้หลักๆ คือบทที่อ่อนเหตุผลมากในหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ตัวเรื่องที่พยายามย้อนอดีตเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่แม่จากมาว่าเป็นเศรษฐี แต่เลี้ยงลูกไม่เป็น ทำให้ลูกใจแตกบลาๆ ก่อนลงมือฆาตกรรมครอบครัวแล้วหนีมา ซึ่งในเรื่องแม่จะต้องอยู่โรงแรมหรู ห้องดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เมื่อเวลาผ่านมาเป็นสิบปีจนลูกสาวตั้งแต่ทารกเลี้ยงมาจนเป็นวัยรุ่นจะไม่มีใครตามหา แล้วก็ไม่สมเหตุผลว่าทำไมต้องพักในโรงแรมหรูทั้งชีวิต ทั้งๆ ที่เงินในเรื่องก็มีจำกัด ไม่ได้ร่ำรวยระดับมีกินใช้ตลอดชีวิต แถมยังติดคดีฆาตกรรมมาตั้งแต่แรกอีก 

นอกจากนี้ยังใส่สกิลการหลบหนีของแม่เว่อร์เกินจริงไปมาก ประมาณว่าแม่มีซิกเซนส์สัมผัสได้ว่าเมื่อไหร่มีอันตราย แม้จะไม่ถึงกับทำให้ดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่การเขียนบทให้มีแบบนี้ทำให้ตัวเรื่องเหมือนแถหาเหตุผลทางออกให้แม่หนีมาเรื่อยๆ ได้แบบไม่ได้ใช้สติปัญญาแก้ปัญหาอะไรเท่าไหร่เลย คือแบบจู่ๆ ก็รู้ตัวตลอดว่ามีอันตรายมาใกล้ต้องหนี ก็เลยหนีได้เรื่อยๆ ทำให้เรื่องดูไม่เมคเซนส์เอามากๆ

ตัวบทพยายามเล่นดราม่าส่วนของแม่มากมายเพื่อให้ดูเป็นเหตุผลเชื่อและเอาใจช่วยตัวละคร แต่มันก็ไม่ได้ดีพอให้รู้สึกสงสาร ส่วนคนลูกก็เป็นคนเล่าเรื่องตั้งแต่แรก ดูเหมือนจะเป็นเหยื่อแต่ตอนท้ายกลับหักมุมกลายเป็นเด็กโรคจิตแบบแม่ไปอีกคน ซึ่งสุดท้ายเรื่องก็เลยไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกสงสารอะไรเลยสักนิด 

ในส่วนของตำรวจที่ตามล่าเองก็ดูเหมือนหนังตกยุค มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ แต่กลับใช้ภาพสเก็ตส่งไปตามโรงแรมในตอนแรก ตัวตำรวจที่ไล่ล่าเองก็เหมือนเป็นตัวละครโง่ๆ ที่ไม่เคยตามจับทันเลย แถมยังงงๆ ด้วยว่าสองแม่ลุกนี่ตระเวนไปพักทั่วโลก แล้วตำรวจสองคนนี้เอาอำนาจจากไหนมาไล่ล่าข้ามประเทศแบบนี้

แต่สิ่งที่เรื่องนี้มีดีอยู่คือการได้ฉากโลเกชั่นท่องเที่ยวตามโรงแรมสวยๆ หลายที่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ตุรกี หลายฉากทำได้สวย เป็นการเดินทางหลีกหนีความจริงของสองแม่ลูกที่เหมือนนิทานตามที่เรื่องวางไว้ และตัวลูกสาวก็สวยมากสมกับบทบาทที่วางไว้ว่าเสน่ห์วัยแรกแย้มของเธอทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในเรื่องขึ้น ซึ่งเธอจะมีชุดใส่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนตุ๊กตาน่ารัก ที่แอบโยงไปกับอาการทางจิตของคนเป็นแม่ด้วย

 

สรุปเลยว่านี่เป็นซีรีส์ที่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง บทอ่อน เหตุผลอ่อน แม้จะพยายามเอาเรื่องดราม่าฆาตกรรมโรคจิตมาเป็นเส้นเรื่องหลักให้น่าตื่นเต้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเพราะแกนหลักของเรื่องหลวมโครกไม่สมเหตุผลแทบทุกอย่างครับ

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!