playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ หนังสนุกดี หนังซึ้ง แต่จบที่ภาค 3 ดีสุดแล้ว

สรุป

Toy Story แค่ชื่อเรื่องกับตัวละคร อีกหนึ่งความพยายามกอบโกยเงินของดิสนีย์ ที่ลงเอยด้วยภาคต่อที่ไม่จำเป็นและขาดจิตวิญญาณ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เนื้อเรื่องดูเพลิน งานพากย์ดีมาก
  • เนื้อเรื่องครบทุกอารมณ์ โดยเฉพาะเศร้าซึ้ง
  • ใจความสำคัญของเนื้อเรื่องชวนให้คิดและสะเทือนใจ
  • งานภาพงานอนิเมชันระดับเทพเจ้าพิกซาร์

Cons

  • สนุกไม่เท่าสามภาคแรก ขาดมนต์เสน่ห์
  • เหล่าของเล่นแก๊งเดิมแทบไม่มีบทอะไรเลย
  • ตัวละครบัซเปลี่ยนไปจนน่าเกลียด
  • ขาดฉากหรือแม้กระทั่งสถานที่ที่น่าจดจำ

Toy Story 4 รีวิว สปอยล์ เนื้อเรื่อง เทียบชั้นไม่ไหว ไม่น่าทำออกมาเลยจบแบบภาค 3 ดีที่สุดแล้วจริงๆ


Toy Story 4
Genre: ตลก อนิเมชัน
Director: Josh Cooley
Writer: John Lasseter, Rashida Jones, Will McCormack, Josh Cooley, Valerie LaPointe, Martin Hynes, Stephany Folsom, Andrew Stanton
Voice Actor: Tom Hanks, Tim Allen, Annie Potts, Tony Hale, Keegan-Michael Key, Jordan Peele, Madeleine McGraw, Christina Hendricks, Keanu Reeves, Ally Maki, Jay Hernandez, Lori Alan, Joan Cusack
Screenplay: Stephany Folsom, Andrew Stanton
Production: Walt Disney Pictures, Pixar Animation Studios
Distributor: Walt Disney Studios Motion Pictures


รีวิว Toy Story 4

หลายๆ คนคงเติบโตมากับ Toy Story ตั้งแต่ภาคแรก บ้างถึงขั้นผูกพันเพราะว่าเป็นอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกๆ ในสมัยนั้นที่สนุกมากๆ ด้วยเรื่องราวที่แปลกใหม่ เนื้อหาเนื้อความน่าสนใจโดยเฉพาะกับเด็กๆ ตัวละครติดตาตรึงใจ ทำให้ Toy Story อยู่ในใจของทุกคนได้ไม่ยากตลอดมาจนกระทั่งภาค 3 ภาคที่หลายคนว่าจบสวยมากๆ เพอร์เฟกต์แล้ว

Toy Story 4 อยู่ดีๆ กลับโผล่ออกมาท่ามกลางเสียงที่แตก บ้างก็ดีใจ บ้างก็เห็นว่าไม่น่าทำ แต่ไหนๆ ในเมื่อดิสนีย์เขาทำออกมาแล้วก็ต้องตามดูกันต่อไปว่าผองเหล่าของเล่นแก๊งวู้ดดี้และบัซจะไปทำอะไรกันอีก

แต่พอได้เข้าไปดูแล้ว นี่มันไม่ใช่ Toy Story แบบที่เราคิด

อ้าว....
อ้าว….

เนื้อเรื่องภาคนี้ไม่ได้ติดตามของเล่นตัวเก่าๆ ทั้งหมดแบบที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่การผจญภัยร่วมมือกันของเหล่าผองเพื่อน แต่เป็นการฉายเดี่ยวของวู้ดดี้ ใช่ครับ ภาคนี้วู้ดดี้บทเยอะสุด เยอะกว่าใครเพื่อน เพราะวู้ดดี้ต้องไปตามหาฟอร์กกี้ที่หนีออกไปจากกลุ่ม เพราะไม่ยอมเชื่อว่าตัวเองเป็นของเล่น คิดว่าตัวเองเป็นขยะ

นอกจากนี้ภาคนี้ยังเป็นการกลับมาของ โบ ปี๊ป ตุ๊กตาเลี้ยงแกะและแกะสามหัวของเธอจากสองภาคแรก แต่กลับมาในแบบสาวแกร่งเพราะทั้งสองต้องอยู่ด้วยตัวเองตลอดมา เธอเป็นตัวละครที่เด่นที่สุดในเรื่อง มากกว่าวู้ดดี้ซะอีก ถึงแม้เวลาบนจอจะออกมาน้อยกว่านิดหน่อย เพราะตัวละครของเธอโดดเด่นกว่าใคร แกร่ง มั่นใจในตัวเอง เด็ดขาด เป็นผู้นำ แต่ก็ยังมีมุมอ่อนโยน รักพวกพ้อง

โบ ปี๊ป ในมาดใหม่
โบ ปี๊ป ในมาดใหม่

ภาคนี้ก็มีของเล่นตัวใหม่ๆ เหมือนกัน แต่ตัวที่เด่นๆ ก็คือแก็บบี้ ตุ๊กตานางร้ายในเรื่อง, ดุ๊ก คาบูม ของเล่นนักกายกรรมมอเตอร์ไซค์ผาดโผนที่ให้เสียงโดย คีอานู รีฟส์, กิ๊กเกิล แมคดิมเบิล, ดั๊กกี้ และบันนี่ นอกจากนั้นก็เป็นแค่ตัวประกอบธรรมดา ตัวเด่นๆ เหล่านี้คือสมาชิกแก๊งใหม่ที่วู้ดดี้กับโบใช้เวลาอยู่ผจญภัยด้วยมากที่สุด ความน่าสนใจก็พอใช้ได้ แต่บทส่วนใหญ่เอามายิงมุขซะมากกว่า

ในเมื่อมีแก๊งใหม่ แก๊งเก่าๆ ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดีอย่างเร็กซ์ มิสเตอร์และมิสซิสโปเตโต้เฮด คุณหมูกระปุกออมสิน สลิงกี้ เจสซี่ และอื่นๆ อีกมากมายกลับกลายเป็นตัวละครสมทบ มีไว้ประกอบบทนิดหน่อย ในขณะที่แก๊งใหม่ไม่ได้น่าสนใจหรือดูแล้วชอบคอมากขนาดนั้น ทำให้มนต์เสน่ห์มิตรภาพของเล่นในภาคนี้ดูจืดสุดๆ ที่สำคัญไม่ได้ร่วมมือกันออกผจญภัยอะไรเลย อยู่กับที่อยู่อย่างเดียว

สิ่งที่น่าเกลียดและให้อภัยไม่ได้เลยมากที่สุดในเรื่องก็คือ บัซ ไลท์เยียร์ รู้สึกเหมือนว่าคนเขียนบทจำอะไรเกี่ยวกับ Toy Story ไม่ได้เลยนอกจากเนื้อเรื่องครึ่งแรกของภาคแรก บัซภาคนี้โดนลดบทกลายเป็นตัวตลก ไม่ใช่คนมีแผนการมีความคิด โดนเปลี่ยนตัวละครเป็นของเล่นที่ไม่มีความลึกตื้นอะไรเลย เหมือนบัซที่เพิ่งออกมาจากกล่องของเล่นในภาคแรกเปี๊ยบ แค่รู้ว่าตัวเองเป็นของเล่นแค่นั้นแหละ

บัซที่กลายเป็นตัวตลก แทบทั้งเรื่อง
บัซที่กลายเป็นตัวตลก แทบทั้งเรื่อง

เปลี่ยนมาที่เรื่องงานเทคนิคสร้างกันบ้าง รีวิว Toy Story 4 ได้สั้นๆ เลยว่างานพากย์ดีมาก เพลงประกอบไพเราะ (ยกเว้นเพลงจบ ส่วนตัวไม่ชอบเลย) เจ๋งสุดคืองานกราฟิก อันนี้ขึ้นชื่อพิกซาร์อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเลย (รู้สึกภาคนี้ได้เห็นมนุษย์เยอะขึ้นมากกว่าภาคอื่นด้วย)

ที่เทพพอๆ กับกราฟิกคืออนิเมชันการเคลื่อนไหว อีกลายเซ็นของพิกซาร์เหมือนกัน แต่ที่ชอบมากก็คือเขาสามารถทำให้ของเล่นดูเป็นของเล่นได้ ตอนอยู่นิ่งต่อหน้าคนก็เป็นของเล่นหน้านิ่งๆ จริงๆ แต่พอกลับมาขยับเคลื่อนไหวแล้วไม่ดูประหลาดหรือแปลกตาเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว เป็นงานผสมผสานระหว่างโมเดลสามมิติและอนิเมชันที่สุดๆ แล้ว

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4
Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของแฟรนไชส์นี้และใน Toy Story 4 ด้วย ก็คือ คอนเซ็ปต์เนื้อเรื่อง ภาคแรกคือของเล่นใหม่ ภาคสองคือของเล่นพัง ภาคสามคือเจ้าของโตเลิกเล่น ภาคนี้ภาคที่สี่มีแกนเรื่องเป็นของเล่นที่ไม่เป็นที่ต้องการ คล้ายๆ กับของภาคสาม แค่ขยายความออกมา

“ซึ้ง” คือรีวิวของบทภาคนี้ เรื่องราวภาคสี่วนเวียนเกี่ยวกับของเล่นที่ไม่มีเด็กเป็นเจ้าของ ไม่มีเด็กต้องการ ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นวู้ดดี้ โบ และของเล่นตัวอื่นๆ โหยหานึกถึงความหลังครั้งยังได้อยู่กับเด็กๆ ช่วงเวลาที่ได้สร้างความสุขและคอยเฝ้าดูเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ได้เห็นความยึดติดกับเป้าหมายของชีวิตการเป็นของเล่น ส่วนตัวที่ยังไม่เคยมีเด็กก็จะได้เห็นความพยายามดิ้นรนจะมีเด็กตลอดเวลา พอคิดตามแล้วก็เศร้าดี โชคดีที่โลกเราของเล่นไม่ได้มีชีวิตจริงๆ ไม่งั้นโลกจะน่าหดหู่กว่านี้เยอะ

Toy Story 4
Toy Story 4

ความพยายามของวู้ดดี้ที่จะทำให้บอนนี่มีความสุขกับความไม่ต้องการเจ้าของของโบทำให้เนื้อเรื่องค่อยๆ เปิดเผยและดำเนินไปจนถึงตอนจบได้อย่างลื่นไหล นี่คือภาคที่ทำมาให้วู้ดดี้กับโบกลับมาพบกันโดยเฉพาะ ถ้าสามภาคแรกคือเรื่องราวของแอนดี้กับแก๊งวู้ดดี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ภาคนี้ก็คือเรื่องราวของวู้ดดี้กับโบตั้งแต่ต้นจนจบ ประหนึ่งเป็นบทสรุปชีวิตความเป็นไปของพระเอกหลังจากที่ชีวิตบรรลุเป้าหมาย หาทางออกในชีวิตในฐานะของเล่น

จังหวะจะโคนความเศร้าหรือหดหู่ของเรื่องนี้มาเป็นพักๆ แบบได้จังหวะดี เหมือนเป็นช่วงพักเบรกจากช่วงอารมณ์ดีที่มีอยู่ตลอดเรื่อง เป็นช่วงคอยเตือนคนดูตลอดว่านี่คือเรื่องราวของวู้ดดี้ เพราะโดยเนื้อแท้แล้วคนดูไม่รู้สึกถึงความผูกพันของของเล่นกับบอนนี่เลย แต่กลับรู้สึกถึงความยึดติดของวู้ดดี้กับแอนดี้ซะมากกว่า ซึ่งหนังก็ไม่ได้คิดซ่อนตรงนี้แต่อย่างใด พอดูไปมันก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นที่วู้ดดี้พูดออกมาเอง เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คนโตมากับ Toy Story ตั้งแต่ภาคแรกได้ยินแล้วโคตรสะเทือนใจ

Toy Story 4
Toy Story 4

นี่เป็นเรื่องราวความเป็นไปต่อจากภาค 3 ที่ถึงแม้จะไม่มีความจำเป็นเลยแต่ก็ไม่ได้เละเทะหรือไร้ค่า ตัวหนังมีแมสเซสหรือข้อคิดให้คนดูออกมาคิดตามนอกโรง หากแต่ว่าน่าเสียดาย นี่ไม่ใช่ Toy Story ที่เราเคยรู้จัก ตัวละครเก่าๆ กลายเป็นตัวประกอบที่ดูแทบจะไม่มีค่า เน้นวงตัวละครแคบเกินไป คือเน้นแต่วู้ดดี้กับโบ ขาดมนต์เสน่ห์แห่งมิตรภาพ ขาดฉากและเหตุการณ์ที่ว้าวติดตาตรึงใจ และด้วยการที่แก๊งของเล่นเก่าๆ แทบไม่ได้ออกเลย ตอนจบจึงขาดอิมแพคที่จะไปต่อกรกับตอนจบสุดแสนเพอร์เฟกต์แบบภาค 3 ได้

นี่คือภาพยนตร์อนิเมชันชั้นเยี่ยม แต่ไม่ใช่ชั้น Toy Story

Toy Story 4
Toy Story 4

เนื้อเรื่อง สปอยล์ Toy Story 4

เรื่องราวเริ่มต้นโดยย้อนเวลากลับไปเมื่อ 9 ปี ที่แล้วสมัยที่แก๊งวู้ดดี้ยังอยู่กับแอนดี้ ตอนนั้นฝนตกลมแรง วู้ดดี้เริ่มต้นพาพรรคพวกไปหาโบเพื่อปฏิบัติการบางอย่าง มีของเล่นหายไป รถแข่งอาร์ซีถูกลืมไว้ที่ร่องน้ำทิ้งในสนามหญ้าข้างบ้าน และกำลังจะถูกน้ำฝนพัดพาหายไป วู้ดดี้ไม่รอช้ารีบร่วมมือกับสลิงกี้โหนตัวลงไปช่วยทันที

พอช่วยและพาอาร์ซีกลับเข้าห้องได้ ก่อนที่วู้ดดี้และสลิงกี้จะได้กลับเข้าห้องหน้าต่างก็โดนปิดลง มีคนเข้ามาเก็บโบและแกะสามหัว (ภาคนี้มีชื่อแล้ว บิลลี่ โกท กรัฟฟ์) ในห้องใส่กล่องไป จะเอาไปขายต่อ

เพราะว่ามอลลี่น้องสาวของแอนดี้ไม่ต้องการของเล่นตัวเองอีกแล้ว

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4
Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4

กล่องถูกนำไปวางไว้ใต้รถ วู้ดดี้รีบกระโดดตามลงไปช่วยทันที เขายังพอมีเวลาเพราะคนขับรถลืมกุญแจไว้ในบ้าน แต่เมื่อเปิดกล่องออกมา โบกับแกะของเธอไม่ยอมกลับไป เธอรู้ตัวและทำใจไว้แล้ว ของเล่นมีหน้าที่ทำให้เด็กมีความสุข และของเล่นที่เจ้าของไม่ต้องการอยู่ไปก็ไร้ความหมาย

วู้ดดี้รู้ซึ้งถึงข้อนี้ดี เขาทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมปล่อยทั้งคู่ไป ทั้งสามบอกลากันก่อนที่คนขับรถจะมาหยิบกล่องใส่รถแล้วขับออกไปจนสุดสายตา แอนดี้ที่กำลังตามหาวู้ดดี้อยู่มาเจอของเล่นสุดโปรดนอนตากฝนอยู่ก็พาเขากลับเข้าบ้านไป จากนั้นหนังก็ให้เราดูแอนดี้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมาจบอยู่ที่ฉากจบภาค 3 ที่เขาส่งต่อแก๊งของเล่นทั้งหมดให้บอนนี่

Toy Story 4
Toy Story 4

หลังจากนั้น 2 ปี แก๊งวู้ดดี้และของเล่นเดิมของบอนนี่กำลังลุ้นอยู่ในตู้เก็บของ พวกเขาไปอยู่ในนั้นเพราะแม่บอนนี่ขึ้นมาเก็บทำความสะอาดห้อง พวกเขาลุ้นกันอยู่ว่าบอนนี่จะขึ้นมาเล่นกับใครหลังอาหารเช้า จนในที่สุดบอนนี่ก็เข้ามาที่ห้อง เธอเปิดตู้หยิบของเล่นออกไปเล่นเกือบหมด ยกเว้นแค่ไม่กี่ตัว รวมทั้งวู้ดดี้ เล่นได้สักพักก็ต้องเลิกเพราะวันนี้เธอต้องไปเตรียมอนุบาลเป็นวันแรก

บอนนี่ไม่หยิบวู้ดดี้ไปเล่นมาสามอาทิตย์ติดต่อกันแล้ว ทุกคนเป็นห่วงวู้ดดี้แต่เจ้าตัวก็ปากแข็งบอกว่าไม่เป็นอะไร วู้ดดี้รู้สึกว่าเขาน่าจะได้ไปโรงเรียนกับบอนนี่ด้วย เธอจะได้ไม่เหงาและมีเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้น สักพักบอนนี่กลับเข้ามาเพราะลืมกระเป๋า แต่เธอร้องไห้เพราะไม่อยากไปโรงเรียน วู้ดดี้ที่ยึดมั่นกับการทำให้เด็กของตัวเองมีความสุขมากๆ จึงตัดสินใจแอบติดกระเป๋าไปด้วย ทั้งๆ ที่โรงเรียนห้ามเอาของเล่นไป

ที่โรงเรียน วันนี้เป็นวิชาศิลปะ บอนนี่นั่งหงอยหลังห้องเข้ากับใครไม่ได้เลยแถมยังโดนเด็กคนอื่นแย่งสีไปอีก วู้ดดี้เห็นท่าไม่ดีจึงแอบไปคุ้ยสีกับขยะในถังขยะมาไว้ให้เธอบนโต๊ะ พอบอนนี่กลับมาเห็นจึงดีใจคิดว่ามีเพื่อนมาช่วย เธอสร้างของเล่นประดิษฐ์มือชิ้นหนึ่งขึ้นมา แล้วตั้งชื่อให้ว่าฟอร์กกี้ และเขามีชีวิตขึ้นมาแล้ว

ฟอร์กกี้
ฟอร์กกี้

ที่บ้าน วูดดี้แนะนำฟอร์กกี้ให้ของเล่นทุกตัวรู้จัก แต่ฟอร์กกี้ไม่ยอมเชื่อว่าตัวเองเป็นของเล่น ตัวเองเกิดมาจากขยะก็คิดว่าตัวเองต้องเป็นขยะ จะกระโดดกลับไปอยู่ในถังขยะอยู่ท่าเดียว เป็นอยู่อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนบอนนี่นอน วู้ดดี้ต้องคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแล โยนฟอร์กกี้กลับออกมาจากถังขยะ เพราะตอนนี้เขาคือของเล่นชิ้นที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบอนนี่ เหมือนกับที่เขาเคยสำคัญที่สุดในหมู่ของเล่นของแอนดี้

เช้าวันรุ่งขึ้นบอนนี่และพ่อแม่เตรียมขับรถ RV ออกเดินทางเที่ยวฉลองผ่านเตรียมอนุบาลก่อนที่จะเริ่งโรงเรียนจริงๆ อาทิตย์หน้า ฟอร์กกี้และแก๊งวู้ดดี้ได้ไปเที่ยวด้วย แต่ตลอดการเดินทางวู้ดดี้ต้องคอยกีดกันและดูแลไม่ให้ฟอร์กกี้กระโดดเข้าหาถังขยะอยู่ตลอดเวลา จนมาคืนหนึ่งขณะที่บอนนี่หลับพร้อมฟอร์กกี้ในมือเธอ บัซเข้ามาถามวู้ดดี้ว่าทำไมต้องดูแลขนาดนี้ วู้ดดี้ตอบได้เพียงว่ามันเป็นเสียงจากข้างในที่สั่งให้เขาทำ มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4
Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4

บัซไม่เข้าใจ และคิดว่าวู้ดดี้หมายถึงเสียงจากกล่องเสียงในตัววู้ดดี้ เหมือนกับเสียงจากปุ่มกดบนหน้าอกของเขา (และการทำลายตัวละครบัซให้กลายเป็นแค่ตัวโจ๊กก็เริ่มต้นขึ้น) รู้ตัวอีกที ฟอร์กกี้หายไปจากมือของบอนนี่แล้ว เขาแอบหนีไปและกระโดดออกนอกหน้าต่างรถที่กำลังวิ่งอยู่บนทางด่วนไปในที่สุด วู้ดดี้จึงนัดกับคนอื่นๆ จะไปเจอกันที่สวนสนุกภายในตอนเช้า แล้วโดดตามลงไปทันที

เขาตามหาฟอร์กกี้จนเจอแล้วก็ลากแขนไปตามเส้นทางด่วน ในเมื่อไม่มีอะไรทำวู้ดดี้ก็พยายามอธิบายให้ฟอร์กกี้เข้าใจว่าฟอร์กกี้ไม่ใช่ขยะ เป็นของเล่น แถมยังเป็นของเล่นที่โชคดีมากๆ ด้วยที่บอนนี่โปรดปรานเขา แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องของแอนดี้ให้ฟัง มีตัดพ้อบ้างว่าโตมาด้วยกันสุดท้ายก็หมดหน้าที่ไปกันคนละทาง คุยกันไม่นานสุดท้ายทั้งคู่ก็สนิทกันและฟอร์กกี้ก็ยอมเข้าใจว่าตัวเองเป็นของเล่นจริงๆ และตอนนี้เขาต้องกลับไปหาบอนนี่แล้ว

Toy Story 4
Toy Story 4

เมื่อมาถึงเมืองที่มีสวนสนุก ขณะกำลังจะถึงรถ วู้ดดี้สังเกตเห็นแสงส่องออกมาจากร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง แสงมันช่างเหมือนกับโคมไฟของโบมาก เขารู้สึกมีหวังจะได้เจอกับเธออีกครั้งจึงพาฟอร์กกี้เข้าไปตามหาเธอ ทั้งคู่ไม่เจอโบ เจอแต่ตุ๊กตาแก็บบี้กับลูกน้องของเธอ เธออ้างว่ารู้จักกับโบเป็นอย่างดีและชวนทั้งสองนั่งรถเข็นชวนคุยไปพลางๆ สถานการณ์ดูมีพิรุธยิ่งขึ้นจนเธอเฉลยว่าเธออยากได้กล่องเสียงในตัววู้ดดี้มาเปลี่ยนกับของเธอที่เสีย

วู้ดดี้กับฟอร์กกี้ต้องหนีเอาตัวรอดจนกระทั่งพลาดท่า ฟอร์กกี้โดนจับตัวไว้ วู้ดดี้ที่กำลังจะโดนจับเหมือนกันเหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใกล้ๆ จึงดึงสายเสียงของตัวเองให้เด็กคนนั้นได้ยินเพื่อเอาตัวรอด เด็กคนนั้นเห็นวู้ดดี้แล้วชอบจึงพาออกไปเล่นด้วย ทิ้งให้ฟอร์กกี้อยู่กับแก็บบี้และสมุน เด็กคนนั้นชื่อฮาร์โมนี่

Toy Story 4
Toy Story 4

ทางด้านพวกบัซเห็นว่าเช้าแล้วทั้งคู่ยังไม่มา บอนนี่ตื่นมาไม่เจอฟอร์กกี้ก็งอแง บัซที่อยู่ดีๆ ก็คิดอะไรเองไม่เป็นจึงกดปุ่มบนหน้าอกฟังเสียงข้างในของตัวเอง แน่นอน เสียงบอกว่าให้บัซออกตามหา เขาจึงรีบกระโดดออกทางหน้าต่างไปตามหาทันที แต่ไปได้ไม่ถึงไหนก็พลาดท่า โดนเจ้าของร้านยิงเป้าตุ๊กตาจับไปเป็นของรางวัลแขวนอยู่ในร้าน ที่นั่นบัซได้เจอกับตุ๊กตาสองตัว ดั๊กกี้และบันนี่ แล้วบัซก็หนีออกมาจากร้านพร้อมกับดั๊กกี้และบันนี่

แก็บบี้ไม่ได้ทำอะไรฟอร์กกี้แต่อย่างใด แถมยังพูดคุยด้วยอย่างดี ที่แก็บบี้ต้องการกล่องเสียงก็เพราะว่าเธอไม่เคยมีเด็กเป็นเจ้าของมาก่อน เธอเสียตั้งแต่แกะกล่อง และเธอก็เห็นฮาร์โมนี่เล่นจิบน้ำชาอยู่ตลอดเวลา ตุ๊กตาจิบน้ำชาอย่างเธอเองเห็นแล้วก็ฝันอยากเป็นของเล่นที่เพอร์เฟกต์ของฮาร์โมนี่ หวังว่าถ้าเธอหายพังสมบูรณ์แบบ ฮาร์โมนี่จะหันมาเล่นเธอแล้วจับจองเป็นเจ้าของ พอเรียกความเห็นใจจากฟอร์กกี้ได้เธอก็หลอกถามเรื่องของวู้ดดี้ ฟอร์กกี้ก็เลยเล่าให้ฟังหมด กระทั่งเรื่องแอนดี้

ทางด้านวู้ดดี้ พอฮาร์โมนี่เผลอเขาก็รีบหนีออกมาจะกลับไปที่ร้านขายของเก่า ในขณะที่ชุลมุนหลบเด็กคนอื่นๆ ในสนามเด็กเล่น โชคชะตาเข้าข้าง เขาได้เจอกับโบอีกครั้ง ทั้งคู่อึ้งจ้องหน้ากันก่อนโบจะพาเข้าพุ่มไม้ข้างทาง โบแนะนำเพื่อนของเธออีกคนให้รู้จัก กิ๊กเกิล แมคดิมเบิล เธอเป็นผู้ช่วยของโบคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในรถมอเตอร์รูปสกังค์ ทำให้พวกเธอสามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4
Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4

ตอนนี้โบเป็นดั่งผู้นำให้กับเหล่าของเล่นที่สูญหายหรือหลงทาง ไม่มีเจ้าของ คอยช่วยเหลือซ่อมแซมของเล่นตัวอื่นๆ ในสวนสนุก วู้ดดี้กับโบเริ่มรำลึกความหลังกันพร้อมเล่าเรื่องของแอนดี้และมอลลี่ให้กิ๊กเกิลฟัง พลางทำโบยิ้มเคลิ้มตามไปด้วย แต่มีความสุขได้ไม่นานก็ต้องเข้าเรื่อง วู้ดดี้ขอให้โบช่วยเรื่องฟอร์กกี้ เมื่อง้อจนสำเร็จโบก็ไม่รอช้า ออกเดินทางทันทีจนไปถึงหลังคาร้านขายของเก่า ที่นั่นบัซเหลือบเห็นพวกเขาพอดีจึงตามขึ้นไปบนหลังคาด้วย

หลังโบกับบัซทักทายกันหายคิดถึงดั๊กกี้และบันนี่ก็ตามมาทันพอดี ทั้งหมดเริ่มวางแผนกันไปช่วยฟอร์กกี้จากที่อยู่ของแก็บบี้ ซึ่งอยู่ในตู้สูงที่มีกระจกรอบด้าน ตู้นี้ไม่สามารถปีนได้เพราะสูงมากและมีแมวของร้านเฝ้าอยู่ ต้องหาทางกระโดดข้ามจากบนชั้นอีกฟากไป ที่รถ RV พ่อแม่บอนนี่ยอมแพ้และเตรียมจะออกรถกลับ แต่ได้เจสซี่ช่วยต่อเวลาไว้ด้วยการไปเจาะยางลมรถ คนแม่เลยต้องพาลูกไปเดินเล่น ส่วนพ่อก็ซ่อมรถไป

Toy Story 4
Toy Story 4

เหมาะเจาะกับจังหวะที่พวกวู้ดดี้กำลังเดินตามแผน บอนนี่เดินเข้ามาในร้าน ทำให้วู้ดดี้เห็นแล้วใจร้อนจะช่วยฟอร์กกี้ ออกนอกแผนจนโดนลูกน้องแก็บบี้จับได้ สาวแกร่งอย่างโบสู้เอาตัวรอดได้แต่แกะของเธอโดนเอาตัวไป (เพียงเพราะงับลูกน้องไม่ยอมปล่อย) เธอโกรธวู้ดดี้มากและเปลี่ยนใจจะทำเพื่อช่วยแกะของเธอแทน ฟอร์กกี้จะเป็นยังไงไม่สน ตอนนี้บอนนี่ออกจากร้านไปแล้ว แต่ว่าลืมกระเป๋าทิ้งไว้

ทางด้านบัซ กิ๊กเกิล ดั๊กกี้ และบันนี่ก็วางแผนว่าจะขโมยกุญแจตู้มาจากเจ้าของร้านได้ยังไง ไม่มีใครคิดแผนออกได้สักที โบพาวู้ดดี้ไปยังสถานที่ลับแห่งหนึ่ง เป็นเหมือนคลับของเหล่าของเล่น เธอไปหา ดุ๊ก คาบูม ของเล่นนักกายกรรมมอเตอร์ไซค์ผาดโผน ของเล่นเพียงชิ้นเดียวที่สามารถพาพวกเธอข้ามฟากจากชั้นไปที่ตู้ได้ เขาเองก็เป็นหนึ่งในของเล่นที่เคยมีเด็กแต่ถูกทิ้ง ทั้งสองกล่อมกันจนดุ๊กยอมช่วย ส่วนพวกบัซก็ได้กุญแจมาพอดี (โชคดี เจ้าของร้านเอามาวางทิ้งไว้ตรงหน้าเป๊ะ ไม่ได้พยายามอะไรเลย)

Toy Story 4
Toy Story 4

ทั้งทีมเตรียมการกระโดดข้ามฟากและก็สำเร็จ โบกับวู้ดดี้ข้ามไปถึงอีกฝั่งโดยคล้องเชือกเอาไว้ดึงกลับยามฉุกเฉิน ทั้งคู่ตามหาฟอร์กกี้จนเจอ แต่หารู้ไม่ว่าแก็บบี้รออยู่แล้ว เธอรู้ว่าโบกับวู้ดดี้ต้องกลับมาช่วยเพื่อนตัวเองแน่นอน พวกบัซเองที่รออยู่ฝั่งตรงข้ามก็โดนลูกน้องล้อมไว้เหมือนกัน โบไม่ยอมง่ายๆ เธอสู้กลับไปชิงแกะคืนมาแล้วเตรียมหนีกลับไปฝั่งตรงข้าม แต่วู้ดดี้ไม่ยอมกลับเพราะยังไม่ได้ตัวฟอร์กกี้

พวกบัซที่ปราบลูกน้องได้แล้วก็ไม่รอช้าดึงเชือกทันที แต่ลูกน้องแก็บบี้ก็จับห่วงกล่องเสียงบนหลังวู้ดดี้ไว้ได้ รั้งกันไปรั้งกันมาจนหลังวู้ดดี้เกือบขาด ซ้ำไม่พอแมวข้างล่างยังมองเห็นกระโดดขึ้นมาจะจับจนพวกโบตกลงไปบนพื้น กิ๊กเกิลโดนแมวกินเข้าไป แกะกระแทกกับขอบชั้นจนมีส่วนแตก บันนี่โดนแมวข่วนขาด สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นจนโบต้องขอให้ดุ๊กขี่มอเตอร์ไซค์พาทุกคนหนี ทิ้งฟอร์กกี้ไว้ข้างหลัง

Toy Story 4
Toy Story 4

ทั้งหมดหนีมาได้ ส่วนแมวที่วิ่งตามมาคายกิ๊กเกิลแล้ววิ่งหนีไป ทุกคนเกือบเอาตัวไม่รอด ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่ายอมแพ้ ได้ทำดีที่สุดแล้วและจำยอมต้องปล่อยฟอร์กกี้ไป วู้ดดี้เป็นคนเดียวที่ไม่ยอมแพ้และเริ่มทะเลาะกับโบ บอกว่าบอนนี่ต้องการฟอร์กกี้มาก เขาคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอตอนนี้ โบด่าวู้ดดี้ว่าแล้วของเล่นตัวอื่นๆ ไม่สำคัญเหรอ ทำไมวู้ดดี้ต้องแคร์กับความรู้สึกของบอนนี่ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่ใช่แอนดี้ เธอไม่เล่นกับวู้ดดี้ด้วยซ้ำ วู้ดดี้ตอบแค่ว่า

“เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ผมเหลืออยู่”

ความในใจของวู้ดดี้
ความในใจของวู้ดดี้

ทุกคนทิ้งวู้ดดี้ไว้แม้กระทั่งบัซ แต่นัดกันไว้ว่าบอนนี่ต้องกลับมาเอากระเป๋าของเธอแน่นอน วู้ดดี้ที่วิ่งกลับเข้าไปในร้านก็เจอพวกแก็บบี้รออยู่แล้ว แก็บบี้เอาเรื่องแอนดี้มาพยายามพูดกล่อมวู้ดดี้ให้ยอมเสียสละกล่องเสียง บอกว่าเธออยากได้โอกาสสัมผัสกับความรู้สึกที่ได้ให้ความสุขแก่เด็กๆ ความรู้สึกที่มีเจ้าของสักครั้งในชีวิต เวลากระชั้นชิดเข้ามาทุกที วู้ดดี้ตัดสินใจยอมแก็บบี้ ขอแค่ปล่อยตัวฟอร์กกี้ไปก็พอ

บัซกลับมาที่รถในจังหวะเดียวกับที่พ่อของบอนนี่เปลี่ยนล้อเสร็จพอดี ทุกคนแตกตื่นว่าทำไมบัซกลับมาคนเดียว พ่อแม่ก็กำลังจะออกรถโดยลืมกระเป๋าทิ้งไว้ บัซต้องแกล้งออกเสียงเตือนเรื่องกระเป๋า ซื้อเวลาไปได้อีกกระเปาะ ทางฝั่งพวกโบเองก็เปลี่ยนใจ กลับไปช่วยวู้ดดี้อีกครั้ง

เหล่าลูกสมุนแก็บบี้
เหล่าลูกสมุนแก็บบี้

การ “ผ่าตัด” ถ่ายโอนกล่องเสียงเสร็จสิ้น แก็บบี้ปล่อยตัววู้ดดี้กับฟอร์กกี้ไป ทั้งคู่จะกลับไปรออยู่ในกระเป๋าของบอนนี่ แต่ฟอร์กกี้เหลือบไปเห็นฮาร์โมนี่นั่งเล่นอยู่ แก๊บบี้เริ่มใช้กล่องเสียงกล่องใหม่ของเธอเรียกความสนใจของเด็กผู้หญิง วู้ดดี้กับฟอร์กกี้กำลังเฝ้ามองช่วงเวลาที่แก็บบี้เฝ้ารอมาทั้งชีวิต ฮาร์โมนีเข้ามาหยิบแก็บบี้ด้วยท่าทีสนใจ คงจะเอาแก็บบี้กลับไปด้วย

แต่ฮาร์โมนีโยนแก็บบี้ทิ้งอย่างไม่ใยดี เธอไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว วู้ดดี้กับฟอร์กกี้ไม่มีเวลาตกใจ ต้องไปอยู่ในกระเป๋าเพราะบอนนี่มาถึงร้านแล้ว แต่ด้วยความเป็นห่วง วู้ดดี้ฝากฝังข้อความหนึ่งซึ่งสำคัญต่อแก็บบี้มากไว้ให้ฟอร์กกี้ไปบอกบัซ

วู้ดดี้ตามไปดูแก็บบี้ เธอนอนตายอดตายอยากอยู่ในกล่อง บอกว่าให้วู้ดดี้เอากล่องเสียงคืนไป เธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว ความหวังของเธอพังทลายลง แต่วู้ดดี้ก็ปลอบใจว่ายังมีเด็กอีกคนชื่อบอนนี่ที่พร้อมจะให้โอกาสกับเธออีกครั้ง อย่ากังวลไป ในเมื่อเด็กคือสิ่งที่เธออยากได้มาตลอดเธอก็ควรลองดูอีกครั้ง โบที่มาถึงพอดีก็ช่วยปลอบ และพาทุกคนกลับไปหาบอนนี่

Toy Story 4
Toy Story 4

ที่รถ RV ฟอร์กกี้มาถึงและบอกว่าวู้ดดี้นัดจุดนัดพบไว้ ว่าให้ไปเจอกันที่ม้าหมุน เจสซี่ออกไอเดียให้ไปป่วนคันเร่งรถกับระบบจีพีเอสซะ ทางด้านพวกวู้ดดี้กับโบรีบเดินทางมายังจุดนัดพบด้วยความช่วยเหลือของดุ๊ก แต่ระหว่างทางแก็บบี้เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้เพราะกำลังหลงทาง เธอคิดว่าเด็กคนนั้นกำลังต้องการใครคนหนึ่ง และเธอรู้สึกว่าเธออาจจะช่วยเด็กคนนั้นได้ และเธอมั่นใจแล้ว

ทุกคนช่วยกันเบี่ยงเบนสายตาของเด็กให้หันไปเจอแก็บบี้ เด็กคนนั้นลองดึงฟังเสียงของเธอแล้วรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที เธอได้เพื่อนแล้ว พอดีกับที่ตำรวจเดินมาพอดีและช่วยหาพ่อแม่จนพบ ความฝันของแก็บบี้เป็นจริง เธอจากทุกคนไปในอ้อมอกของเด็กน้อยที่ต้องการเธอมากที่สุด

ดุ๊กโบยบิน
ดุ๊กโบยบิน

บนหลังคาใกล้ม้าหมุน พวกบัซมาถึงพอดีแล้วเอารถมาจอดชิดกัน วู้ดดี้ร่ำลากับเพื่อนกลุ่มใหม่ แกะสามหัว (บิลลี่ โกท กรัฟฟ์) และโบ ใจของเขาเองไม่อยากจะจากไป แต่ก็ต้องจำยอมเพราะเขาเป็นของเล่นที่มีเจ้าของ หน้าที่ของเขาก็คือทำให้เด็กมีความสุข บัซเดินมารับวู้ดดี้และอำลาโบ ส่วนฟอร์กกี้คอยล็อคประตูรถไว้ ไม่ให้พ่อบอนนี่เข้ามาขับรถ ถ่วงเวลาไว้ บัซเพื่อนรักย่อมเข้าใจเพื่อนเขาดี จึงบอกวู้ดดี้ไปว่า “เธอจะไม่เป็นอะไรหรอก”

“บอนนี่ไม่เป็นอะไรหรอก”

Toy Story 4
Toy Story 4

วู้ดดี้ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทันที เขาไม่ต้องคอยห่วงบอนนี่อีกแล้ว เขาวางใจฝากฝังบอนนี่ให้เพื่อนๆ ดูแลได้ บอนนี่ก็มีฟอร์กกี้แล้ว แก๊งของเล่นกลุ่มเดิมๆ ก็ออกมาทักทายโบที่ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปีและร่ำลาวู้ดดี้ ทุกคนเคารพการตัดสินใจของเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันมานานเป็นสิบปี เพื่อนที่ร่วมผจญภัยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา วันนี้ตอนนี้วู้ดดี้ตัดสินใจจากลาไปใช้ชีวิตในเส้นทางของตัวเองกับโบและเพื่อนกลุ่มใหม่ ทุกคนกอดร่ำลากัน วู้ดดี้มอบดาวนายอำเภอให้เจสซี่ กอดขอบคุณบัซคู่หูเพื่อนสนิทที่สุดของเขา

คนสุดท้ายที่มากอดวู้ดดี้คือฟอร์กกี้ แต่ถ้าฟอร์กกี้มานี่แล้วใครคอยล็อคประตูรถล่ะ ปรากฏว่าไม่มีใครล็อครถ รถกำลังจะออกตัว หมดเวลาร่ำลาแล้ว ต่างฝ่ายต้องกลับไปยังที่ของตัวเอง ฝั่งบัซกลับเข้ารถไป ส่วนวู้ดดี้วิ่งกลับไปบนหลังคากับโบ วู้ดดี้มองรถขับออกไปจนสุดสายตา ส่วนบัซก็มองไปที่สวนสนุกจนไม่เห็นคู่หูตัวเองอีกต่อไป เรกซ์ถามบัซว่าตอนนี้วู้ดดี้ถือเป็นของเล่นที่หลงทางแล้วใช่มั้ย บัซตอบว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน

“สู่ความเวิ้งว้าง” “อันไกลโพ้น”

กล้องแพนขึ้นสู่ดวงจันทร์บนฟ้า คืนนั้นนับเป็นการเริ่มต้นชีวิตครั้งใหม่ของวู้ดดี้

ในฉากระหว่างเครดิต วู้ดดี้ โบ และแก๊งใหม่ช่วยโกงร้านยิงเป้าให้ตุ๊กตาในร้านได้เจ้าของจนเกลี้ยงร้าน ส่วนฝั่งบัซ บอนนี่เข้า ป.1 แล้วและสร้างเพื่อนใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่งคนเหมือนกับฟอร์กกี้ แต่เป็นผู้หญิงชื่อไนฟ์ฟี่ ทำให้ฟอร์กกี้ตกหลุมรักทันที

Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4
Toy Story 4 รีวิว เนื้อเรื่อง สปอยล์ ทอย สตอรี่ 4

Official Site

อ่านรีวิวหนังเรื่องอื่น คลิก

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!