รีวิว Ginny & Georgia SS3 (Netflix) สนุกเข้มข้นกับปัญหาดราม่าที่เข้มข้นระดับประเทศแล้ว!

Ginny & Georgia SS3
Summary
ซีรีส์ชุดนี้ยังคงความสนุกและจุดด้อยไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าจุดด้อยของซีรีส์ในช่วงวัยรุ่นคงต้องมองข้ามไปสำหรับแฟนๆ ที่ไม่อินกับปัญหาการใช้ชีวิตวัยรุ่นในอเมริกา แต่ส่วนของตัวละครผู้ใหญ่จอร์เจียกับปัญหาระดับประเทศที่เรื่องบ่มเพาะไว้นานถึง 2 ซีซั่นจนมาหนองแตกเอาตอนนี้ ซีรีส์ทำออกมาได้สนุกมากๆ เข้มข้นตอกย้ำถึงชะตากรรมที่เธอต้องเจอแบบไม่มีปราณีกันเลย โดยที่เรื่องความรักหลายเส้าที่บ่มกันมานานเช่นกันก็แตกโพละตามๆ กันมาเลย ซีซั่นนี้ไม่มีกั๊กเรื่องตรงนี้ไว้อีกแล้วว่าใครเป็นพระเอกตัวจริง รวมถึงปัญหาที่จอร์เจียปิดบังไว้ทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาเกลี้ยง ซึ่งยากจะเคลียร์ได้ แต่ซีรีส์ก็หาทางจบมันลงได้อย่างง่ายๆ แต่ก็ลงตัว โดยที่การจบตรงนี้ก็ได้สร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าขึ้นมาในครอบครัวนี้ต่อไป ซึ่งซีรีส์ได้ไฟเขียวทำต่อเนื่องตั้งแต่แรก ก็หวังว่าจะได้ดูต่อกันเร็วๆ เพราะคุณภาพมาตรฐานบทของเรื่องนี้ยังไม่มีตกลงเลยครับ
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- ยังคงสนุกได้มาตรฐานเดิมไม่มีเปลี่ยน
- ปัญหาของจอร์เจียถูกเปิดเผยหมดแล้ว
- จินนี่กำลังเดินตามรอยจอร์เจียแบบชัดเจน
- มีพากย์ไทย
Cons
- ปัญหาช่วงวัยรุ่นยังดูง้องแง้งแบบเดิม
ADBRO
Ginny & Georgia SS3 ซีรีส์ดราม่า Original Netflix 10 ตอนจบ เรื่องราวของครอบครัวที่แม่เป็นฆาตกรต่อเนื่องเจ้าเสน่ห์ที่ถูกเปิดโปงในที่สุด พวกลูกๆ จะรับมือกันมันยังไง และตัวเธอจะก้าวข้ามอดีตนี้ไปได้ยังไงถ้าต้องถูกตัดสินจำคุก
รีวิว Ginny & Georgia ซีรีส์ม้ามืดที่ปั่นรวมหลายแนวเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว (ไม่มีสปอยล์)
รีวิว Ginny & Georgia SS2 ซีรีส์ดราม่าโรแมนติกอาชญากรรมที่ยังคงมาตรฐานเดิมไว้ทุกจุด
รีวิว Ginny & Georgia SS3 ไม่สปอยล์
ซีซั่น 3 ที่เว้นช่วงจาก 2 นานถึง 2 ปีครึ่ง ทั้งๆ ที่เป็นซีรีส์แนวดราม่าล้วนๆ ถ่ายวันกันอยู่ในโลเกชั่นเดียวไม่กี่ฉากด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะซีรีส์เรื่องนี้เน้นบทที่ละเอียดลึกใส่ใจมากๆ กว่าจะเปิดกล้องได้ก็ปีกว่าเลย อีกทั้งซีรีส์ได้รับไฟเขียวทำ 3 กับ 4 ต่อกันเลย นั่นคือการวางเขียนบทต่อเนื่องไปถึงซีซั่นต่อไปเลย ซึ่งไม่ง่ายนักโดยเฉพาะเน็ตฟลิกซ์เจ้าแห่งการแคนเซิลซีรีส์ด้วย นั่นก็เพราะเรื่องนี้มีของดีจริง และด้วยตัวละครที่เป็นเด็กวัยรุ่นอายุน้อยจำนวนมากด้วย การทิ้งเรื่องนานอาจจะมีปัญหาได้แบบสเตรนเจอร์ธิงที่ต้องยอมปรับบทเลื่อนเวลาในซีซั่นสุดท้ายออกไปให้พอเหมาะสมกับอายุนักแสดงเลย
ด้วยความที่เนื้อเรื่องภาคนี้เวลาต่อกันทันทีจากตอนจบซีซั่น 2 ปัญหาเรื่องการเติบโตของนักแสดงก็มีผลอยู่บ้าง โดยรวมตัวนักแสดงในเรื่องนี้แทบทุกคนยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงให้เห็นมากพอจนรู้สึกสะดุด มีแค่ออสตินน้องของจินนี่เท่านั้นที่โตขึ้นแบบเห็นได้ชัดว่าเป็นหนุ่มน้อยมากกว่าเด็กเล็ก ซึ่งผู้ชมคงสะดุดทุกคนแน่นอน รวมถึงนักแสดงรุ่นเด็กจอร์เจียไม่เปลี่ยนแปลง (Nikki Roumel นักแสดงตัวจริงอายุ 25 ปี) แต่สำหรับจินนี่ที่ยังใช้นักแสดงเดิมอยู่กลายเป็นคนละคนเลย โตกับอ้วนขึ้นมากจนแทบไม่เหมือนตอนปัจจุบันเลย ออสตินรุ่นนี้ก็เปลี่ยนแปลงเยอะ แต่บทน้อยก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร เหมือนผู้สร้างก็คงรู้ปัญหานี้จึงทำให้บทรุ่นนี้น้อยลงมากจนเหลือแค่ฉากจอร์เจียทำอาชญากรรมสมัยก่อนเพิ่มเท่านั้น แต่มันก็เป็นแค่ส่วนเสริมที่ไม่ต้องมีก็เข้าใจกันได้อยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มน้ำหนักว่าเธอเป็นอาชญากรตัวแม่ที่ใช้เสน่ห์เฉพาะตัวตั้งแต่เด็กจริงๆ และคาดว่าซีซั่นหน้าบทคงแทบไม่มีแล้วเพราะหมดเรื่องจะเล่าแล้วครับ
ซีรีส์เริ่มเล่าเรื่องต่อกันโดยตอนท้ายที่จอร์เจียโดนจับคือวันหยุด ส-อ ทำให้โดนจับขังฟรีไม่มีทนายมา ศาลก็หยุด ซีรีส์ทำให้เห็นว่าจอร์เจียก็ยังเป็นคนเดิมที่แว้ดๆ กับทุกอย่างที่ไม่พอใจในแบบของตัวเอง แต่หลังจากนั้นซีรีส์ก็จะพาไปพบกับสภาพที่เธอถูกจำกัดบริเวณด้วยกำไล EM แล้วทั้งซีซั่นนี้คือการพิจารณาคดีของเธอล้วนๆ ซึ่งแน่นอนว่าฉากของจอร์เจียซีซั่นนี้จะไม่ไปไหนไกลเกินเขตบ้าน ซึ่งคนเขียนบทเรื่องนี้ก็เก่งมากที่ยังสามารถพาให้คนดูสนุก ลุ้น เครียด ตลก และตามติดเสน่ห์ของตัวเธอได้ไม่เปลี่ยน ด้วยการให้เธอเป็นจอมเสือกเพื่อนบ้านเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนมาเป็นกล้องส่องทางไกล พร้อมกับการที่ต้องเจอฝูงนักข่าวดักรอหน้าบ้านทุกวันจนทำให้แค่ออกมาหน้าบ้านยังไม่ได้ ซึ่งซีรีส์ก็ยังหาทางทำให้เรื่องเดิมๆ พวกนี้เป็นฉากที่สนุกแล้วก็ส่งผลกับตัวละครอื่นๆ ได้อย่างไม่ตกหล่นอารมณ์เดิมๆ ที่แฟนเรื่องนี้ต้องยังชอบเธออยู่แน่นอน
ส่วนฉากในศาลที่คิดว่าจอร์เจียจะได้แสดงความสามารถพิเศษในการพูดโน้มน้าวใจ ซีรีส์กลับเลือกไม่ให้มีบทตรงนี้เลย นั่นอาจจะเพราะต้องการยืนตามหลักการสู้คดีจริงๆ ว่าถ้าตกเป็นฆาตกรเองทนายมักไม่ให้พูดเพื่อกันผิดพลาด เรื่องก็เลยเหลือแค่เธใช้ชุดทำให้สะดุดตา แต่ฉากสู้คดีใช้พวกพยานออกมาบอกเล่ากับการงัดข้อของทนายมากกว่า ซึ่งก็ไม่ค่อยเข้มข้นมาก เพราะเรื่องมีบทสรุปที่ล็อคไว้อยู่แล้วทำให้ตอนจบของเรื่องคือปิดจบง่ายๆ แต่ไม่สมบูรณ์แบบ แล้วก็ส่งผลกระทบไปต่อยังซีซั่นต่อไปครับ
///มีสปอยล์////
สิ่งที่ลุ้นสนุกมากในภาคนี้คือความรักของจอร์เจียจะเป็นยังไงต่อไป พอลจะยังมั่นคงอยู่ไหม ซีรีส์ก็ใช้เวลาบ่มเพาะเรื่องราวนี้นานอยู่ ใน 4 ตอนแรกดูไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย น้ำเยอะมากกับการแก้ปัญหาการเมืองให้พอลที่กำลังย่ำแย่ แต่พอท้ายตอน 4 ต่อไป 5 เรื่องพลิกกลับมาเข้มข้นขึ้นทันที เมื่อเปิดสู้คดีวันแรกด้วยพยานที่เป็นนักสืบที่เปิดฉากด้วยการกล่าวหาว่า จอร์เจียคือ ‘ฆาตกรต่อเนื่อง’ ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างพลิกกลับตาลปัตรหมด เพราะถึงผู้ชมจะรู้ตั้งแต่ตอนแรกของซีซั่น 1 ว่าเธอเป็นจริงๆ แต่ตัวละครอื่นในเรื่องนี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอมีสามีที่ถูกฆ่ากับสูญหายไป เรื่องจึงกลายเป็นเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ลงทันที ครอบครัวนี้กลายเป็นเรื่องระดับประเทศที่ทุกสำนักข่าวติดตาม ซึ่งเรื่องบีบเค้นหนักกับปมนี้จนแทบหาทางออกไม่ได้เลย และก็ทำให้ความรักของผู้ชายแทบทุกคนที่ชอบจอร์เจียเปลี่ยนไป ซีรีส์สนุกเมามันส์กับการขยี้จอร์เจียให้หมดสิ้นทุกอย่าง ก่อนที่จะส่งพระเอกตัวจริงที่รอมานานกลับเข้ามาในชีวิตของเธอ ซึ่งก็คือโจ ต้องยอมรับว่าคนเขียนบทเก่งที่วางบทโจไว้ถึง 2 ซีซั่นก่อนเอามาใช้พิสูจน์ความรักกับเธอในช่วงนี้ได้อย่างลงตัวกับทั้งนิสัยของโจเองที่ไม่ชอบตัดสินใคร มีความรักให้จอร์เจียมานานตั้งแต่เจอครั้งแรก ซีรีส์วางสเต็ปการไต่ระดับความรักของทั้งคู่ให้ได้ลุ้นกันตลอดแบบจะจูบตอนไหน ก้าวข้ามเส้นแบ่งสักทีเถอะ ซึ่งทั้งคู่ไม่มีกั๊กกันอีกแล้วว่าใครคิดยังไง และประวัติของจอร์เจียมีผลอะไรกับเรื่องนี้ไหม ซึ่งซีรีส์ใช้เวลาค่อยๆ วางบททีละระดับจนไปถึงจุดที่ตอนท้ายผู้ชมได้กรี๊ดกันแน่นอนครับ!
////////
ส่วนของจินนี่ก็ต้องบอกเลยว่ายังดูน่ารำคาญไม่เปลี่ยนไปจากซีซั่น 1-2 เนื้อเรื่องวนเวียนกับแก๊งเพื่อนสาวของเธอ ซึ่งแม้จะเข้าใจว่าซีรีส์เรื่องนี้พยายามขยายขอบเขตของการเล่าเรื่องในช่วง 2 วัยให้ครบทุกมิติ จึงมีบทดราม่าปัญหาของเพื่อนเธอเพิ่มมาอีก อย่างสาวที่กลัวอ้วนเลยกินแล้วก็ล้วงคอให้อ๊วก ปัญหาความรักในเพศเดียวกันที่พึ่งมาเผย ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้สนุกแล้วก็ซ้ำซากกับซีรีส์วัยรุ่นเรื่องอื่นๆ ไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็มีหนึ่งอย่างที่ทำได้ดีคือซีรีส์พยายามทำให้เห็นว่าจินนี่กำลังกลายเป็นจอร์เจียในอดีตอย่างน่าตกใจ แม้แต่เรื่องการที่เธอทำผิดพลาดทุกอย่างจินนี่ก็ทำพลาดซ้ำโดยไม่รู้ตัว แต่คราวนี้คือมีแม่ที่คอยช่วยจริงๆ ไม่เหมือนจอร์เจียในวัยนั้นที่ขาดที่พึ่งโดดเดี่ยวจนทำให้เกิดปัญหาการเอาตัวรอดโดยการก่ออาชญากรรมขึ้นมาครับ
ซีรีส์มีเพิ่มน้ำหนักให้กับเพื่อนบ้านของจอร์เจียมากขึ้น โดยโฟกัสไปที่ปัญหาของมาคัสแฟนของจินนี่ที่เป็นโรคซึมเศร้า ซีรีส์ใส่ใจตัวละครนี้มากจนแทบจะแยกออกเป็นปัญหาใหญ่ของเรื่อง เมื่อมาร์คัสนอกจากจะป่วยซึมเศร้าแล้วก็ยังเป็นโรคติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่เด็ก ซึ่งนี่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศอเมริกาเอง เหมือนผู้สร้างพยายามจะใช้เรื่องราวในซีรีส์บอกเล่าปัญหานี้ที่พ่อแม่เองก็ไม่ยอมรับไม่อยากส่งลูกไปบำบัด จนทำให้เรื่องคาราคาซังไว้ ซึ่งน่าจะเป็นปมปัญหาใหญ่ต่อไปถึงซีซั่นหน้าครับ
สรุปโดยรวม
ซีรีส์ชุดนี้ยังคงความสนุกและจุดด้อยไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าจุดด้อยของซีรีส์ในช่วงวัยรุ่นคงต้องมองข้ามไปสำหรับแฟนๆ ที่ไม่อินกับปัญหาการใช้ชีวิตวัยรุ่นในอเมริกา แต่ส่วนของตัวละครผู้ใหญ่จอร์เจียกับปัญหาระดับประเทศที่เรื่องบ่มเพาะไว้นานถึง 2 ซีซั่นจนมาหนองแตกเอาตอนนี้ ซีรีส์ทำออกมาได้สนุกมากๆ เข้มข้นตอกย้ำถึงชะตากรรมที่เธอต้องเจอแบบไม่มีปราณีกันเลย โดยที่เรื่องความรักหลายเส้าที่บ่มกันมานานเช่นกันก็แตกโพละตามๆ กันมาเลย ซีซั่นนี้ไม่มีกั๊กเรื่องตรงนี้ไว้อีกแล้วว่าใครเป็นพระเอกตัวจริง รวมถึงปัญหาที่จอร์เจียปิดบังไว้ทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาเกลี้ยง ซึ่งยากจะเคลียร์ได้ แต่ซีรีส์ก็หาทางจบมันลงได้อย่างง่ายๆ แต่ก็ลงตัว โดยที่การจบตรงนี้ก็ได้สร้างปัญหาที่ใหญ่กว่าขึ้นมาในครอบครัวนี้ต่อไป ซึ่งซีรีส์ได้ไฟเขียวทำต่อเนื่องตั้งแต่แรก ก็หวังว่าจะได้ดูต่อกันเร็วๆ เพราะคุณภาพมาตรฐานบทของเรื่องนี้ยังไม่มีตกลงเลยครับ