playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว BEEF คนหัวร้อน ซีรีส์แก้แค้นที่แสบสัน โหด มันส์ ฮา แต่แฝงดราม่าน้ำดีไว้ด้วย

Summary

นี่คือซีรีส์ที่บทยังคงสไตล์ติดอินดี้นิดๆ ของค่าย A24 ไว้ได้เหมือนเดิม แต่การดำเนินเรื่องดูง่าย เป็นไปด้วยความสนุกแบบที่ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย และยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้ ตลกร้ายแบบฉลาดๆ ที่รับรองเลยว่าผู้ชมต้องขำสะใจไปกับฉากการแก้แค้นที่แสบสันของทั้งคู่ ที่มีปมเชื้อชาติจีนกับเกาหลีไม่ถูกกันเข้ามาเกี่ยวพันด้วย จนกลายเป็นโศกนาฎกรรมความรุนแรงเกินจากต้นเหตุของเรื่องไปมาก แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ยังสามารถหาทางลงที่จบได้สวย เป็นบทเรียนที่เหมือนเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของทุกคนด้วยเช่นกันครับ

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
3.33 (6 votes)

Pros

  • ผลงานจากค่าย A24
  • ดราม่าแก้แค้นดาร์คคอมเมดี้
  • นักแสดงเล่นได้ดีมาก
  • เดินเรื่องด้วยตัวละครเอเชียเป็นหลัก
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • บางครั้งการเล่าเรื่องดูอินดี้ชวนงงนิดๆ

BEEF คนหัวร้อน ซีรีส์ Netflix 10 ตอนจบสมบูรณ์ มีพากย์ไทย จากค่าย A24 เรื่องราวของคนสองคนปล่อยให้เหตุการณ์เดือดดาลบนท้องถนนฝังลึกอยู่ในจิตใจของพวกเขา จนค่อยๆ กลืนกินทุกความคิดและการกระทำ ที่นำไปสู่หายนะของพวกเขาและคนรอบตัวในที่สุด
Beef (2023) on IMDb

ตัวอย่าง BEEF คนหัวร้อน

 

BEEF รีวิว (ไม่มีสปอยล์)

ดูเหมือนค่าย A24 จะติดใจกับการกำกับเนื้อเรื่องตัวละครชาวเอเชียที่มาอยู่ในอเมริกา เพราะนี่ก็เป็นอีกผลงานต่อจากหนังเรื่อง Everything Everywhere All At Once  ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส ที่พึ่งได้ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2023 มา โดยแทรกประเด็นอุปสรรคการใช้ชีวิตของชาวเอเชียเติบโตในอเมริกาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังคงมีประเด็นเหล่านี้แทรกมาด้วยเหมือนเดิม

ตัวเรื่องยังใช้ตัวเอกเป็นสาวจีน เอมี่ (แสดงโดย Ali Wong) ประกบคู่กับหนุ่มเกาหลี แดนนี่ โชว (แสดงโดย Steven Yeun) และมีสามีของเอมี่เป็นคนญี่ปุ่นเพิ่มมาอีกคน เท่ากับเรื่องนี้มีตัวเอกเอเชียที่ต่างเชื้อชาติ และยังเป็นเชื้อชาติที่มีความขัดแย้งกันทางประวัติศาสตร์จนมาถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นความเกลียดชังลึกๆ ที่แฝงอยู่ข้างใน แม้ว่าทั้ง 3 คนจะใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาก็ตาม ซึ่งปมขัดแย้งเล็กๆ พวกนี้เป็นแค่เชื้อไฟเสริมเรื่องหลักที่เกิดจากเอมี่กับโชวขับรถไล่บี้กันบนถนน จนลามไปถึงการล้างแค้นด้วยการสืบหาตัวตนของอีกฝ่าย ก่อนเริ่มกลั่นแกล้งเล็กๆ แค่เอาสะใจระบายอารมณ์ แต่กลับทำให้เรื่องยิ่งบานปลายหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ลุกลามใหญ่โตเกินที่ทั้งคู่จะควบคุมเรื่องนี้ไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ต้องมารับเคราะห์ไม่ได้มีแค่ทั้งคู่ แต่เป็นคนรอบข้างที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รู้เรื่องราวแล้วซวยไปด้วยทั้งสองฝ่าย

 

สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีคือการเขียนบทที่ค่อยๆ ใส่เหตุผลของทุกการกระทำให้ผู้ชมเชื่อตามได้เป็นลำดับขั้นตอนของเรื่องราวที่ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ แบบที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรต่อไปด้วย จนเหมือนเป็นเหตุโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง ซึ่งคดีฆ่ากันตายหรือทำร้ายร่างกายจากเหตุขับรถมีเยอะจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตจริงอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เอามาขยายเล่นเพิ่มเติมให้เห็นรายละเอียดในทุกแง่มุมต่างๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นจากชนวนเหตุเล็กๆ ที่มีสภาพจิตใจ สถานะทางสังคม จังหวะชีวิตที่ผิดพลาด และปมในจิตใจตั้งแต่วัยเด็กที่ส่งผลให้ตัวตนในวัยผู้ใหญ่กลายเป็นคนที่มีแนวโน้มควบคุมอารมณ์ไม่ได้ สติหลุดง่าย มักใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา แต่แค่ที่ผ่านมาอาจจะไม่เจอกับจังหวะนรกในชีวิตเท่านั้น 

 

ถึงเรื่องนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เกลียดชัง และการจองเวรล้างแค้นกันไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องแนวเครียดซีเรียส กลับเป็นแนวตลกร้ายชวนหัวเราะไปกับความแสบของตัวละครในทุกตอน แม้เรื่องจะมีจุดที่ดิ่งลงจนดาร์คมากแค่ไหนก็ยังแฝงไว้ด้วยตลกร้ายให้หลุดขำออกมาได้ง่ายๆ แน่นอน เพราะมุกตลกเหล่านี้ยิงมาแบบคาดไม่ถึงทุกที แล้วได้ผลแทบทุกครั้ง แถมเป็นมุกตลกที่ฉลาด ไม่ใช่ตลกแบบดาดๆ หรือพวกเดอร์ตี้โจ๊กเล่นมุก 18+ อะไรแบบนั้น

 

และแน่นอนว่าตัวนักแสดงเองก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเอกทั้งคู่ถ่ายทอดอารมณ์หัวร้อน สนุก สะใจ เมามันส์ไปกับการกระทำของตัวเอง เหมือนคนป่วยโรคจิตอ่อนๆ ที่แฝงตัวใช้ชีวิตแบบคนปกติ และยังมีปมดราม่าชีวิตครอบครัวของทั้งคู่ที่ชวนรันทดหดหู่ แต่ก็มีมุมดีๆ ที่ชวนซึ้งแทรกไว้ในเรื่องอยู่ด้วย

 

สรุปโดยรวมนี่คือซีรีส์ที่บทยังคงสไตล์ติดอินดี้นิดๆ ของค่าย A24 ไว้ได้เหมือนเดิม แต่การดำเนินเรื่องดูง่าย เป็นไปด้วยความสนุกแบบที่ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย และยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้ ตลกร้ายแบบฉลาดๆ ที่รับรองเลยว่าผู้ชมต้องขำสะใจไปกับฉากการแก้แค้นที่แสบสันของทั้งคู่ ที่มีปมเชื้อชาติจีนกับเกาหลีเข้ามาเกี่ยวพันด้วย จนกลายเป็นโศกนาฎกรรมความรุนแรงเกินจากต้นเหตุของเรื่องไปมาก แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ยังสามารถหาทางลงที่จบได้สวย เป็นบทเรียนที่เหมือนเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของทุกคนด้วยเช่นกันครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!