playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bloodhounds Netflix แอ็กชั่นดุเดือดเข้มข้นต่อเนื่องไม่มีหยุด!

Bloodhounds

Summary

ซีรีส์เกาหลีที่มีความแปลกใหม่โดดเด่น เอาเรื่องของนักมวยมาใช้สร้างฉากแอ็กชั่นบู๊ดุเดือดนอกสังเวียนได้อย่างสนุกตื่นเต้นต่อเนื่อง เดินเรื่องกระชับไม่มียืดเยื้อออกนอกเรื่อง ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยความเข้มข้นของเรื่องราวศึกสงครามแก๊งอาชญากรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบ ที่มีการผูกปมเรื่องเข้ากับกลุ่มแชโบลจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตน่าติดตาม และยังแทรกเรื่องราวดราม่าการใช้ชีวิตแง่บวกเข้าไปในเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังได้เป็นอย่างดี ทำให้โทนเรื่องที่ดุเดือดมีช่วงที่ละมุนอบอุ่นหัวใจ ดูแล้วกลมกล่อมครบเครื่องทุกอารมณ์มาก แต่ก็ไปมีปัญหาช่วงท้ายเรื่องจากนักแสดงถอนตัวทำให้บทถูกแก้ใหม่ จนดูลวกๆ แล้วออกมาไม่ดีเท่าไหร่นักกับช่วงท้ายของเรื่องนี้ครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • อัดแน่นด้วยฉากต่อสู้สนุกตื่นเต้น
  • เดินเรื่องกระชับไม่มียืดเยื้อออกนอกเรื่อง
  • มีส่วนผสมของอารมณ์อบอุ่นฟีลกู๊ด
  • นักแสดงฟิตหุ่นเข้าถึงบทบาท
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ฉากต่อสู้มีความโอเว่อร์เกินจริงค่อนข้างเยอะ
  • ตอนท้ายเรื่องบทดูลวกๆ

Bloodhounds ซีรีส์เกาหลี Original Netflix 8 ตอนจบ เรื่องราวของสองหนุ่มนักชกผนึกกำลังกับเถ้าแก่ปล่อยเงินกู้ใจบุญ เพื่อโค่นล้มแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสุดโหด
Bloodhounds (2023) on IMDb

 

รีวิวซีรีส์เกาหลี Bloodhounds (ไม่มีสปอยล์)

ซีรีส์ที่สร้างมาจากเว็บตูน แนวแอ็กชั่นอาชญากรรม ที่เดินเรื่องด้วยตัวละครหนุ่มวัยรุ่นนักชกมวย 2 คน ที่หลงเข้ามาในโลกอาชญากรรมของแก๊งเงินกู้นอกระบบ แล้วก็ค่อยๆ ต่อยอดเรื่องราวจากจุดนี้ให้ลึกขึ้นไปเรื่อยๆ ได้อย่างเข้มข้น ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานศิลปะการต่อสู้ชกมวยกับกีฬาแนว MMA เข้ามาไว้ในเรื่องด้วย ซึ่งเรื่องราวทั้งสองส่วนนี้ผสมผสานไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี

ตัวเรื่องเริ่มต้นปูพื้นเรื่องราวของแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ หลอกเหยื่อเข้ามาติดกับกลโกงจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ก่อนข่มขู่รีดเงินจากเหยื่อด้วยดอกเบี้ยสุดโหด ที่น่าจะมีเรื่องแบบนี้กันทุกที่ทั่วโลก และเหยื่อคือคนทำมาหากินทั่วไป แต่เรื่องนี้สร้างให้แก๊งนี้ใหญ่โตไปกว่านั้นด้วยการให้เหยื่อคือ แชโบล (Chaebol) ก็คือตระกูลเศรษฐีที่มีอิทธิพลครอบงำธุรกิจเกาหลีใต้ ซึ่งปกติซีรีส์เกาหลีมักนำมาสร้างเป็นตัวร้ายเสมอ แต่เรื่องนี้แชโบลกลับกลายเป็นเหยื่อที๋โดนทั้งขูดรีดและแบล็คเมล์ โดยมีเบื้องลึกเป็นแผนการร้ายที่ช่วยขยายสเกลเรื่องให้ใหญ่โตขึ้นถึงระดับชาติได้อย่างน่าติดตาม 

ในเรื่องนี้ยังมีแก๊งเงินกู้นอกระบบฝ่ายดี เป็นมหาเศรษฐีใจบุญที่ปล่อยกู้แบบไม่มีดอกเบี้ยช่วยคนเดือดร้อน ซึ่งตัวเรื่องก็ค่อยๆ ผูกเรื่องให้ตัวเอกนักมวยหนุ่มทั้ง 2 คนให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เป็นการเปิดศึกสงครามกับฝ่ายแก๊งตัวร้าย ที่มีปมความแค้นในอดีตซ่อนอยู่ มีตัวละครนักฆ่าประจำแก๊งทั้งสองฝ่ายที่เซ็ตแบ็คกราวด์มาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวละครเหล่านี้มีความลึก มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันทุกคน การต่อสู้ก็ใช้ความดิบเถื่อนสู้แบบตัวๆ ไม่มีปืน มีแต่มีด และอาวุธประชิดตัว ทำให้โลกอาชญากรรมในเรื่องดูเข้มข้นเหมือนแนวยากูซ่าของญี่ปุ่นมาก และยังเป็นแนวทางการเดินเรื่องหลักแบบนี้ทุกตอนต่อเนื่องไปจนจบ โดยที่ไม่มีเขวออกนอกทางไปเล่าเรื่องอื่นเลยแม้แต่น้อย  ทำให้เรื่องกระชับน่าติดตาม ทุกตอนจะจบลงด้วยไคลแม็กซ์ค้างไว้ ทำให้ต้องดูต่อเนื่องกันตลอด ดูแล้วเบรคหยุดดูไม่ได้แน่นอน

แต่สิ่งที่โดดเด่นของเรื่องคือการสร้างตัวพระเอก 2 คนเป็นนักมวยคนละสไตล์ ผูกสัมพันธ์กันผ่านการชกมวย จากคู่ชกกลายมาเป็นพี่น้อง ซึ่งเรื่องสร้างอารมณ์ร่วมในส่วนนี้ได้ดีด้วยเวลาสั้นๆ และยังใช้การต่อยมวยเป็นเอกลักษณ์หัวใจหลักของฉากแอ็กชั่นทั้งเรื่อง ซึ่งทำออกมาดูสนุก ตื่นเต้น เหมือนเอานักชกพรสวรรค์เก่งๆ มาต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรมที่มีอาวุธเป็นมีด ไม้ ได้อย่างดุเดือด แม้จะโอเว่อร์ไปบ้าง แต่ก็อยู่ในจุดที่พอยอมรับได้ โดยมีพัฒนาการของการต่อสู้ขึ้นไปเรื่อยๆ มีทั้งแพ้แล้วไปฝึกมาใหม่ อัพเวทน้ำหนักตัว สร้างกล้ามเนื้อกับน้ำหนักหมัดมากขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งนักแสดงที่รับบทนี้ทั้งคู่ก็ฟิตหุ่นมีกล้ามจนดูสมจริงมาก ตัวร้ายก็ยังมีพวกที่ฝึกการต่อสู้อย่าง MMA มาด้วย มีการใช้ท่ากอดรัดต่อสู้กับนักมวยแก้ทาางกัน ซึ่งเป็นการใช้แนวศิลปะการต่อสู้ผสมผสานลงไปในเรื่องราวเมโลดราม่าได้อย่างลงตัวมาก 

แม้ทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ดุเดือดกันทุกตอน แต่ก็ยังใส่แนวเรื่องดราม่าอบอุ่นเยียวยาใจสไตล์เกาหลีลงไปได้ ตัวละครฝ่ายพระเอกเต็มไปด้วยคนดี มีความคิดการดำเนินชีวิตแง่บวก ตัวพระเอกใสซื่อจริงใจ แต่ก็พร้อมสู้กับความอยุติธรรม ส่วนนี้ทำให้เรื่องดูกลมกล่อมน่าติดตามเอาใจช่วยตัวละครเหล่านี้มากขึ้นไปอีก

แม้ตัวเรื่องจะทำได้ดีน่าติดตามมาตลอด แต่ก็ไปมีปัญหาเอาช่วงท้ายตั้งแต่ตอน 7-8 ไป ตัวเรื่องหลุดธีมจากความเข้มข้นซีเรียสจริงจังที่ดำเนินมาตลอด ขนาดพาผู้ชมให้อารมณ์ดิ่งลงตามเหตุการณ์เลวร้ายในเรื่องได้  ตั้งแต่ตอน 7 ไปกลายเป็นแนวเบาๆ ทุกอย่างดูง่ายๆ ไปหมด บทดูเหมือนเขียนออกมาลวกๆ ผิดกับช่วงก่อนนี้ลิบลับ ซึ่งปัญหาหลักน่าจะมาจากการที่นักแสดงหลัก  Kim Sae Ron ที่เป็นเหมือนนางเอกของเรื่องโดนคดีเมาแล้วขับ จนทำให้ต้องถอนตัวออกจากซีรีส์นี้ไปกลางคัน ซึ่งบทของเธอก็ทำให้เรื่องนี้ดูมีมิติสดใสขึ้นมาก บทในช่วงหลังนี้จึงเขียนขึ้นมาใหม่แบบตัดบทเธอออก แม้จะพยายามทำให้ดูสมเหตุผล แต่ก็ยังรู้สึกแปลกที่อยู่ๆ ก็หายไปจนจบเรื่องเลยครับ 

 

โดยรวมเป็นซีรีส์เกาหลีที่มีความแปลกใหม่โดดเด่น เอาเรื่องของนักมวยมาใช้สร้างฉากแอ็กชั่นบู๊ดุเดือดนอกสังเวียนได้อย่างสนุก ตื่นเต้น ใครมองหาซีรีส์เกาหลีแนวใหม่ๆ แนะนำเลยว่าควรค่าแก่การดูครับ

 

Including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!