playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Cherry ทอม ฮอลแลนด์ ตีบทแตกกระจุย จากทหารผ่านศึกขี้ยา กลายมาเป็นโจรปล้นธนาคาร

Cherry

สรุป

งานหนังดราม่าคุณภาพ โปรดักชั่นงานสร้างสงครามสมจริง คุณภาพสมกับพี่น้องรุสโซ่มาทำ จะติดก็แค่บทในช่วงท้ายของเรื่องที่เกินจริงไปหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าใครชอบทอม ฮอลแลนด์ ที่มาในแบบหลายบทบาทหลายช่วงอายุ ชอบงานดราม่าหนักๆ เสียดสีสังคมอเมริกันช่วงสงครามอิรัก โดยมีตลกร้ายผ่อนคลายเรื่องเป็นระยะๆ ก็ดูได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ทอม ฮอลแลนด์ในบทหลากหลายช่วงอายุที่มีชีวิตแตกต่างกันมาก
  • ผลงานกำกับของพี่น้องรุสโซ่
  • ฉากสงครามในอิรักสมจริง
  • เรื่องราวปัญหาของทหารผ่านศึกกับโรค PTSD
  • เล่าเรื่องแบ่งเป็นแชปเตอร์ในแต่ละยุคสมัยแตกต่างกัน
  • หนังแนวเสียดสีสังคมผสมตลกร้าย ผ่านการเล่าเรื่องในแบบให้ตัวเอกหันมาสื่อสารกับผู้ชมตรงๆ

Cons

  • บทช่วงพระเอกเป็นโจรปล้นธนาคารทำออกมาง่ายมากจนไม่น่าเชื่อ
  • ความยาวของเรื่องสองชั่วโมงกว่า ลากยาววนเวียนกับปัญหาดราม่าของพระเอกซ้ำๆ ก็อาจจะดูน่าเบื่อบ้าง
  • นางเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์น่าติดตามกับเรื่องสักเท่าไหร่

Cherry หนังดราม่าชีวิตทหารผ่านศึกตะวันออกกลาง ที่กลายมาเป็นโจรปล้นธนาคารหาเงินซื้อยาเสพติด จากฝีมือกำกับของพี่น้องรุสโซ่ ได้ดารานำ ทอม ฮอลแลนด์  มาเล่นเป็นตัวเอก

 Cherry (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Cherry

หนังของแอปเปิลทีวีพลัสเรื่องใหม่ ที่มาตามสไตล์โปรเจ็กต์งานสร้างดีลกับผู้กำกับดัง ดาราดังของฮอลลีวู๊ด เรียกว่าสตรีมมิ่งของแอปเปิลแม้หนังกับซีรีส์จะยังน้อย แต่ก็น้อยแบบเน้นคุณภาพโฟกัสไปคุณภาพงานระดับฉายโรง แต่มาลงในระบบสตรีมมิ่งแทน

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องอยู่ในยุคช่วงสงครามอิรัก เมื่อปี 2003-2011 ที่อเมริกาส่งทหารไปรบมากมาย ทอม ฮอลแลนด์รับบทเป็น Cherry ชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง เด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยมีอะไรในชีวิตมาก มีแฟนสาวอย่าง เอมิลี่ (เล่นโดย Ciara Bravo) แต่เธอกลับหักอกเขาด้วยการบอกว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เขาตัดสินใจไปเป็นทหาร แต่กลายเป็นว่าเขากลับต้องพบกกับนรกที่นั่น แม้รอดตายมาได้ กลายเป็นฮีโร่ทหารผ่านศึก แต่ก็กลายเป็นโรค PTSD ตามมา ฝันร้ายหรือเห็นภาพหลอนคนตายในสงครามอยู่บ่อยๆ จนต้องพึ่งพายาเสพติด แม้เขาจะได้เอมมิลี่กลับมาแต่งงานด้วยกัน แต่กลับพาให้ชีวิตเธอลงเหวตามไปด้วย จนสุดท้ายต้องกลายเป็นโจรปล้นธนาคารไปในที่สุด

ตัวหนังถูกเล่าออกมาเป็นแชปเตอร์ มีเนื้อหาแยกกันเป็นส่วน แต่บทนำเริ่มเรื่องคือพระเอกกลายเป็นโจรปล้นธนาคารแล้ว และเขาก็เล่าเรื่องราวตัวเองย้อนกลับมาให้ผู้ชมฟัง ในแบบที่ไม่ได้ซีเรียสมาก มีอารมณ์ตลกร้ายจิกกัดชีวิตสภาพสังคมในแต่ละยุคอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆ แนวหนังแบบเดดพูลที่ตัวเอกหันมาคุยกับคนดูได้แบบนั้น และตอนที่พระเอกหันมาเล่าให้ผู้ชมฟัง บางครั้งก็จะหยุดฟรีซตัวละครอื่นๆ กับสภาพรอบข้างไว้ ซึ่งทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่หนังดราม่าเครียดๆ ซีเรียส หนักๆ เต็มร้อย แม้ชีวิตของพระเอกจะบัดซบมากจริงๆ ก็ตาม

ตัวเรื่องทำมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของ  Nico Walker เมื่อปี 2018 ตัวเนื้อหาก็อ้างอิงมาจากสภาพชีวิตจิตใจของทหารผ่านศึกจริงๆ ที่มักเป็นโรค PTSD กัน และไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกเลย จนทหารจำนวนมากเลือกฆ่าตัวตาย ไม่ก็กลายเป็นผู้ป่วยติดยากล่อมประสาท แต่ในกรณีของเรื่องนี้ตัวเอกกลายเป็นผู้ติดยาเสพติดหนัก เพราะเหตุจากที่ยากล่อมประสาทไม่สามารถแก้ปัญหา PTSD ให้เขาได้ จากทหารมีหน้ามีตากลายเป็นไอ้ขี้ยาที่เสี่ยงปล้นธนาคารเพื่อมาซื้อยาเสพให้ทั้งตัวเองและกับแฟนสาว ก็ต้องบอกเลยว่าทอมตีบทแตกจริงๆ แม้แรกๆ อาจจะขัดใจกับใบหน้าเด็กของเขาอยู่บ้าง แต่พอเรื่องดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ในแต่ละยุค ตั้งแต่วัยรุ่นไม่มีเป้าหมายในชีวิต จนมาเป็นทหาร มาถึงขี้ยา และจบด้วยคนคุก ทอมเปลี่ยนสภาพตัวเองไปตลอดเวลาของเรื่องได้สมจริง และยังแสดงได้เหมือนจริงๆ จนเชื่อได้เลยว่าบทนี้เขาคือขี้ยาที่หมดทางเยียวยาได้แล้วจริงๆ แต่สุดท้ายเรื่องก็ทำให้เห็นว่าไม่มีใครที่กลับใจไม่ได้ บทสรุปของเรื่องในคุก ทอมในสภาพแก่ลงไปมาก มีหนวด ม่ีหน้าตากร้านโลกขึ้นจนกลายเป็นอีกคน ซึ่งถ้าใครไม่เคยเห็นทอมรับบทหนักๆ แตกต่างจากรูปร่างหน้าตาเด็กของเขา เรื่องนี้คือบทพิสูจน์ว่าทอมสามารถรับบทหลากหลายช่วงอายุและเล่นได้จริงๆ แบบไม่ขัดตาอะไรมาก (ยกเว้นส่วนสูงของเขาที่เตี้ยไม่เปลี่ยน)

ด้วยความที่หนังเล่าเรื่องผ่านหลายยุค ความยาวในเรื่องจึงมากตามไปด้วยถึง 2 ชั่วโมง 22 นาที แม้เรื่องไม่ได้อืดหรือมีช่วงเนิบนาบอะไรมาก แต่ก็รู้สึกว่าจริงๆ ควรกระชับมากกว่านี้ เพราะตัวเรื่องค่อนข้างเล่าวนเวียนอยู่แต่ปัญหาความรักของพระเอกที่รักแฟนมาก แต่กลับทำตัวแย่ๆ เพราะโรค PTSD เรื้อรัง แต่จุดที่ผู้เขียนติดใจรู้สึกอยากตำหนิมากสุดคงเป็นช่วงที่พระเอกออกปล้นธนาคารต่อเนื่อง ตัวบททำให้การปล้นธนาคารดูง่ายมากจนในเรื่องพระเอกยังบอกเองว่าเหมือนแค่ไปหยิบตังออกมา ซึ่งตัวผู้กำกับอาจจะต้องการเล่าเรื่องนี้ในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจให้สมจริงมากอยู่แล้ว ดูจากสไตล์การเล่าที่ให้ตัวเอกหันมาพูดบอกเล่าคนดูอยู่แม้แต่ตอนปล้นธนาคาร ซึ่งถ้าผู้ชมที่ไม่ได้คิดมาก ส่วนนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรของเรื่อง แต่สำหรับผู้เขียนรู้สึกว่าผู้กำกับเทน้ำหนักให้ช่วงปล้นต่อเนื่องยาวนานจนเกินไป เรียกว่าพระเอกออกปล้นง่ายๆ เป็นสิบครั้งก็ไม่มียามสู้หรือตำรวจติดตามตัวมาได้เลย มันทำให้เรื่องดูแปลกๆ จนเหมือนว่ากำลังดูหนังที่ตัวพระเอกไม่ต้องสนใจหรือมารับกรรมกับผลการกระทำที่เกิดขึ้น สุดท้ายบทก็โยนให้ตัวเอกถูกจับในแบบที่ถูกบีบคั้นจากแก๊งยาเสพติดที่มาทวงหนี้แทน กลายเป็นทางออกง่ายๆ ตอนท้ายเรื่องไปแบบไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่

แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นหนังงานหนังดราม่าคุณภาพที่ลงสตริ่มมิ่งด้วยโปรดักชั่นงานสร้างสงครามสมจริง คุณภาพสมกับพี่น้องรุสโซ่มาทำ จะติดก็แค่บทในช่วงท้ายของเรื่องที่เกินจริงไปหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าใครชอบทอม ฮอลแลนด์ ที่มาในแบบหลายบทบาทหลายช่วงอายุ ชอบงานดราม่าหนักๆ เสียดสีสังคมอเมริกันช่วงสงครามอิรัก โดยมีตลกร้ายผ่อนคลายเรื่องเป็นระยะๆ ก็ดูได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

ติดตามอ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์ใน Apple TV+ คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!