playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว YOU Season 2 ฆาตกรรมความรักที่สวยงามและจิตวิปริตกว่าเดิม!

สรุป

YOU ซีซั่น 2 อุดจุดอ่อนที่เคยมีแบบซีซั่นแรกไปจนเกือบหมด เรื่องราวสมเหตุผลลงตัวทั้งความรักและการฆาตกรรมมากกว่า เพียงแต่การดำเนินเรื่องในช่วงครึ่งแรกอาจจะไม่สดใหม่นัก เพราะต้องปูเรื่องราวแบบเก่าหลายตอนให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเพื่อเบนเข็มไปสู่ทิศทางใหม่ ที่ต้องบอกว่าสนุกและบันเทิงเอามากๆ เรียกว่าตอบสนองแฟนๆ ที่ชอบแนวหนังรักจิตวิปริตได้อย่างดีแน่นอน แต่ถ้าใครมาดูเพื่อหวังกับเรื่องราวยุติธรรมโลกสวย คงไม่พ้นขัดใจกับตรรกะในเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปมากๆ ครับ

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
5 (4 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เรื่องราวสมเหตุผลมากกว่าเดิม
  • เลืิอดสาดกว่า แหวะกว่า หวาดเสียวกว่าซีซั่นแรก
  • สำรวจเรื่องรักในแง่มุมใหม่ๆ ที่ยังไม่มีในซีซั่นแรก
  • นางเอกคนใหม่มีเสน่ห์ในแบบคาดไม่ถึง
  • มีจุดหักมุมที่จิตวิปริตเกินคาด
  • บทสมทบทุกตัวละครทำได้ดีมีความหมายกับเรื่องเยอะ
  • มีมุมตลกมากกว่าซีซั่นแรก
  • แฟลชแบ็คที่มาที่ไปวัยเด็กของโจ
  • มุกเชื่อมโยงเกี่ยวกับหนังมีเยอะ (ถ้าตามไม่ทันอาจจะไม่ตลก)

Cons

  • ยังมีความไม่สมเหตุผลประปรายอยู่หลายจุด (แต่น้อยลงมาก)
  • ตัวละครบางตัวที่ตายก็โดนปิดเรื่องหายจนดูง่ายไปหน่อย

 

รีวิว YOU SS2 เรื่องราวของโจสตอล์กเกอร์ที่ตามหารักแท้คู่ชีวิตต่อเนื่องมาจากความรักครั้งก่อน โดยคราวนี้เขาได้ย้ายไป LA ลอสแอนเจลิส และก็เริ่มต้นตามหารักแท้ครั้งใหม่อีกครั้ง

ตัวอย่างซีรีส์ YOU SS2 Netflix (ไม่มีสปอยล์)

หมายเหตุ: รีวิวนี้ในส่วนแรกจะไม่มีสปอยล์จุดสำคัญ ถ้าต้องการอ่านพร้อมรีวิวสปอยล์ทีละประเด็นให้ข้ามไปอ่านครึ่งหลังครับ

แคนเดซ YOU SS2
แคนเดซกลับมาจริงๆ

ถ้าใครที่ยังไม่ได้ดูซีซั่นแรกไม่รู้ว่า YOU เป็นเรื่องราวแนวไหน คลิกอ่านที่นี่ก่อนนะครับ สำหรับคนที่ดูแล้วก็คงสงสัยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเดินไปในทิศทางไหน หลังจบซีซั่นแรกแบบที่ให้ “แคนเดซ” ตัวละครแฟนเก่าคนแรกสุดของโจกลับมา ซึ่งเรื่องราวจะต่อกันทันทีเลยจากตอนจบ ในช่วงแรกคือการที่โจต้องย้ายไป LA เพื่อหนีแคนเดซที่ตามมาราวีทวงความแค้นที่เขาเคยทำกับเธอ โดยที่ไม่ได้คิดจะไปแจ้งความเพราะคิดว่าคนอย่างเขาถึงติดคุกไปก็คงไม่ได้สำนึกผิดต้องโทษคนอื่นตามนิสัยติดตัวที่เราเห็นกันมาตลอดซีซั่นแรกนั่นแหละครับ

มาถึงตรงนี้คนดูอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย! หนังเล่นง่ายไปรึเปล่ากับการให้ฆาตกรต่อเนื่องอย่างโจไม่โดนแจ้งความจับส่งตำรวจให้จบๆ ไป ก็ต้องบอกว่าภาคนี้เหมือนคนสร้างทำการบ้านมาดีขึ้นมากๆ ลดจุดบอดของเรื่องราวออกไปเยอะจนดูน่าเชื่อถือว่าซีซั่นแรก ซึ่งถ้าใครดูแบบจับผิดนี่มีแผลเหวอะหวะมากมาย แม้แต่คนที่ชอบอย่างผมก็ยังยอมรับว่าเรื่องราวพล็อตโฮลเยอะจริง แต่ด้วยความที่มันเป็นหนังในแบบให้เราเอาใจช่วยแอนตี้ฮีโร่ให้ทั้งสมหวังในความรัก (ที่จิตวิปริต) ไปพร้อมกับการที่ลุ้นให้พระเอกรอดจากคดีฆาตกรรมที่ตัวเองก่อ การดูเรื่องนี้จึงต้องละทิ้งหนังสืบสวนไล่ล่าฆาตกรให้จนมุมอะไรแบบนั้นไปครับ ถ้าใครดูซีรีส์ Dexter มาจะเข้าใจ แถมในภาคนี้ยังมีประโยคอ้างอิงไปหาโจว่า คิดว่าตัวเองเป็น Dexter เหรอ? อีกด้วย

อย่างที่บอกไปด้านบนตัวเรื่องราวแรกๆ อาจจะดูง่ายๆ แต่หนังจะค่อยๆ มีคำอธิบายตามมาเรื่อยๆ ถึงการที่แคนเดซไม่ไปแจ้งความในแบบฉากแฟลชแบ็คไปยังเหตุการณ์สุดท้ายของเขากับแคนเดซ ซึ่งพอเฉลยทั้งหมดเราก็ได้เห็นว่า จริงๆ แล้วจุดจบของแคนเดซกับโจต่างกับเบ็คมากอยู่ และเรื่องราวในช่วงครึ่งแรกของการเริ่มชีวิตใหม่ใน LA หนังเล่าเรื่องเหมือนฉายหนังซ้ำกับซีซั่นก่อนกับเบ็คแบบจงใจ แต่มีรายละเอียดใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาคือการที่โจพยายามเรียนรู้ข้อผิดพลาดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมกับเบ็ค ซึ่งสาวคนใหม่ที่โจหมายปองคือ “เลิฟ” สาวสวยในที่ทำงานเดียวกันกับเขานั่นเอง

เลิฟ Love
เลิฟ (Love) นางเอกคนใหม่ของ You ss2 netflix

มาถึงตรงนี้ผมว่าร้อยทั้งร้อยก็คงคิดว่า “สันดานของโจไม่มีทางเปลี่ยนได้” เพราะถึงจะพยายามแก้ไขยังไง แต่การกระทำต่างๆ ก็ยังเป็นแบบสตอล์กเกอร์อยู่เหมือนเดิม แม้ว่าเลิฟจะนิสัยแตกต่างจากเบ็คทุกอย่าง แถมเป็นผู้หญิงสายรุกเข้าหาผู้ชายในแบบที่โจไม่คาดคิด (ถึงจะจะตกเป็นเป้าหมายของโจ) ก็ยังหาทางไปสตอล์กเกอร์เธอเหมือนเดิม ซึ่งการที่หนังเล่นเรื่องราวเกือบซ้ำเดิมกระทั่งให้มีตัวละครเด็กแบบที่โจต้องพยายามเอาตัว (เสือก) เข้าไปช่วย ก็คงทำให้คนดูที่มองหาความสดใหม่ในเรื่องราวเบื่อครึ่งแรกของซีซั่น 2 ได้ง่ายๆ อาจจะมีต่างแค่ตรงโจในซีซั่นนี้ฆ่าคนอย่างไวกว่าซีซั่นแรกมาก ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่ผู้สร้างแทรกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ก็จบทิ้งไว้ง่ายๆ เหมือนกัน เหมือนเป็นแค่การคั่นเวลาก่อนถึงเมนคอร์สของจริงในครึ่งหลัง ที่แตกต่างจากช่วงแรกอย่างสิ้นเชิง…

ตัวละครเด็กคนใหม่
ตัวละครเด็กคนใหม่ที่โจต้องเข้าไปช่วยเหลือใน YOU SS2

ซึ่งของจริงในครึ่งหลังนั้นก็คือเรื่องราวที่พาไปสู่สิ่งใหม่ๆ ที่ปั่นป่วนชีวิตโจเป็นชุด ในแบบคาดเดาไม่ได้เลย เราจะได้เห็นโจพลาดติดๆ กันต่อเนื่องแบบไม่มีปัญญาแก้ แถมยังเล่นกับเวลานับถอยหลังให้ลุ้นระทึกสนุก ตลก หวาดเสียวไปพร้อมกัน และยังดึงเอาเรื่องราวผลลัพธ์ตอนจบของซีซั่นแรกเกี่ยวกับหนังสือชีวิตของเบ็คมาขยายต่อในแบบที่เข้าท่ามาก กลายเป็นภาคนี้มีส่วนเสริมเรื่องราวเป็น “หนังสือ vs หนัง” ซึ่งเป็นเรื่องราวของการที่โจต้องไปเกี่ยวข้องกับการตรวจงานเขียนบทหนังให้กับน้องชายของเลิฟ จนกลายเป็นเรื่องราวตลกเสียดสีหนังสือขายดีจะกลายมาเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง โดยฝีมือการเขียนบทของโจที่ฆ่าเบ็คเอง!

เท่านั้นยังไม่พอเรื่องราวยังหักมุมแบบมาติดๆ กันแทบไม่เว้นช่วงให้หายใจเลย โดยส่วนใหญ่เกิดจากความตั้งใจของโจที่จะไม่ทำผิดซ้ำแบบเดิมอีกต่อไป โดยเป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องต่อจากในครึ่งแรก ซึ่งก็คือ หัวใจหลักของซีซั่นนี้ที่เล่นเรื่องราว “การสำนึกผิด” ที่ตอนแรกอาจถูกจะมองว่าหนังหากินกับพล็อตเดิมๆ แต่ที่จริงคือการทวนซ้ำเพื่อสะสมความน่าเชื่อถือทีละน้อยๆ ให้กับคนดู โดยให้โจได้มีโอกาสสำนึกผิดกับเรื่องราวๆ ที่ผ่านมากับเบ็ค (ไม่นับแคนเดซที่โจมองเป็นศัตรูตามราวีเขา) ซึ่งตอนแรกคนดูก็คงไม่เชื่อ หนังจึงพยายามให้โจเลือกไม่ทำซ้ำรอยเดิมในทุกความผิดพลาด ทั้งกับเรื่องรักและฆาตกรรม จนทำให้โจดูเป็นคนดีกว่าภาคก่อนที่เห็นแก่ตัวเองมาก เรียกว่าค่อยๆ ปูเหตุผลสะสมมาเรื่อยๆ พร้อมใส่แฟลชแบ็คย้อนอดีตเรื่องราวครอบครัววัยเด็กของโจแบบที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน และเป็นเหตุผลที่เกี่ยวกับที่มาที่ไปของนิสัยจิตๆ ของโจที่น่าสงสาร จนเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสุกงอมจึงค่อยระเบิดตูมไปกับบาปที่เกาะกินใจในช่วงท้าย ทำให้เรื่องราวนอกจากจะสมเหตุผลจนคนดูเชื่อได้แล้ว ยังช่วยให้หนังเดินเรื่องไปในทิศทางใหม่ ที่หักมุมกันแบบสุดโต่งและจิตสุดขั้วมากจริงๆ และก็ไม่ใช่หักมุมเพื่อจบแล้วค้าง แต่หนังยังใช้เวลาอีกถึง 1 ตอนกว่า เล่นเรื่องราวใหม่ที่จิตวิปริตกว่าที่ผ่านมาทั้งหมด (มากกว่าซีซั่น 1 ด้วย) ที่เรียกว่าลุ้นและบันเทิงเอามากๆ โดยที่ยังคงเส้นน้ำหนักเรื่องราวความรักโรคจิตไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วยครับ

YOU SS2 อุดจุดอ่อนที่เคยมีแบบซีซั่นแรกไปจนเกือบหมด เรื่องราวมีเหตุผลลงตัวทั้งความรักและฆาตกรรมมากกว่า เพียงแต่การดำเนินเรื่องในช่วงครึ่งแรกอาจจะไม่สดใหม่นัก เพราะต้องปูเรื่องราวแบบเก่าหลายตอนให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเพื่อเบนเข็มไปสู่ทิศทางใหม่ ที่ต้องบอกว่าสนุกและบันเทิงเอามากๆ เรียกว่าตอบสนองแฟนๆ ที่ชอบแนวหนังรักจิตวิปริตได้อย่างดีแน่นอน แต่ถ้าใครมาดูเพื่อหวังกับเรื่องราวยุติธรรมโลกสวย คงไม่พ้นขัดใจกับตรรกะในเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปมากๆ ครับ

รีวิวสปอยล์ทีละประเด็น

รีวิวสปอยล์ประเด็นต่างๆ ของ YOU SS2 

YOU SS2

การกลับมาของเบ็คในซีซั่น 2

YOU SS2 เรียกว่ายังเอาใจคนดูที่อาจจะชื่นชอบนางเอกในภาคแรกเบ็ค ที่เล่นโดย Elizabeth Lail ก็ต้องบอกเธอยังอยู่ครับ แต่โผล่มาแบบเหมือนภาพหลอนหรือผี เราจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วโจฆ่าเบ็คแบบไหน แล้วตายจริงไหม เพราะในซีซั่นแรกมีให้ลุ้นว่าจริงๆ อาจจะเหมือนแคนเดซ แต่สรุปคือตายจริงแน่นอน ซึ่งการดึงเบ็คกลับมาก็เป็นอะไรที่ดีงามเช่นเดิม เรียกว่าทำให้ภาคนี้มีนางเอก 2 คนหลัก เลิฟกับเบ็ค ไปพร้อมกัน แต่ว่าหนังก็ไม่ได้ให้เรื่องราวของเบ็คเยอะมากไปจนจบ เพราะเบ็คกลับมาเพื่อให้เข้ากับเรื่องราวการสำนึกผิดของโจ ที่ตอนแรกเราอาจจะดูว่าเขาแค่ทำไปอย่างนั้น แต่หนังเน้นหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนจบ ซึ่งทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่าพระเอกแอนตี้ฮีโร่ของเราคนนี้ตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่หลอกๆ แล้วก็กลับไปเป็นแบบเดิม

นางเอกใหม่ “เลิฟ” สวยมีเสน่ห์ไม่เท่าเบ็ค?

สารภาพเลยว่าตอนแรกดูขัดใจมากกับนางเอกภาคนี้ ที่ดูยังไงก็ไม่ได้สวยหรือมีเสน่ห์ Sex Appeal เท่าคนก่อนเลย (เล่นโดย Victoria Pedretti จากซีรีส์ The Haunting of Hill House บทของเนล) แต่ต้องบอกว่าเป็นการเลือกตัวละครนางเอกคนใหม่ที่ตั้งใจให้แตกต่างกว่าภาคแรกในทุกๆ ด้าน ซึ่งเลิฟในคราวนี้เป็นสายรุกหวังมัดใจโจในแบบคาดไม่ถึง (แต่ฉาก SEX น้อยกว่าภาคแรก) แถมยังพ่วงตำแหน่งเป็นเจ้านายของโจ ซึ่งพอดูไปเรื่อยๆ รับรองว่าแม้เสน่ห์ตรงๆ อาจจะสู้เบ็คไม่ได้ แต่ว่าเธอก็มีเสน่ห์ในหลายมุมชวนมองให้เคลิ้มได้ง่ายๆ เหมือนกัน และก็เป็นสาวสวยลูกเศรษฐีที่ตรงกับบททุกประการ การแสดงก็ตีบทแตกกระจุย บทก็มีมิติลึกมากกว่าเบ็ค แถมยังดูดีมีคลาสกว่าเบ็คที่ทำตัวแย่ๆ เรียกว่าเป็นนางเอกที่คนดูเอาใจช่วยในหลายๆ ทางได้มากกว่านางเอกภาคแรกมากครับ

ที่มาของความรักหมกหมุ่นของโจจนกลายมาเป็นฆาตกร

หนังเล่นเรื่องการไถ่บาป การสำนึกผิด พร้อมใส่ความเป็นฮีโร่ให้โจตั้งใจช่วยหลายคนจริงๆ เท่านั้นไม่พอยังเล่นเรื่องราวปมวัยเด็กของโจ ซึ่งตอนโผล่มาแรกๆ อาจจะดูงงๆ เป็นส่วนเเกินของเรื่องราว แต่หนังพยายามใส่เข้ามาเรื่อยๆ มีที่มาที่ไปเพื่อให้คนดูค่อยๆ เห็นใจเข้าข้างการกระทำของเขาในปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุการที่เขาหมกหมุ่นกับความรักนี้ก็มีเหตุผลน่าเชื่อถือ เกี่ยวกับแม่ที่รักของเขาไม่มีความสุขกับพ่อที่ทุบตีแม่ให้เขาเห็นตั้งแต่เด็กๆ และแม่ก็พยายามหาผู้ชายคนใหม่มาช่วยปลดปล่อยตัวเธอและลูกออกไป จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเลวร้ายในวัยเด็ก อันเป็นจุดเริ่มที่ทำให้โจกลายเป็นคนที่มองหาความรักในแบบหมกหมุ่นจนกลายเป็นฆาตกรในที่สุด ซึ่งในซีซั่นแรกไม่มีการอธิบายตรงนี้เลย ทำให้แรงจูงใจที่มาต่างๆ โจสมเหตุผลขึ้นมากทันที

 

โจคนเดิมกับมุมมองความรักแบบใหม่ 

เรื่องราวในซีซั่น 2 กับการสำนึกผิดทำให้โจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งก็มีผลไปถึงเรื่องราวแง่มุมความรักที่เปลี่ยนไปจากภาคแรกหลายจุด หนังหยิบเอาส่วนที่ยังไม่เคยมีการนำมาใช้มาใส่ไว้ในตัวโจ อย่างเช่น การที่ต้องตกเป็นฝ่ายโดนจีบจากผู้หญิง การนัดเดทผ่านแอพหาคู่เพื่อทำให้แฟนหึง การปรับตัวให้เข้ากับครอบครัวแฟน การวางแผนมีลูกมีครอบครัวจริงจัง ซึ่งเป็นพัฒนาการของเรื่องราวความรักที่มีมิติมากขึ้นกว่าแค่การลุ่มหลงอกหักในแบบซีซั่นแรก และในตอนจบซีซั่นก็ยังเปิดเผยเลยว่าพร้อมจะไปสำรวจโลกของความรักต้องห้ามที่ยังไปไม่ถึง ซึ่งน่าติดตามมากว่าจะเดินเรื่องยังไงให้เรื่องยังดูชวนฝันในมุมความรักได้อย่างเดิมทั้ง 2 ซีซั่น

 

ฉากฆาตกรรมน้อยลง แต่แหวะมากขึ้น

หนังมีฉากฆาตกรรมน้อยลงตามธีมหลักของเรื่องคือการสำนึกผิดนั่นแหละครับ แต่ก็เปิดเรื่องมาต้นๆ มีเลยและก็สยองกว่าภาคก่อนมาก เพราะคราวนี้หั่นศพ บดเนื้อศพ ให้เห็นกันจะๆ ออกจะคล้าย Dexter มากขึ้น แต่อย่าพึ่งคิดว่าหนังจะขาดแคลนฉากพวกนี้ไปนะครับ กลับกันหนังใส่มาแบบจงใจแช่เล่นกับศพมากกว่าภาคก่อน รวมถึงยังมีศพที่ไม่ได้เกิดจากโจอีกด้วย (อ่านต่อในหัวข้อสุดท้ายของสปอยล์)

YOU SS2 เลือดสาดแหวะกว่าเดิมตามภาพ

แอนตี้ฮีโร่ช่วยเด็กยังคงอยู่และเน้นมากกว่าเดิม

เรียกว่า YOU SS2 นี้ตั้งใจปั้นให้โจเป็นพระเอกมากกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งภาคนี้เขาต้องมาช่วย “เอลลี่” เด็กสาววัย 15 จากการถูกดาราฮอลลีวู๊ดล่อลวง ซึ่งดูแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าบทยัดให้พระเอกจุ้นจ้านกับชีวิตเด็กจนรู้สึกแปลกๆ แต่ตัวหนังจะค่อยๆ เฉลยที่มาจากแฟลชแบ็คอดีตของโจในวัยเด็กที่ครอบครัวไม่พร้อมเลี้ยงดูลูก ทำให้โจเติบโตมากลายเป็นคนที่ทนเห็นเด็กถูกทำร้ายไม่ได้ เรียกว่าเป็นคนดีกับเด็กเสมอต้นเสมอปลายจนอาจจะดูเว่อร์มากๆ ไปเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ขนาดว่าบทนี้แย่ เพราะตัวบทเอลลี่เองก็ไม่ได้กลวง แถมยังเป็นบทที่มีความสำคัญกับหลายๆ อย่างในเรื่องมาก (มีแอบชอบโจด้วยเล็กๆ) และบทเอลลี่ก็มีสิทธิ์ได้ไปโผล่ในซีซั่น 3 ต่อไปด้วย

 

หนังมีมุมตลกกว่าซีซั่นแรก

ที่จริงซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้วางตัวเป็นตลกตรงๆ หรือตลกเสียดสีเด่นมากนัก แต่ในภาคนี้สังเกตุได้ว่ามีมุกตลกใส่เข้ามาแบบเยอะมากขึ้น อย่าง 7 สัญญาณของการเป็นคน LA ที่ใส่มานึกว่าจะมีอะไรแต่กลับกลายเป็นมุกขำๆ ให้พระเอกเครียดกับการเห็นของแปลกหายากใน LA ซะงั้น (ตัวอย่างรถเข็นเด็กที่มีหมาแทนเด็ก) รวมถึงฉากหักมุมในแบบ WTF ตามพระเอก ซึ่งโจผิดแผนบ่อยกว่าซีซั่นแรกมาก ทำให้ขำสนุกและลุ้นไปพร้อมกัน

 

โลกของหนังสือ vs. หนัง

ในซีซั่นแรกเราจะเห็นว่าเรื่องราวหมกหมุ่นอยู่กับหนังสือ นิยาย แต่มาในซีซั่น 2 โจต้องมาเจอกับคนรอบตัวที่เกี่ยวข้องกับหนัง หายใจเป็นหนังไปหมด ซึ่งโจต้องมาดูหนังบ้าง และก็มีเรื่องราวเมนหลักของเรื่องเกี่ยวกับหนังมากมายเต็มไปหมด อย่างเอลลี่ก็เป็นเด็กที่พยายามเรียนรู้วงการภาพยนตร์ โจก็ต้องฆ่าคนในวงการภาพยนตร์ รวมถึงต้องมาช่วยออกไอเดียเขียนบทให้นิยายของเบ็คในตอนจบให้กลายมาเป็นหนังดีๆ ให้ได้ หรือแม้แต่ชื่อตอนสุด “ทุกหัวใจมีรัก” ก็มาจากชื่อหนังดัง “Love, Actually” นั่นเอง

Key Largo
Key Largo หนังฟิล์มนัวร์คลาสสิค

จุดหักมุมทิศทางของเรื่องที่รับรองมีเหวอ!

เรื่องราวในซีรีส์นี้เริ่มมีการเปิดทิศทางใหม่ๆ ตั้งแต่เริ่มให้มีคนที่พระเอกปล่อยให้รอดจากห้องขังได้ แล้วก็กลายมาเป็นตัวละครที่ดูแล้ววางไว้ให้ช่วยเหลือพระเอกต่อๆ ไป ซึ่งในซีซั่น 3 บทผู้ช่วยสายแฮ็กเกอร์ของโจก็น่าจะยังคงมีอยู่ต่อไป

นอกจากบทผู้ช่วยแล้ว หนังยังกล้าเปิดทิศทางเรื่องราวใหม่ โดยมีตัวละครที่ไม่ต่างอะไรจากโจเกิดขึ้นมาเพิ่ม และก็แตกต่างจากพีชเพื่อนสตอล์กเกอร์ของเบ็คในภาคแรกมาก กลายเป็นว่าจิตวิปริตกว่า สุดกว่า และก็มีความสามารถมากกว่าโจในหลายๆ ด้าน และก็ไม่ได้เติมเพิ่มมาแบบไม่มีเหตุผล แต่โผล่มาเคลียร์ปมปริศนาเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งคราวนี้ไม่ใช่แค่โจที่ก่อเรื่องคนเดียวอีกต่อไปแล้วครับ

ตัวละครที่จิตกว่าโจในภาคนี้คือ “เลิฟ” นางเอกใหม่ของภาคนี้ซึ่งตีบทแตกกระจุยทั้งสองด้าน เธอมีความลุ่มหลงในความรักแบบเกินธรรมดาเช่นเดียวกับโจ และก็มีเหตุผลที่มาที่ไปที่เธอกลายมาเป็นคนที่จิตสุดๆ ขนาดที่โจยังกลัวได้เลย เพราะเลิฟไม่ใช่แค่ฆาตกรธรรมดา แต่เป็นลูกเศรษฐีมีอันจะกินที่กรมตำรวจ LA ก็ยังอยู่ใต้อิทธิพลตระกูลของเธอ ทำให้วางแผนปกปิดคดีต่างๆ ได้สบายๆ

You Season 3

YOU Season 3 (รออัพเดท)

สำหรับใครที่ติดใจกับตอนจบของ Season 2 ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีงงๆ หรือค้างคาอยากรู้ว่า Season 3 จะไปต่อเรื่องราวแบบไหน สร้างต่อหรือเปล่า ทางผมจะทะยอยมาอัพเดทเร็วๆ นี้ครับ (ขอติดไว้ก่อนเพราะต้องรวมข้อมูลทุกแหล่ง) แต่หลังจากนี้ซีรีส์จะไปไกลกว่านิยายแล้วครับ

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!