playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Japan Sinks: 2020 ญี่ปุ่นวิปโยค หายนะดราม่าไซไฟแบบให้พลังบวกแก่ชีวิต

สรุป

อนิเมะแนวเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติที่โปรดักชั่นดีเยี่ยม การเล่าเรื่องน่าติดตาม ชวนให้ลุ้นตลอดเวลา งานภาพและดนตรีประกอบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอามากๆ แม้จะมีหลายฉากที่ดูเผาจนน่าตลกไปหน่อย แม้ว่าตัวเรื่องโหดร้าย ตัวละครตายจริง แต่ก็พยายามนำเสนอในมุมบวก

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • โปรดักชั่นดีเยี่ยม งานภาพ เพลงประกอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง
  • การเดินเรื่องที่เดาทางยากมาก ชวนให้ลุ้นชะตากรรมตัวละครตั้งแต่ต้นยันจบ
  • เล่นประเด็นชาวต่างชาติและลูกครึ่งในสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่ค่อยมีเรื่องไหนทำแบบนี้
  • ฉากดราม่าและความสูญเสียในเรื่องมักจะมาแบบไม่ให้ตั้งตัว และฉากสำคัญทำอารมณ์ได้ถึงจริง
  • ถึงเรื่องจะดราม่ามาก แต่เรื่อวราวก็ยังให้กำลังใจฟีลกู้ด ให้พลังบวกเป็นธีมหลัก

Cons

  • งานภาพและโมชั่นมีการเผาหนักช่วงกลางเรื่อง
  • กลางเรื่องมีบทตัวละครที่ไม่จำเป็นแทรกเยอะไปหน่อย และเป็นบทที่ดูลอยออกมาจากภาพรวมของเรื่อง
  • ตอนท้าย ตัวละครหลักกลับมาเจอกันง่ายไปนิด

Japan Sinks 2020 ญี่ปุ่นวิปโยค Netflix ผลงานอนิเมะเรื่องแรกที่ดัดแปลงจากนิยายไซไฟขายดีของโคมัตสึ ซาเคียว ครอบครัวธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่งในญี่ปุ่นต้องเผชิญบททดสอบอันโหดร้ายเมื่อเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงหลายระลอกสร้างหายนะครั้งใหญ่ทั่วหมู่เกาะญี่ปุ่น

 Japan Sinks: 2020 (2020) on IMDb

ตัวอย่าง Japan Sinks 2020 ญี่ปุ่นวิปโยค (Netflix)

สำหรับ Japan Sinks 2020 เริ่มเล่าเรื่องในปี 2020 เมื่อคืนวันอันสงบสุขต้องพังพินาศลง เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบนเกาะญี่ปุ่น ทำให้เมืองโตเกียวล่มสลาย รวมถึงเมืองและเกาะสำคัญในญี่ปุ่นต้องจมลงด้วย แถมการเกิดแผ่นดินไหวก็ทำท่าว่าจะไม่มีการสิ้นสุด มีแต่จะเกิดเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจากอาฟเตอร์ช็อก รวมถึงการระเบิดของภูเขาไฟที่อาจจะทำให้ญี่ปุ่นถึงขั้นต้องล่มสลายลง

Japan Sinks 2020 ตัวละคร

สมาชิกครอบครัวมุโต้ ซึ่งเป็นตัวละครหลักของเรื่อง

อายุมุ

ลูกสาวคนโตของครอบครัว เด็กสาวมัธยมที่เป็นสมาชิกชมรมกรีฑา เธอมีสรีระร่างกายที่ยืดหยุ่นและความคล่องตัว ในมุมหนึ่งเธอเป็นเด็กสาวธรรมดาที่มีทั้งรัก โกรธ หลง แต่ก็เป็นคนใจดีที่เห็นใจคนอ่อนแอด้วย หลังจากเกิดภัยพิบัติเนื่องจากการกระทำบางอย่างของเธอที่ไม่ได้ตั้งใจเอาเลย กลับส่งผลทำให้คนที่เธอรักต้องเสียชีวิต ทำให้เธอโทษตัวเองอย่างหนัก แต่ในที่สุดเธอก็ก้าวข้ามความรู้สึกผิดไปได้

โก

ลูกชายคนเล็กของครอบครัว ชอบเล่นเกมออนไลน์และติดตามโซเชียลมีเดีย ด้วยความเป็นลูกครึ่งจึงชอบฝึกภาษาอังกฤษ เป็นเด็กที่ฉลาดและมีความคิดเกินวัย

มาริ

ภรรยาและแม่ของครอบครัวมุโต้ เป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ นิสัยห้าวหาญไม่แพ้ผู้ชาย ซึ่งดูเหมือนความแข็งแกร่งของเธอจะส่งต่อมาที่อายุมุและโกด้วย

โคอิจิโร่

สามีและพ่อของครอบครัวมุโต้ เป็นชายร่างใหญ่ กล้าหาญ มีทักษะในการเอาชีวิตรอดสูงโดยเฉพาะหลังจากเกิดภัยพิบัติ เป็นที่พึ่งคนสำคัญของครอบครัวในช่วงแรกมาก

นอกจากครอบครัวมุโต้แล้ว ยังมีตัวละครอื่นที่ร่วมเดินทางกับพวกเขาด้วย เช่น

ฮารูโอะ

อดีตสมาชิกชมรมกรีฑา รุ่นพี่ที่อายุมุแอบปลื้มมานาน แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขากลายเป็นเด็กหนุ่มเก็บตัวไป

นานามิ

สาวเพื่อนบ้านของครอบครัวมุโต้ เป็นสาวห้าวที่มีความกล้า ร่าเริง ได้ร่วมทางกับครอบครัวมุโต้ไปด้วย

ไคท์

ยูทูปเบอร์ชื่อดังชาวเอสโตเนียที่อาศัยในญี่ปุ่น เป็นคนที่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยีและทักษะการเอาตัวรอด เขารู้จักกับโกผ่านทางเกมออนไลน์ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวแล้วได้มาพบกับครอบครัวมุโต้ จึงได้ช่วยนำทางไปหาที่ปลอดภัยและได้ร่วมทางกับพวกเขาตั้งแต่นั้น ถือว่าเป็นมันสมองคนสำคัญในการเดินทางเอาตัวรอดของครอบครัวมุโต้

Japan Sinks 2020 รีวิว

สำหรับเนื้อหา จะแบ่งออกเป็นบทย่อย 3 บทหลังที่เห็นได้ชัด ในช่วงแรก ตอน 1-3 เป็นการเปิดตัวละครครอบครัวมุโต้ และสมาชิกที่จะมาร่วมทางเอาตัวรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ รวมถึงการสูญเสียและลาจากคนสำคัญอย่างกะทันหัน ที่เรียกว่าบางฉากเป็นการส่งสัญญาณบอกคนดูเลยว่า เรื่องนี้เจ็บจริงตายจริง และฉากตายพร้อมจะมาอย่างกะทันหันแบบไม่ให้ตั้งตัวด้วย

ช่วงกลาง ตอน 4-6 เป็นบทที่พวกตัวเอกได้มาพบกับเมืองชานซิตี้ ซึ่งเป็นเสมือนที่พักพิงให้กับคนที่สูญเสียบ้านเกิดหรือที่อยู่ของตน แต่ก็แฝงไปด้วยสิ่งที่เป็นเสมือนภาพมายาในแบบกึ่งจริงกึ่งเหนือจริงไปด้วย สำหรับบทนี้ ดูแล้วจะรู้สึกว่าค่อนข้างเป็นการล้อเลียนจิกกัดบรรดาลัทธิต่างๆในญี่ปุ่นไปในตัว

ช่วงท้าย ตอน 7-10 เป็นช่วงที่พวกตัวเอกเดินทางมาถึงท่าเรือเพื่อที่จะออกทะเล แต่การขึ้นเรือไปก็ไม่ได้ง่ายดายนัก เพราะการจะได้ขึ้นเรือจะมีการสุ่มเลือกจากบัตรประชาชน และคัดเลือกเป็นพิเศษจากความสามารถ แล้วยังนำเสนอถึงความเสี่ยงที่วันหนึ่งหากภูเขาไฟฟูจิระเบิดขึ้นมาแล้วมันจะน่ากลัวขนาดไหน

เมื่อดูเนื้อหาในเรื่องจะพบว่าญี่ปุ่นมีอนิเมะพลอตเรื่องแนวหายนะจากธรรมชาติ หรือภัยพิบัติรุนแรงระดับทำลายประเทศโดยเฉพาะเรื่องแผ่นดินไหวอยู่หลายเรื่องมาก่อนแล้ว เพราะแผ่นดินไหวเป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติร้ายแรงอันดับต้นๆที่อยู่ใกล้ตัวสังคมญี่ปุ่น จนถึงระดับชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งคนในประเทศไทยหรือในประเทศที่ไม่ได้คุ้นเคยกับแผ่นดินไหวอาจจะไม่อินเท่าไหร่

สำหรับพลอตตั้งต้นของเรื่องนี้ก็ไม่ได้แตกต่างมากนัก แต่ที่เรื่องนี้สร้างออกมาได้ดีมากก็คือ ลายเส้นและบรรยากาศของเรื่องที่เข้ากันมากๆ ลายเส้นของเรื่องมีเอกลักษณ์ในระดับสูง แม้ว่าดูผิวเผินแล้วจะเหมือนงานเผา แต่ก็เป็นงานเผาภาพที่มีสไตล์ หรือเรียกว่าจงใจทำให้มันเป็นแบบนั้น ซึ่งก็ดูจะเข้ากับบรรยากาศของเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกไม่มั่นคง ไม่น่าไว้ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับชะตากรรมของตัวละคร

จุดนี้อาจจะเล่นกับความกลัวอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจลึกๆของคนญี่ปุ่นก็ว่าได้ เพราะเกาะญี่ปุ่นอยู่บนรอยแยกสำคัญที่มีโอกาสเจอแผ่นดินไหวรุนแรงตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะมีนักวิชาการชี้ว่าตามทฤษฎีแล้ว เกาะญี่ปุ่นคงจะไม่จมลงแน่นอนก็ตาม แต่ความกลัวว่าเกาะญี่ปุ่นจะพบหายนะจนประเทศต้องพังพินาศ ไปจนถึงชีวิตและความตายที่ต่างกันอยู่แค่เส้นบางๆก็คงมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่นอยู่ดี แล้วเอาเข้าจริงก็ไม่ได้มีแต่เรื่องนี้ มีอนิเมะหลายเรื่องที่เคยนำเสนอประเด็นนี้มาก่อนเหมือนกัน แสดงว่าคนญี่ปุ่นส่วนมากมีความหวาดกลัวในประเด็นนี้อยู่ในส่วนลึกไม่น้อย

จุดแข็งมากอันดับต้นๆของเรื่องคือ การเลือกใช้เพลงประกอบที่ไม่ได้ทำให้เรื่องดูหดหู่ตลอดเวลา แต่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ในเชิงบวกและลบจนปนเปกัน แม้แต่บรรดาฉากการสูญเสียของตัวละครที่สุดดราม่าก็เลือกใช้เพลงประกอบที่มีสไตล์อย่างน่าเหลือเชื่อได้

ด้านดราม่าความสูญเสียในเรื่องนี้ ก็ถือว่าเป็นจุดแข็งของเรื่องที่คนดูคาดเดาอะไรไม่ได้เอาเลย เนื่องจากเรื่องนี้ตัวละครต่างก็ เจ็บจริง ตายจริง แล้วในเวลาที่จะเข้าสู่ความตายมันก็ไม่ได้มีสัญญาณเตือนอะไรทั้งสิ้น บทตัวละครจะตาย ก็คือตาย แล้วบทตัวละครจะฆ่าก็คือฆ่าด้วย แม้ว่าเปิดเรื่องมาบางตัวละครจะดูสำคัญขนาดไหนก็ตาม ซึ่งก็ตรงกับสถานการณ์แผ่นดินไหวและความหายนะในเรื่องด้วย 

แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้นำเสนอในแง่ความดราม่าฟูมฟาย ตัวละครเจอความสูญเสียกะทันหัน จนไม่มีเวลาที่จะได้เศร้าเสียใจ หรือร้องไห้ มีแต่ต้องลุกขึ้นสู้ เดินหน้าเพื่อเอาตัวรอด เป็นการนำเสนอเรื่องราวในแง่บวกและให้กำลังใจพอสมควร นอกจากนี้ยังสอดแทรกความรู้ในการเอาชีวิตรอดภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเอาไว้ด้วย ที่สำคัญคือเป็นการประยุกต์ความรู้ในแบบสมัยเก่า ภูมิปัญญาชาวบ้าน มารวมกับความรู้แบบสมัยใหม่ที่เด็กรุ่นใหม่ได้จากอินเทอร์เน็ตหรือเกมออนไลน์ได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะโกซึ่งเสมือนเป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ คือเรียกว่าพวกตัวเอกตัดสินใจเอาตัวรอดบางตอนมาได้เพราะความรู้จากเกมออนไลน์นี่เอง เพียงแต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้เน้นมุมความรู้ด้านเอาชีวิตรอดมากนัก เพราะจะไปเน้นที่อารมณ์และสภาวะของตัวละครที่ยังยิ้มสู้อยู่ได้ภายใต้สถานการณ์เลวร้ายมากกว่า

มีจุดเด่นอีกอย่างของเรื่องก็คือการรวมคนจากหลากหลายเชื้อชาติมาไว้ในเรื่องราวกับจงใจ เช่นตัวละครหลักในเรื่องอย่างครอบครัวมุโต้ ตัวแม่คือมาริก็เป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์ ทำให้นางเอกอย่างอายุมุและโกเป็นลูกครึ่ง (โกจะมีบทพูดภาษาอังกฤษแทรกตลอดเวลา) รวมถึงตัวเอกชายอีกคนอย่างไคท์ก็เป็นชาวเอสโตเนียและในเรื่องยังมีตัวละครจากชาติอื่นๆอีก เช่น แดเนียล ชาวยูโกสลาเวีย อนิเมะเรื่องนี้จึงเสมือนเป็นการรวมผู้คนในแง่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ แถมยังจงใจเลือกจากชาติที่ล่มสลายหรือประเทศแตกแยกเป็นเสี่ยงๆด้วย 

ตัวเรื่องยังมีการเล่นประเด็นชาตินิยมญี่ปุ่นจ๋าสุดโต่ง การเหยียดชาติพันธุ์ของคนญี่ปุ่น ที่ยังมีอยู่จริงๆ การกีดกันคนต่างชาติ (ไคจิน) ที่เป็นคนนอก และการมองว่าตนเองเป็นชาติพันธุ์บริสุทธ์ ซึ่งเรื่องนี้ก็เล่นได้เจ็บแสบดีด้วย 

แต่จุดด้อยก็มีเหมือนกันโดยเฉพาะในด้านของลายเส้นที่แม้ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ แต่บทในช่วงกลางเรื่องค่อนข้างจะมีงานภาพที่เผาหนักเอามากๆ รวมถึงงานโมชั่นเคลื่อนไหวที่ช่วงแรกแม้ว่าจะทำได้ดี แต่ช่วงกลางเรื่องทำได้แข็งสุดๆจนน่าตลก ส่วนในบทสุดท้ายจะเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง

และอีกจุดด้อยก็คือ บทช่วงกลางที่คนดูอาจจะรู้สึกแปลกๆประมาณว่าหลายคนดูแล้วอาจจะสงสัยว่าบทนี้จะมีไปเพื่ออะไร แถมยังพาเรื่องออกไปแนวพลังพิเศษด้วย เลยอาจจะทำให้รู้สึกว่าบทกลางของเรื่องดูขัดแย้งและโดดจากภาพรวมทั้งหมดของเรื่องที่เน้นความสมจริง แต่ถ้าจะมองว่า นี่แหละคือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจริงๆกับผู้คนหากต้องเผชิญช่วงเวลาที่สังคมล่มสลาย ผู้คนไร้สิ่งยึดถือ ไม่น่าแปลกว่าทำไมลัทธิแปลกๆถึงมีผู้คนพร้อมเชื่อถือ

ในภาพรวมแล้ว เป็นอนิเมะแนวเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติที่มีโปรดักชั่นดีเยี่ยม การเล่าเรื่องน่าติดตาม ชวนให้ลุ้นตลอดเวลา มีงานภาพและดนตรีประกอบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอามากๆ แม้จะมีหลายฉากที่ดูเผาจนน่าตลกไปหน่อย แต่ถ้าจะมองว่าเป็นการเผาจนกลายเป็นความอาร์ตในแบบหนึ่งก็ว่าได้เหมือนกัน

ส่วนที่ชอบมากของเรื่องคือ แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติต้ายแรงระดับสิ้นประเทศขนาดไหน แต่ตัวละครหลักในเรื่องยังลุกกลับมาสู้ใหม่ และไม่เลิกที่จะพูดคุยเรื่องอนาคตหรือสิ่งที่อยากจะทำต่อ โดยเฉพาะบทดราม่าสำคัญในตอนท้ายเรื่อง ถ้าใครดูมาถึงตอนนี้ อาจจะเสียน้ำตาเลยก็ได้กับความยิ่งใหญ่ของครอบครัว อีกทั้งถึงฉากนั้นจะดราม่าขนาดไหน เพลงประกอบและตัวละครก็ยังคงนำเสนอเรื่องราวในแบบให้กำลังใจอยู่จนหยดสุดท้าย

เรื่องนี้มีพากย์ไทย ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มที่พากย์ได้ดี ดังนั้นคนที่ไม่ถนัดสามารถเปิดดูแทนพากย์ญี่ปุ่นได้สบาย

รวมรีวิวอนิเมะ Original Netflix คลิกที่นี่

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://www.imdb.com/title/tt12031040/?ref_=ttfc_fc_tt

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!