playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Phenomena ก็อปปี้ไอเดียคอนเซ็ปต์ The Conjuring แต่ก็ทำได้ดีในแบบของตัวเองเช่นกัน (ไม่สปอยล์)

Phenomena

Summary

หนังผีที่แม้จะลอกไอเดียคอนเซ็ปต์จาก The Conjuring มาเต็มๆ แต่ก็มองข้ามได้ เพราะมีแนวทางการดำเนินเรื่องในแบบของตัวเองที่แตกต่างออกไป แม้จะดูน่าเบื่อกับช่วงบทสนทนาผู้หญิง 3 คนจิกกัดนินทากันเองที่ใส่มาค่อนข้างเยอะพอสมควร จนทำให้เนื้อเรื่องช่วงแรกดูติดตลกไม่จริงจัง แต่เมื่อถึงฉากผีหลอกก็ทำออกมาได้ระทึกสยองขวัญค่อนข้างดี และฉากผีหลอกยังยาวต่อเนื่องจุใจ ถึงยังใช้ฉากผีหลอกแบบเดิมๆ ทั่วไป แต่ก็มีความสนุกตอบโจทย์คอหนังผีได้ในระดับน่าพอใจครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังผีอ้างอิงจากเรื่องจริง
  • ตัวละครหลักเป็นผู้หญิงวัยกลางคน
  • ฉากผีหลอกทำได้ดี และยาวต่อเนื่อง
  • ระบบเสียงรอบทิศทางทำได้ดี
  • มีวางเนื้อเรื่องไว้ทำภาคต่อ

Cons

  • เสียเวลาไปกับบทสนทนาจิกกัดผู้หญิงเยอะ
  • ยังใช้ฉากผีหลอกแบบเดิมๆ ทั่วไป

Phenomena ฟีโนมีนา หนังผีจาก Netflix สเปน เรื่องราวของ หญิงวัยกลางคน 3 คนที่รับหน้าที่สืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ พวกเธอต้องถูกทดสอบเมื่อหลวงพ่อ พิลลอน ผู้นำของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายจากผีร้าย โดยได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง
Phenomena (2023) on IMDb

 

รีวิว Phenomena (ฟีโนมีนา)

หนังผีที่ลอกสูตรสำเร็จของ The Conjuring มาตรงๆ โดยใช้เรื่องราวของกลุ่ม Hepta ที่ก่อตั้งขึ้นมาในยุค 90 เพื่อสืบสวนเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ โดยบาทหลวงและกลุ่มสาววัยกลางคนที่ต่างคนมีสกิลแตกต่างกันอย่าง คนทรงสื่อวิญญาณ ช่างเทคนิคถ่ายวิดีโอ สื่อสารมวลชน รวมถึงเด็กฝึกงานที่ทำหน้าที่ด้านฟิสิกส์ใช้เครื่องมือตรวจจับผีแบบย้อนยุค ซึ่งเนื้อเรื่องก็หยิบเอาเหตุการณ์สำคัญของกลุ่มแล้วนำมาดัดแปลงเป็นหนังผีที่เสริมเติมแต่งให้เป็นเรื่องราวการปราบผีร้ายที่สุดตนหนึ่ง และก็วางเรื่องราวไว้ขยายต่อเป็นจักรวาลแบบเดียวกับ The Conjuring ไม่มีผิดเพี้ยน

แต่ถึงไอเดียของเรื่องจะก็อปปี้  The Conjuring มาจริงๆ แบบปฏิเสธไม่ได้ แต่เนื้อหาในเรื่องก็ยังหาทางเล่าให้มีความน่าสนใจได้แตกต่าง โดยการเซ็ตคาแรกเตอร์ตัวหลักเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีเรื่องราวชีวิต การทำงาน และปมบางอย่างทำให้ทั้ง 3 ต้องเกี่ยวข้องกัน แบบแยกจากขาดกันไม่ได้ และด้วยความที่เป็นหนังผู้หญิงเป็นตัวเอกล้วน ตัวเรื่องก็มีฉากพูดคุยจิกกัดกันเองตามประสาผู้หญิงค่อนข้างเยอะ ให้อารมณ์แนวตลกเสียดสีที่ดูไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศหนังผี ที่ต้องการความน่ากลัวจริงจังเป็นหลัก และส่วนนี้เป็นช่วงก่อนเจอผีที่ใส่มาค่อนข้างเยอะในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก จนแทบทำให้ผู้ชมอาจจะเข้าใจผิด ปิดหนังทิ้งไม่ดูต่อก็ได้ 

แต่เมื่อถึงช่วงผีปรากฎตัวในครึ่งชั่วโมงหลังไป หนังเปลี่ยนอารมณ์มาเป็นหนังผีจริงจังในทันที และก็ใส่ฉากผีหลอก ผีสิงร่าง ปรากฎการณ์ Poltergeist ประเคนเข้ามาอย่างเต็มเหนี่ยวต่อเนื่องจุใจ แม้จะไม่ถึงกลับมีฉากผีหลอกที่แปลกใหม่ แต่ก็ความน่ากลัวในระดับที่ใช้ได้เลย รวมถึงเสียงประกอบรอบทิศทางของเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดี ช่วยส่งอารมณ์น่ากลัวเพิ่มขึ้นไปอีก 

และที่แตกต่างจาก The Conjuring ก็คือ เนื้อเรื่องไม่ได้มีแค่ผีหลอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคดีอื่นแทรกคั่นระหว่างทางไล่ผี เป็นคดีอาชญากรรม ความรุนแรงในครอบครัว เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเหมือนช่วงคั่นเวลาก่อนถึงฉากไคลแม็กซ์ แต่ก็ทำออกมาได้ระทึกน่ากลัว และก็มีเหตุผลแรงจูงใจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์หลักที่จะเกิดต่อไปในไคลแม็กซ์ของเรื่องอีกด้วย

ในช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องหนังจัดเต็มมากกับช่วงผีร้ายสิงร่าง แล้วก็เป็นฉากผีหลอกที่เชื่อมโยงกับปมความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก ที่เป็นพล็อตรองมีเกริ่นไว้นิดหน่อย ก่อนนำมาใช้ในสถานการณ์สุดท้ายได้ค่อนข้างดี ทำให้ตัวเรื่องดูลึก เพิ่มมิติของความสัมพันธ์ตัวละครในเรื่องมากขึ้น และยังช่วยคลายปมในใจของตัวละครหลักที่ทิ้งค้างไว้ เป็นการเปิดทางต่อยอดไปยังภาคต่อไปได้อีก (หนังจบแบบมีฉากเอนด์เครดิตทิ้งไว้ทำต่อด้วย)

โดยรวมเป็นหนังผีที่แม้จะลอกไอเดียคอนเซ็ปต์จาก The Conjuring มาเต็มๆ แต่ก็มองข้ามได้ เพราะมีแนวทางการดำเนินเรื่องในแบบของตัวเองที่แตกต่างออกไป แม้จะดูน่าเบื่อกับช่วงบทสนทนาผู้หญิง 3 คนจิกกัดนินทากันเองที่ใส่มาค่อนข้างเยอะพอสมควร จนทำให้เนื้อเรื่องช่วงแรกดูติดตลกไม่จริงจัง แต่เมื่อถึงฉากผีหลอกก็ทำออกมาได้ระทึกสยองขวัญค่อนข้างดี และฉากผีหลอกยังยาวต่อเนื่องจุใจ ถึงยังใช้ฉากผีหลอกแบบเดิมๆ ทั่วไป แต่ก็มีความสนุกตอบโจทย์คอหนังผีได้ในระดับน่าพอใจครับ


Including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!